Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วณิพก ยกมาเล่า
•
ติดตาม
21 มี.ค. 2022 เวลา 11:08 • ประวัติศาสตร์
จากเล่าปัง ถึงชีซี : ยึดพ่อยึดแม่ และการแก้อุบาย
ความตามวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์ชิดก๊ก ไซ่ฮั่น และ สามก๊ก
เมื่อได้อ่านวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์สามก๊ก ถึงตอนที่โจโฉใช้อุบายให้ชีซีกุนซือของเล่าปี่มาอยู่ฝ่ายตน หลายคนต่างก็ตั้งคำถามว่ามีการทำอย่างนี้จริงหรือ ในสำหรับตอนนี้วณิพกไม่ได้มาค้นหาความจริงทางประวัติศาสตร์ แต่จะพุ่งความสนใจไปที่วิธีการแก้ไขปัญหาเมื่อเจอกับอุบายเช่นนี้ของกุนซือแต่ละคน เพราะเมื่อย้อนกลับไปกว่า 400 ปี ตามวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์อีกเล่มหนึ่ง ชิดก็ก ไซ่ฮั่น ที่บรรยายเรื่องราวสมัยก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นของเล่าปัง หรือฮั่นโกโจ เราจะมาดูกันว่า ผู้มีปัญญาของสกุลเล่าทั้งสองฝ่ายจะแก้ไขปัญหาอย่างไรกันบ้าง
ฝ่ายแดง กุนซือของเล่าปัง จางเหลียง และเฉินผิง ฝ่ายน้ำเงิน ชาวนาที่ชื่อว่าขงเบ้ง และชินแสแว่นน้ำ สุมาเต็กโช ไม่ได้มาเทียบว่าใครดีกว่าใคร แค่มาเล่าให้ฟังและนำไปคิดกันเอง ก่อนอื่นเราไปฟังเรื่องราวของฝ่ายแดงกันก่อนครับ
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยปลายราชวงศ์ฉิน เมื่อสิ้นจิ๋นซีฮ่องเต้แล้ว ความกดดันทั่วเเผ่นดินก็ได้ปะทุขึ้น เกิดกบฏขึ้นทั่วแผ่นดิน หนึ่งในกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดคือกองกำลังฉู่ของเซี่ยงเหลียง ได้ตั้งฮ่องเต้ฉู่ขึ้นมาเพื่อชูธงปราบราชวงศ์ฉิน แบ่งกองทัพออกเป็นสองกอง คือฝ่ายเล่าปัง พันนายบ้านที่ตั้งตัวรวมสมัครพรรคพวกขึ้นต่อสู้ฉิน กับเซี่ยงวี่ นักรบหนุ่มที่มีกำลังกล้าแข็งที่สุดในแผ่นดิน โดยให้สัญญาว่า ใครบุกเข้าเสียนหยางเมืองหลวงแคว้นฉินได้ก่อน จะตั้งให้เป็นอ๋อง ปรากฏว่าฝ่ายของเล่าปังสมารถกรีฑาทัพเข้าเสียนหยางได้ก่อนอย่างง่ายดายเพราะใช้บารมีและชื่อเสียงที่โอบอ้อมอารีคล้าย ๆ เล่าปี่ในสมัยสามก๊ก
ส่วนฝ่ายเซี่ยงวี่ที่สู้รบด้วยกำลังหักหานเข้ามาเป็นอันดับสองก็ไม่พอใจ ถึงขั้นจัดงานเลี้ยงที่หงเหมินหมายสังหารเล่าปังโดยลืมไปว่าเคยสาบานว่าเป็นพี่น้อง แต่เล่าปังก็สามารถเอาตัวรอดมาได้ ตามที่เคยเล่าไว้ในคลิปด้านบน เล่าปังจึงจำต้องไปอยู่ในดินแดนโปต๋ง ที่ว่าทุรกันดาลในเสฉวน ยกเสียนหยางให้กับเซี่ยงวี่
