17 มี.ค. 2022 เวลา 05:00 • กีฬา
วิเคราะห์หลังเกม! ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ
'ไลน์อัพ'
มาในระบบ 4-3-3
ตัวจริง: อาลิสซง เบ็คเกอร์,เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เวอร์จิล ฟานไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก อัลคันทารา, ซาดิโอ มาเน่, ดิโอโก้ โจต้า และ หลุยส์ ดิอาซ
สำรอง:ควีวิน เคลเลเฮอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์,โรแบร์โต เฟียร์มิโน่, นาบี เกอิตา, อิบราฮิมา โกนาเต, โจ โกเมซ, เคอร์ติส โจนส์, ทาคุมิ มินามิโนะ และ อเล็กซ์ อ๊อกเลด-แชมเบอร์เลน
"ขาประจำทั้ง 2"
ไม่กี่นาทีต่อมาหลังจากที่ติอาโก้เกือบสร้างความผิดพลาดมหันต์ เค้าแทงบอลทะลุช่องที่มีน้ำหนักอย่างสมบูรณ์แบบให้กับโจต้าที่วิ่งอ้อมหลังระหว่าง เซดริก โซอาเรสและเบน ไวท์ เพื่อให้กองหน้าชาวโปรตุเกสวัย 25 ปี ยิงยัดเสาแรกเข้าไป ส่งผลให้วิถีเกมเปลี่ยนมาเป็นของลิเวอร์พูล
เปลี่ยนตัวลงสนามไม่ถึง 10 นาที โรแบร์โต เฟียร์มิโน่งัดบอลเข้าไปยังมุมเสาไกลแบบนิ่มๆและวิ่งตรงเข้าไปเฮกับเหล่าแฟนๆ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความรักที่เค้ามีให้ต่อสโมสรเสมอมา
การทำประตูทั้ง 2 ลูกนี้หวังว่าจะเรียกความมั่นใจและความคมของโจต้าและ เฟียร์มิโน่กลับมาได้ หลังจากที่ทั้ง 2 ตัวรุกได้รับอาการบาดเจ็บและขาดความสม่ำเสมอในการลงเล่น
"แมน ออฟ เดอะ แมตช์"
ร็อบโบ้รับมือกับซาก้าได้อย่างยอดเยี่ยมและพยายามสร้างเกมรุกทุกครั้งเมื่อเค้าชนะดวล 1-1ได้ ความปราถนาอันแรงกล้าและความทะเยอทะยานของแบ็คซ้ายรายนี้ทำให้เค้าแอสซิสต์ลูกที่ 2ให้กับทีมได้ ส่งผลให้แอนดรูว์ โรเบิร์ตสันทุบสถิติใหม่แอสซิสต์ 50 ลูก ในอาชีพการค้าแข้งให้กับหงส์แดง
ชัยชนะเหนือปืนใหญ่ อาร์เซน่อลเมื่อเช้าวันนี้ทำให้ลิเวอร์พูลตามหลังแมนฯซิตี้เพียงแต้มเดียวเท่านั้น หากใครจำกันได้เมื่อต้นปี หงส์แดงของพวกเรายังตามหลังเรือใบสีฟ้ามากกว่า 10 แต้ม จนเรียกได้ว่าลีกมันจบลงแล้ว แต่มาในวันนี้พวกเราสามารถเก็บชัยชนะได้ในทุกๆนัด เดินไปทีละก้าวและโฟกัสไปทีละเกม จนไล่บี้สร้างความกดดันให้คู่ปรับตลอดกาลตกอยู่ที่นั่งลำบาก
หลังจากเกม เอฟเอ คัพและการรับใช้ทีมชาติ มันขึ้นอยู่กับลิเวอร์พูลแล้วว่าจะรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมนี้ได้ไปจนจบฤดูกาลหรือไม่
โฆษณา