แต่นั่นกลับกลายเป็นโอกาสอันดีให้เล่าปังสะสมกำลังพล และได้หานซิ่นแม่ทัพใหญ่ ยกกลับมารบกับเซี่ยงวี่ในภายหลัง แต่อย่าลืมว่า เล่าปังยกไปเสฉวนก็เป็นปัจจุบันทันด่วน ไม่ทันได้พาพ่อแม่และภรรยาตามไปด้วย ครอบครัวจึงต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของเซี่ยงวี่อย่างเสียมิได้ และนั่นก็เป็นไม้เด็ดของเซี่ยงวี่ ที่จะใช้ต่อรองเล่าปังเมื่อยามคับขัน แต่เหตุการณ์ต่อรองด้วยบุพการีได้เกิดขึ้นก่อน เป็นการที่ฝ่ายเซี่ยงวี่นำมารดาของแม่ทัพอ๋องหลิน หนึ่งในแม่ทัพที่มีฝีมือของเล่าปังที่มีอยู่ข้างกายในขณะนั้น เพราะตอนนั้นแม่ทัพใหญ่หานซิ่นได้รับคำสั่งไปปราบแคว้นเว่ย
แม่ทัพอ๋องหลินใช้กลเมืองร้างทำให้เซี่ยงวี่ชะล่าใจ ทะนงว่าตนมีกำลังมาก คิดว่าเล่าปังจะทิ้งเมืองไปเสีย จึงตั้งค่ายลงห่างเมืองร้อยเส้น แต่ไม่ได้ตรวจตราค่ายกวดขัน ถูกอ๋องหลินเข้าปล้นค่าย เสียทหารกว่าห้าหมื่นเศษ ฝ่ายเซี่ยงวี่จึงต้องใช้แผนสกปรก ไปจับเอาตัวมารดาของอ๋องหลินมา แล้วส่งข่าวว่า หากไม่ไปพบเซี่ยงวี่ จะสังหารมารดาอ๋องหลิน ความผิดจะตกที่อ๋องหลิน ฐานที่เป็นคนอกตัญญู อ๋องหลินผู้น่าสงสารจึงเข้าไปลาเล่าปัง จะไปพบหน้ามารดา ถึงมาตรว่าเซี่ยงวี่จะฆ่าตนก็ยอม ด้วยความกตัญญู
พลันจางเหลียงจึงพูดขึ้นว่า "อาจเป็นกลลวงของเซี่ยงวี่ ลวงท่านไปสังหารก็ได้ ควรท่านจะส่งคนไปขอลายมือมารดาให้แน่ใจเสียก่อนว่ามารดาท่านอยู่กับเซี่ยงวี่จริง แม้อยู่จริงดังนั้นแล้ว ท่านจะไปให้เซี่ยงวี่สังหาร คนทั้งปวงก็จะไม่นินทาว่าท่านเบาปัญญาถูกหลอกเอาได้" ดังนั้น ฝ่ายเล่าปังจึงส่งซกซุนถองไปสืบข่าวที่ค่ายเซี่ยงวี่ก่อน
เมื่อซกซุนถองเดินทางมาถึงค่ายเซี่ยงวี่ ก็ได้พบกับมารดาของอ๋องหลินจริง จึงกระซิบถามอย่างมีนัยว่า "ท่านหรือคือมารดาอ๋องหลิน จงเขียนจดหมายเป็นสำคัญ ข้าจะได้นำไปมอบให้แก่อ๋องหลิน เมื่ออ๋องหลินทราบจะได้เดินทางมาสามิภักดิ์ทำงานให้แก่เซี่ยงวี่ ท่านจะได้อยู่กันพร้อมหน้า" แม่ของอ๋องหลินได้ฟังเช่นนั้นก็โกรธ ด่าว่า "อ๋องหลินบุตรข้าได้รับใช้ฮั่นอ๋องก็ถือว่าเป็นบุญ ควรหรือจะให้มารับใช้ฌ้อปาอ๋องคนหยาบช้า พูดแล้วก็ชักเอากระบี่จากทหารเชือดคอตาย "
ฌ้าปาอ๋องเซี่ยงวี่เห็นดังนั้นก็โกรธ สั่งให้ตัดคอมารดาอ๋องหลินไปเสียบประจาน แต่ขุนนางห้ามไว้ว่า"ไม่มีประโยชน์อันใดนอกจากยั่วให้อ๋องหลินเจ็บแค้น ควรที่จะทำพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ สืบไปเมื่อหน้าอ๋องหลินขัดเคืองประการใดในฮั่นอ๋องเล่าปัง อ๋องหลินก็จะคิดถึงท่าน" พระเจ้าฌ้อปาอ๋องก็เห็นชอบด้วย จึงสั่งให้เอาศพมารดาอ๋องหลินไปฝังไว้ ณ บ้านเก่า แล้วพระเจ้าฌ้อปาอ๋องจึงว่าแกซกซุนถองว่า "ซึ่งมารดาอ๋องหลินฆ่าตัวเสียเองนั้น เรามีความกรุณาแก่อ๋องหลินทำศพให้แล้ว อย่าให้วิตกถึงศพมารดานั้นเลย"
ซกซุนถองได้ยินดังนั้นก็เข้าแผน เข้าไปกระซิบว่า "เราอาสามาทั้งนี้เพราะอยากมาทำราชการอยู่กับท่าน เราจะกลับไปเกลี้ยกล่อมอ๋องหลินให้มาอยู่กับท่านให้จงได้ พร้อมกับบอกว่า ทัพเล่าปังมีเสบียงสามารถยันทัพได้ถึงสองปี ระหว่างนี้หานซิ่นจะวกไปตีเมืองเเพเสียเมืองหลวงของท่าน ชิงเอาตัวครอบครัวเล่าปังออกมา" เซี่ยงวี่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจว่าจะเสียทีแก่หานซิ่นหากมัวแต่ล้อมเมืองไว้เช่นนี้
เมื่อซกซุนถองกลับมาก็บอกเนื้อความที่แม่อ๋องหลินฆ่าตัวตายให้ฟัง แต่ไม่บอกว่าเซี่ยงวี่ทำการศพให้แล้วอย่างสมเกียรติ ทำให้อ๋องหลินร้องไห้และโกรธเซี่ยงวี่ทวีคูณขึ้นไปอีก จางเหลียงและเฉินผิงก็ดำเนินการต่อไป โดยให้ตัดหัวนักโทษที่หน้าเหมือนอ๋องหลินและซกซุนถองไปประจานหน้าค่าย ประกาศว่าคนทั้งสองทรยศ ความรู้ไปถึงทัพเซี่ยงวี่ว่าซกซุนถองที่ว่าจะไปเกลี้ยกล่อมอ๋องหลินพลาดท่า ทั้งสองถูกฆ่าเสียแล้ว จึงปรึกษากับเหล่าทหารว่า "จะตั้งทัพอยู่ฉะนี้ก็ไม่ควร หากหานซิ่นวกมาตีเมืองหลวงก็จะเสียทีแล้วเจอศึกกระหนาบตามคำซกซุนถองว่า" ปรึกษาดังนั้นแล้วก็ถอยทัพกลับไป ต่อลมหายใจให้เล่าปังไปอีกเฮือกหนึ่ง
เป็นไงกันบ้างครับ ผลงานแรกของฝ่ายแดง นอกจากจะไม่เสียขุนพลสำคัญ ยังตลบซ้อนกลฝ่ายตรงข้ามให้ถอยทัพไปได้อีก แต่น่าคิดที่ความเย็นชาอำมหิตของจางเหลียงอยู่ไม่น้อยที่ใช้ชีวิตมารดาอ๋องหลินเป็นเครื่องมือไม่ต่างจากเซี่ยงวี่ หรืออาจจะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรเสียมารดาอ๋องหลินก็ย่อมฆ่าตัวตาย จึงใช้จุดนี้ปิดความที่เซี่ยงวี่คิดทำศพไม่ให้อ๋องหลินรู้ นับว่าเป็นการช่างน้ำหนักถูกผิด ช่วงใช้สถาณการณ์ได้อย่างเหมาะสม หรือบางคนอาจรู้สึก อำมหิตพอ ๆ กันก็ได้
วีรกรรมที่สองของฝ่ายแดง คือภารกิจที่ต้องชิงเอาครอบครับของเล่าปังมาจากดินแดนของเซี่ยงวี่ให้ได้ เพื่อที่เล่าปังจะสามารถรบกับเซี่ยงวี่ได้อย่างเต็มมือ
ต่อมาสถาณการณ์ของเซี่ยงวี่เริ่มเข้าตาจน เมื่อหานซิ่นยึดเว่ย จ้าว เยี่ยน และฉี ได้สำเร็จ ยังมีทัพหัวเมืองต่าง ๆ พร้อมล้อมเข้ามารบช่วยเล่าปัง ครั้นไปท้ารบตัวต่อตัวกับเล่าปังให้จบศึกเล่า ก็ไม่ยอม จงลิมวยแม่ทัพเซี่ยงวี่เสนอให้ไทก๋งผู้บิดาเล่าปังส่งหนังสือไปให้เล่าปังถอยทัพ ไทก๋งก็รู้เอาตัวรอด ทำด่าเล่าปังว่าอกตัญญูต่อบิดา แล้วเขียนเป็นหนังสือด่าเล่าปังให้คนใช้ถือไปให้เล่าปังถอยทัพ มิฉะนั้นบิดาจึงถูกสังหาร แม้ได้เป็นจ้าวแผ่นดิน คนทั้งเเผ่นดินก็หาสรรเสริญไม่ จางเหลียงเห็นดังนั้นก็กระซิบอุบายเล่าปังเสร็จสรรพ เมื่อคนถือหนังสือเข้ามา เล่าปังก็แกล้งเมา
ได้อ่านหนังสือผู้บิดาก็วิตกแต่ก็ขืนใจว่า "บิดามารดาของเราก็เหมือนบิดามารดาฌ้อปาอ๋องเพราะได้สาบานเป็นพี่น้องกันมาแต่ก่อน หากสังหารบิดาเราฌ้อปาอ๋องจะต้องคำนินทาจากคนทั้งแผ่นดิน ท่านจงกลับไปแจ้งความแก่บิดาว่าอยู่ค่ายฌ้อปาอ๋องก็เหมือนอยู่กับเรา ให้พระบิดาคอยอยู่ตามสบายใจ" ว่าแล้วก็ให้หญิงสาววัยใสมารับเข้าไปหลังม่าน เสพสุขต่อไปอย่างไม่สะทกสะท้าน
คนถือหนังสือเห็นดังนั้นก็ไม่รู้จะกลับไปรายงานอย่างไร จางเหลียงกับเฉินผิงจึงเข้าไปกำชับว่า "ฮั่นอ๋องมิได้ตรัสประการใด ท่านก็กลับไปรายงานตามที่ได้เห็นเถิด" คนถือหนังสือก็กลับมารายงานคำฮั่นอ๋องและกริยาอาการขี้เมาเคล้านารีทุกประการ ฌ้อปาอ๋องจึงว่า "เล่าปังเป็นคนชั่วกินแต่สุรา ซึ่งบิดาและภรรยานั้นไม่มีอาลัยเอื้อเฟื้อ ทิ้งไว้เหมือนหนึ่งท่อนฟืนแลสวะ" จึงเอาไทก๋งไปขังไว้ก่อน ยังไม่สังหาร
ต่อมาเซี่ยงวี่รบแพ้หานซิ่นก็เข้าตาจนอีก เอาไทก๋งมาเป็นตัวประกันอีก เล่าปังวิตกนัก จางเหลียงเฉินผิงจึงว่า "ไว้เป็นธุระข้าพเจ้าเถิด" ว่าดังนั้นแล้วก็ใช้สายลับถือหนังสือไปถึงเซี่ยงป๋อผู้อาเซี่ยง ที่เคยรู้จักสนิทจางเหลียงมาแต่ก่อน และเคยช่วยเล่าปังในงานเลี้ยงที่หงเหมินมาแต่ก่อน หนังสือนั้นเป็นใจความว่า "ซึ่งฮั่นอ๋องมาตั้งอยู่เมืองเซงโก๋เพราะไม่มีที่จะถอยไปอยู่ที่อื่น ถ้ากองทัพไม่ถอยไปฌ้อปาอ๋องจะเอาไทก๋งทอดน้ำมันเสีย ถ้าไทก๋งเป็นอันตรายไปข้างหน้า ท่านกับฮั่นอ๋องที่เคยรับคำว่าเป็นเกี่ยวดองกันนั้นจะมีหน้าไปหายังไรได้ จึงแต่งหนังสือมาให้ท่าน ถ้าฌ้อปาอ๋องจะทำโทษแก่ไทก๋งเมื่อใด ท่านจงช่วยทัดทานแก้ไขให้รอดชีวิต ทั้งไทก๋งก็ขอบคุณท่าน ฮั่นอ๋องก็ไม่เป็นอกตัญญู "
ต่อมา เซี่ยงวี่ก็ยกทัพมาตั้งหน้าทัพเล่าปัง ตั้งกระทะน้ำมันเดือด มัดไทก๋งไว้ริมกระทะ เรียกฮั่นอ๋องเล่าปังออกมาคุยกัน ฮั่นอ๋องได้ฟังดังนั้นรีบออกมาหน้าค่าย ร้องว่ากับฌ้อปาอ๋องว่า " เราได้สาบานเป็นพี่น้องกัน บิดาของเราก็เหมือนบิดาท่าน ถ้าจะฆ่าบิดาเรา ๆ จะขอเนื้อสักชิ้นหนึ่งพอได้เป็นแกล้มสุรา" ทำกิริยาเป็นไม่มีอาลัยว่าแล้วก็หัวเราะ พระเจ้าฌ้อปาอ๋องได้ฟังดังนั้นก็โกรธ สั่งให้เอาไทก๋งทอดน้ำมันเสีย
เซี่ยงป๋อซึ่งรับงานมาจึงทูลว่า "ฮั่นอ๋องไม่มีอาลัยถึงบิดา ด้วยหมายแต่จะชิงสมบัติเป็นการใหญ่ ซึ่งไต้อ๋องจะฆ่าไทก๋งเสียนั้น คนทั้งปวงจะหัวเราะเยาะไต้อ๋องว่าสิ้นความคิด สู้ฮั่นอ๋องไม่ได้ จึงแกล้งฆ่าบิดาเสีย ขอเชิญเสด็จกลับไปค่ายคิดการแก้แค้นอย่างอื่นจึงจะชอบ ถ้าจะทำโทษแก่คนชราดังนี้กิตติศัพท์จะลือไปทุกประเทศว่าไต้อ๋องใจเบาเชื่อแต่คนยุยงหาควรไม่" พระเจ้าฌ้อปาอ๋องได้ฟังเซี่ยงป๋อว่าก็เห็นชอบ สั่งให้เลิกทัพกลับเอาตัวไทก๋งไปค่าย รอดไปอีกเปราะหนึ่ง
รอดมาได้สามครั้งสามครา เล่าปังจึงปลงใจไม่อยากได้แผ่นดิน คิดห่วงแต่บิดา จึงเสนอเซี่ยงวี่ขอแบ่งแผ่นดินคนละครึ่ง โดยขอครอบครัวคืน เซี่ยงวี่ก็ยอม เพราะขณะนั้นขืนรบต่อไปคงได้พ่ายความคิดหานซิ่นเป็นมั่นคง จางเหลียงกับเฉินผิงก็มองหน้ากันยิ้มรู้กันอยู่สองคน ทั้งสองก็แบ่งแผ่นดินกันคนละครึ่ง
ฮั่นอ๋องก็รับครอบครัวกลับมาอยู่พร้อมหน้า จึงเข้าแผนจางเหลียงเฉินผิง เข้าไปว่า " ท่านรบได้เมืองมาเกือบจะทั้งแผ่นดิน หัวเมืองต่าง ๆ ก็ต่างเข้ามาเป็นกำลัง บัดนี้ได้ทีแล้วจงกลับไปตีเซี่ยงวี่ให้สิ้นซากเถิด" เล่าปังได้ยินดังนั้นจึงว่า "หากทำดังนั้นเราจะเป็นที่ครหาหรือว่าเจรจาไม่ยั่งยืน กลับไปตีเขาอีก หามีเรื่องขัดเคืองกันไม่" เตียวเหลียงเฉินผิงจึงว่า "เรื่องนั้นท่านอย่าวิตกเลย"
ว่าแล้วก็ให้คนถือหนังสือไปยั่วยุให้เซี่ยงวี่ให้โกรธ ความว่า "เซี่ยงวี่คนโง่ ต้องกลยอมส่งบิดาคืนให้" เซี่ยงวี่โกรธจริงจึงยกทัพออกมาก่อน กลายเป็นคนตระบัตสัตย์หักสัญญา ทั้งแผ่นดินจึงประนามและยกมาล้อมตี จนกระทั่งต้องกลหานซิ่น ฌ้อปาอ๋องเซี่ยงวี่แพ้ศึก เสียแผ่นดิน ฆ่าตัวตายในสนามรบ ในที่สุด
จะว่าไปแล้ว เหตุที่ครอบครัวเล่าปังต้องตกไปอยู่ในมือเซี่ยงวี่ก็เป็นแผนเอาครอบครัวไว้เป็นตัวประกันของเล่าปังและจางเหลียงแต่แรกแล้ว เมื่อครั้งจะขอไปอยู่เสฉวน ด้วยเกรงว่าจะถูกเซี่ยงวี่สังหารแต่แรก แต่ยังดีที่สามารถแก้ไขได้ในภายหลัง
ผ่านมากว่า 400 ปี เป็นทีของฝ่ายน้ำเงิน เล่าปี่ลูกหลานเล่าปังเสียทีแก่โจโฉโงหัวไม่ขึ้น รบทีไรแพ้ทุกที กระทั้งมาได้ชีซีเป็นกุนซือ ชีซีสามารถนำทัพเอาชนะโจหยินลิเตียนได้อย่างงดงามเหนือความคาดหมาย ความรู้ถึงโจโฉ จึงสงสัยว่า"เล่าปี่ไอ้ขี้แพ้เหตุใดครั้งนี้จึงเอาชนะทัพเราได้ ชะรอยจะมีกุนซือดี" โจหยินจึงว่า "เล่าปี่ได้ตันฮก หรือ ชีซีเป็นที่ปรึกษา" เทียหยกจึงว่า "ชีซีผู้นี้มีสติปัญญาเหนือกว่าข้าพเจ้ามากนัก" โจโฉจึงว่า "ทำอย่างไรจึงจะได้ตัวมา" เทียหยกจึงให้เอามารดาชีซีมาเลี้ยงไว้แล้ว ใช้แผนตีสนิทปลอมลายมือเขียนหนังสือถึงชีซี ความว่า "ด้วยตัวแม่เปนคนชราหาผู้เสี้ยงดูมิได้ โจโฉจับเอาแม่มาทำโทษแล้วจะให้เอาไปฆ่าเสีย เพราะเหตุเจ้ามาอยู่ด้วยเล่าปี่ แม้ว่าเจ้ามีความกตัญญูเอนดูแม่ มาหาโจโฉแล้ว ชีวิตแม่ก็จะไม่มีอันตราย"
เมื่อแต่งหนังสือแล้วจึงส่งไปยังซินเอี๋ยถึงชีซี เมื่อชีซีรู้หนังสือก็ร้องไห้เข้าไปลาเล่าปี่ เล่าปี่ก็พลอยร้องไห้ตามไปด้วยว่า อันธรรมดาเกิดเป็นบุตรย่อมต้องมีกตัญญู "ท่านจงไปเถิด ค่อยกลับมาต่อภายหลัง" แม้ซุนเขียนจะทักว่า "ไม่ควรให้ซีซีไป เมื่อโจโฉฆ่ามารดาชีซี ชีซีก็จะพยายาทโจโฉ อยู่ทำราชการสืบไป" เล่าปี่ก็ไม่ฟัง เอาความดีเข้าว่า ทหารทั้งปวงก็ปรบมือสรรเสริญเล่าปี่ทั้งห้องประชุม ทั้ง ๆ ที่ใจจริงแล้วไม่อยากให้ชีซีไป เห็นได้จากดีใจตอนที่ชีซีขับม้ากลับมาบอกว่าให้ไปเชิญขงเบ้งมาทำงานด้วย หากได้มาก็เปรียบเหมือนพระเจ้าฮั่นโกโจได้จางเหลียงไว้เป็นมั่นคง
ระหว่างทางชีซีกลัวว่าขงเบ้งจะไม่ยอมมาทำราชการด้วยเล่าปี่ จึงแวะไปฝากฝังขงเบ้ง ขงเบ้งได้ฟังก็โกรธว่า "ท่านจะไปจากเล่าปี่นั้นไม่มีสิ่งใดจะให้แก่เล่าปี่หรือ จึงจะมาเอาเราไปเปนเครื่องเส้น" ขงเบ้งว่าเท่านั้นแล้วก็กอดมือกลับเข้าไปในเรือน ชีซีเห็นขงเบ้งขัดเคือง คิดละอายใจก็ขึ้นม้ารีบไปยังเมืองฮูโต๋ และเรื่องราวก็เป็นอย่างที่เราท่านรู้กันดีว่า เมื่อชีซีไปถึง มารดาชีซีก็ฆ่าตัวตายว่าลูกนั้นโง่นัก ต้องกลโจโฉ ละคนดีมาหาคนชั่ว
ฝ่ายสุมาเต็กโซมาเยี่ยมชีซีที่เมืองซินเอี๋ย รู้ความจึงว่า "ชีซีไปหามารดา ณ เมืองฮูโต๋บัดนี้เพราะรู้มิเท่ากลของโจโฉ แลมารดาชีซีนั้นเปนคนสัตย์ซื่อหนักแน่นมั่นคงนัก ถึงมาตรว่าโจโฉจะจับเอาไปจองจำทำโทษประการใดก็เห็นจะไม่ให้แจ้งมาถึงบุตร จะสู้ตายแต่ผู้เดียว ซึ่งมีหนังสือมานั้นเห็นจะเปนอุบายของโจโฉ อันชีซีไปบัดนี้เหมือนฆ่ามารดาเสีย ถ้าชีซีมิไปเมืองฮูโต๋ตามหนังสือมารดานั้น มารดาชีซีก็จะมีชีวิตอยู่" เล่าปี่ได้ยินก็อ้าปากครั้งสักพักแล้วเปลี่ยนเรื่อง ถามต่อว่า ขงเบ้งเป็นใคร อยู่ไหน จะไปหามาทำงาน...
น่าเสียดายที่ซุนเขียนไม่มีบารมีพอที่จะทัดทานเล่าปี่และไม่มีปัญญาพอที่จะใช้แผนการเหมือนจางเหลียงเฉินผิงแก้เอาตัวชีซีไว้ น่าเสียดายที่สุมาเต็กโชมาช้าไป และน่าเสียดายที่ขงเบ้งมัวแต่เลี้ยงไก่ทำสวน ไม่คิดจะช่วยชีซีในขณะนั้น
เท่าที่อ่านมาคิดว่าอุบายนี้เป็นอุบายที่ยากที่สุดที่จะเอาชนะได้ ด้วยคำว่าคุณธรรม กตัญญู ทำให้แม้ผู้มีปัญญาก็ต้องหูตามืดบอด แม้ผู้มีความทะเยอทะยานก็จำต้องละทิ้งปณิธาน เหล่านี้ต้องอาศัยคนข้างกายที่จะชี้แนะ จางเหลียงเฉินผิงแก้เอาตัวอ๋องหลินไว้อย่างเลือดเย็น แก้เอาครอบครัวเล่าปังไว้อย่างแยบยล อยากรู้จริง ๆ ว่า หากเหตุการณ์ของซีชีเกิดขณะที่ขงเบ้งมาทำงานกับเล่าปี่ อุบายนี้จะแก้อย่างไร เหตุการณ์ทั้งหมดมีปัจจัยที่แตกต่างกัน อาจจะไม่สามารถตัดสินได้ว่าฝ่ายใดชนะ เพียงแต่นำมาเล่าให้ฟังตามอาชีพของวณิพก แต่ที่เหมือนกันก็คือ ผู้ที่ทำอุบายสกปรกเช่นนี้ ไม่มีใครได้ตามความประสงค์ของตนเลย
อาจใช้ชื่อผสมทั้งจีนกลางและฮกเกี้ยน ในบางตัวบุคคลที่เราคุ้นหูในชื่อจีนกลางก็จะใช้จีนกลาง ส่วนที่เหลือก็จะใช้คำตามแปลต้นฉบับ
เซี่ยงวี่ = ห้างอี๋
เซี่ยงป๋อ = ห้างเป็ก
จางเหลียง= เตียวเหลียง
หานซิ่น= ฮั่นสิน
เมืองเผิงเฉิง = เมืองแพเสีย
เฉินผิง = ตันแผง
ที่มา : หนังสือสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน)
หนังสือชิดก๊ก ไซ่ฮั่น ฉบับแปลไทย ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
youtube.com
จากเล่าปัง ถึง ชีซี : ยึดพ่อยึดแม่ และการแก้อุบาย
จากเล่าปัง ถึง ชีซี : ยึดพ่อยึดแม่ และการแก้อุบาย #ชีซี#เล่าปัง#ฌ้อปาอ๋องทั้งอ๋องหลินแม่ทัพของเล่าปังหรือพระเข้าฮั่นโกโจ(ฮั่นเกาจู่) เล่าปัง ก็เคยถูกใช้มารดา...
เยี่ยมชม
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย