Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
arwut jiwarakranon
•
ติดตาม
23 มี.ค. 2022 เวลา 01:40 • กีฬา
ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ในมุมที่คุณอาจไม่รู้
ตั้งใจจะเขียนบทความเกี่ยวกับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ นานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดครบรอบ 75 ปีของเขา แต่ก็มีเหตุติดขัดให้ยังไม่มีเวลาลงมือ...จนวันนี้
สำหรับคอบอลสเปนบ้านเรา โดยเฉพาะที่เรียกตัวเองว่า 'มาดริดิสต้า' รู้จัก เปเรซ มานาน หากแต่ทั้งหมดก็ในบทบาทประธานเรอัล มาดริด ที่้เขานั่งแท่นบริหารมา 20 ปี รวมถึงประธาน ACS บริษัทก่อสร้างเบอร์ต้นๆของโลกอีกเล็กน้อย
น้อยครั้งหรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ที่เราได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว ความรัก นิสัยใจคอ รสนิยม เรื่อยไปจนถึงจุดหักเหสำคัญในชีวิต
วันนี้ ไม่มากก็น้อย เราจะไปทำความรู้จัก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ในมุมที่ลึกกว่าที่เคย...ในมุมส่วนตัวที่หลายคนอาจยังไม่รู้
อย่างที่เขียนถึงข้างต้น ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เกิดวันที่ 8 มีนาคม 1947 ปัจจุบันอายุ 75 ปี เขาเป็นคนมาดริดโดยกำเนิด เติบโตที่ย่านออร์ตาเลซ่า (Hortaleza) ถือเป็นคนย่านเดียวกับ หลุยส์ อราโกเนส อดีตกุนซือทีมชาติสเปนผู้ล่วงลับ
นักข่าวหญิงจากบานิตาติส (vanitatis) นิตยสารเกี่ยวกับคนดังในวงสังคมสเปนเขียนในบทความว่าเคยเจอ เปเรซ ในงานพิธีล้างบาปของหลานสาวคนหนึ่งของเขาในย่านอิสปาโนอเมริกาในกรุงมาดริด
เธอเล่าว่า เปเรซ ปรากฏตัวในชุดสูทสีเทาเรียบหรู ในอิริยาบถสบายๆ ท่ามกลางครอบครัวของเขาทั้งหมด เขาฉีกยิ้มกว้างให้กับทุกคน หยอกล้อ และถ่ายรูปกับหลาน ๆ ซึ่งแตกต่างจากที่เห็นในทีวีที่เขามักวางสีหน้าเรียบเฉยจนถึงขั้นเย็นชา
กิริยาของเขาในงาน ดูไม่เหมือนปลาฉลามผู้ยิ่งใหญ่ที่สื่อสเปนพยายามอธิบายถึงตัวตนของเขา และดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งเขย่าวงการลูกหนังจนสั่นสะเทือนด้วยการเป็นโต้โผใหญ่ผลักดันโปรเจคต์ซูเปอร์ลีกจนงัดข้อกับ ยูฟ่า ใหญ่โตเมื่อปีก่อน
เธอย้ำว่าจากที่เห็นในงาน เธอแทบไม่เชื่อเลยว่านี่คือคนเดียวกัน
เป็นไปได้ว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ คนที่นักข่าวหญิงจากบานิตาติสเห็นนั้น เป็นคนๆเดียวกับคำบอกกล่าวของบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่กับเขาตั้งแต่เด็ก
คนเหล่านี้เล่าว่า ฟลอเรนติโน เป็นเด็กที่ซุกซน เปิดเผย ไม่ขี้อาย เป็นที่รักของทุกคน และนั่นก็เป็นบุคคลิกของเขาที่โรงเรียนด้วย
เรื่องการเรียน เขาไม่เคยเป็นนักเรียนเกียรตินิยม อย่างน้อยก็ในโรงเรียนประถมและมัธยม แต่ก็ไม่เคยล้มเหลวเช่นกัน ก่อนจะมาฉายแววโดดเด่นอย่างสุดๆตอนเรียนวิศวกรรมโยธา
ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เป็นลูกคนที่สามในพี่น้อง 5 คนต่อจาก มาริโซล, กอนชิตา, และมีน้องอีก 2 คนคือ อิกนาซิโอ และ เอ็นริเก้
เอดูอาร์โด้ เปเรซ กับ โซเลดาด โรดริเกซ เปเรซ พ่อแม่ของเขาปลูกฝังวัฒนธรรมให้กับลูกๆทุกคนในแง่ของความพยายาม,ความรับผิดชอบ และความเป็นปึกแผ่น ในทุกวันอาทิตย์สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะต้องกินข้าวร่วมกัน
เอดูอาร์โด้ พ่อของเขาเป็นเจ้าของร้านน้ำหอม 2 แห่ง ภายใต้ชื่อว่า 'Shangai' นอกจากนี้ยังเป็นประธานในการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านน้ำหอมและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของบริษัท Coperlim
พ่อของเขาทำงานหนักมากจนมีฐานะร่ำรวย แต่ถึงอย่างนั้น เปเรซ ก็พูดในหนังสืออัตชีวะประวัติเล่มแรกและเล่มเดียวของเขาที่เขียนโดย กาสปาร์ โรเซตี้ ว่า "ผมเป็นแค่เด็กธรรมดาในครอบครัวธรรมดา" และแม้ว่าชีวิตจะดูสบาย แต่ก็ซึบซับการทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก
แต่ดูเหมือนว่าเขาพยายามปกปิดนิสัยบางอย่าง จนกระทั่งคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ เฆโรนีโม ฟาร์เร่ เพื่อนสนิทสมัยเรียนที่โรงเรียนซาน อันตอน เล่าว่าเขากับ ฟลอเรนติโน่ เป็นพวกชอบเอาชนะ พวกเขาจะพยายามเอาชนะทุกคน ทุกอย่าง ด้วยเหตุผลเพราะพวกเขาต้องการเป็นผู้ชนะ
"สมัยนั้นเราเป็นพวกชอบแข่งขัน เราต้องการชนะทุกอน่าง หรือถ้าจะให้พูดให้ชัดก็คือเราชนะทุกอย่างตั้งแต่ฟุตบอล,แฮนด์บอล หรือแม้กระทั่งการเรี่ยไรเงินไปช่วยเหลือเด็กๆโลกที่ 3 เราก็แข่งขันกัน"
"เราต่อสู้เพื่อเป็นที่หนึ่งเสมอ ที่สำคัญก็คือเราเป็นที่หนึ่งตลอด"
จากคำพูดของ ฟาร์เร่ ทำให้เราจินตนาการต่อได้ไม่ยากเลยว่าทำไม เปเรซ ถึงพา เรอัล มาดริด มาได้ไกลขนาดนี้ และหลายๆครั้งในการกระทำของเขาเกิดจากแรงผลักดันแบบไหน
ทำไม เรอัล มาดริด ถึงคว้าผู้เล่นดีๆ ราคาแพงๆมาร่วมทีมได้ และทำไมตลอด 20 ปีแห่งการบริหาร เขาถึงนำสโมสรทั้งทีมฟุตบอลและบาสเกตบอลคว้าแชมป์รวมกันไปมากถึง 49 แชมป์
และด้วยนิสัยเช่นนี้นี่เอง ก็ไม่ต้องสงสัยอีกเช่นกันว่าทำไม เปเรซ จึงเดินหน้าผลักดันโปรเจคต์ซูเปอร์ลีกต่อไป ทั้งๆที่แทบไม่มีใครเอาด้วยแล้ว
ไม่เพียงแค่นิสัยชอบเอาชนะ และต้องการเป็นที่หนึ่งอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น หากแต่จุดผกผันสำคัญในชีวิตของ เปเรซ ก็ยังมาจากเหตุการณ์เมื่อปี 2012 อีกด้วย
ด้านชีวิตความรัก เปเรซ เคยมีแฟนในสมัยวัยรุ่นชื่อว่า มาเรียน่า ทั้งคู่รู้จักกันที่ เดเนีย เมืองตากอากาศยอดฮิตในจังหวัดอลิกันเต้ทางฝั่งตะวันออกของสเปน ทว่ารักแท้ของเขาเกิดขึ้นแค่กับ มาเรีย อังเคเลส ซานโดบัล หรือที่ทุกคนรู้จักในนาม 'ปิตีน่า'
เปเรซ คบหาและแต่งงานกับ ปิตีน่า มากว่า 4 ทศวรรษ เขารู้จักเธอครั้งแรกที่ร้านกาแฟแถวย่านอาก้วยเยส (ย่านเดียวกับบ้านพักสยามสปอร์ต) ตอนที่ ปิตีน่า ทำงานเป็นเลขาให้กับทีมแพทย์ของ เอล กอร์เต้ อินเกลส ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่และมีสาขามากที่สุดในสเปน
ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน ชีโบ,โอเบร์ และ กูชี่
ปีตีน่า เป็นผู้หญิงที่ฉลาดและเข้มเเข็งมาก เธอมีร้านขายขนมปังและเปิดคลาสสอนทำขนมปังรวมถึงสอนปักครอสติสในร้านของตัวเอง เมื่อว่างจากงานเธอจะร่วมเดินทางไปกับ เปเรซ ในทุกครั้งที่ เรอัล มาดริด เดินทางไปเล่นเกมเยือน และมาร่วมชมเกมที่ ซานตีอาโก้ เบร์นาเบว ในนัดเหย้าร่วมกับเขาเสมอ
ปิตีน่า คอยหนุนหลัง เปเรซ ในทุกเรื่อง และบางครั้งก็เธอก็ออกมาหน้าฉาก เพื่อฟาดคนที่คิดจะเล่นงานสามีเธอ
ตอนที่ เปเรซ ลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสรเรอัล มาดริด สมัยแรก เขาถูกวิจารณ์ค่อนข้างหนัก นักข่าวบอกว่า "เขาขี้ขลาดที่หนีปัญหา" ซึ่งเรื่องนี้ ปิตีน่า ยอมไม่ได้
"ขี้ขลาดเหรอ ? คุณต้องมีความกล้าหาญอย่างมากต่างหาก ในการยอมรับและก้าวออกไปเมื่อทำพลาดบางอย่าง, เขาเป็นคนซื่อสัตย์" ปิตีน่า ให้สัมภาษณ์ปกป้อง เปเรซ กับนสพ.มาร์ก้า
ชีวิต เปเรซ ใช่ว่าจะสุขสบายอยู่ตลอดเวลา หลายครั้งก็ต้องรับมือกับอะไรที่น่าขยะแขยง เช่นครั้งที่ ปิตีน่า ล้มป่วยแรกๆ มีแฟนบอลเรอัล มาดริด หัวรุนแรงบางรายที่ไม่พอใจการบริหารงานของเขาแอบไปพ่นสีใส่กำแพงแช่งให้ ปิตีน่า มีอันเป็นไป
หลังล้มป่วยมานาน 6 ปี และเริ่มที่จะฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ก็เกิดเรื่องน่าเศร้าเมื่อ ปิตีน่า จากไปอย่างกระทันหันในวันที่ 22 พฤษภาคมปี 2012 จากอาการหัวใจวาย
ข่าวนี้ดังไปทั่วประเทศ ออกทีวี หนังสือพิมพ์ทุกช่อง และคงไม่ต้องบอกว่า เปเรซ เศร้าเสียใจแค่ไหนกับการสูญเสียนี้
นับจากนั้นมา เปเรซ ก็หันไปทุ่มเทเวลาที่มีให้กับ เรอัล มาดริด และ ACS เพิ่มยิ่งขึ้นกว่าเดิม จากที่ทำงานหนักอยู่แล้ว เขาทำงานไม่มีวันหยุด ออกจากบ้านที่ย่าน รีปุ๊บรีก้า อาร์เคนติน่า ซึ่งห่างจาก ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เพียง 1.7 กิโลเมตรตั้งแต่เช้าและกลับมาเกือบเที่ยงคืนเสมอ
"แม่ของฉันเป็นผู้หญิงที่เรียบง่ายที่สุด ส่วนพ่อ ฉันเห็นเขาทำงานตลอดเวลา จนบางครั้งฉันต้องตระโกนใส่เขาว่า "ป่ะป๊า ต้องเรียนรู้ที่จะไม่ทำอะไรซะบ้าง"
"ผู้คนชอบคิดว่าเขาเป็นคนซีเรียสมากๆ แต่ว่าเวลาอยู่บ้านเราขำกันสุดๆ เราให้ความสำคัญกับความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่,ความเคารพ และมีเท้าติดดินอยู่เสมอ" กูชี่ ลูกสาวคนเดียวของ เปเรซ ให้สัมภาษณ์กับ 'Vanity Fair'
ทั้งนี้เรื่องราวส่วนตัวของ เปเรซ เขาไม่ค่อยให้สัมภาษณ์กับสื่อใด เช่นเดียวกับลูกชาย 2 คนที่แทบไม่ปรากฏตัวทางสื่อ
หากจะถูกเผยแพร่ออกมาบ้าง โดยมากก็จะมาจาก กูชี่ ซึ่งคุ้นเคยกับพวกสื่อดี เพราะเธอเคยทำงานเป็นผู้สื่อข่าวมาก่อน ก่อนที่จะหันมาจับธุรกิจเปิดร้านอาหารที่ชื่อ EL BARBERO
มีบางช่วงที่มีข่าวลือว่า เปเรซ คบหาผู้หญิงคนใหม่ แต่เมื่อนักข่าวถามจากคนรอบข้างก็จะได้คำตอบว่า "เวลาเกือบทั้งหมดของเขา อุทิศให้กับการทำงาน"
หากมีเวลาว่าง เปเรซ จะใช้เวลากับครอบครัว กับเพื่อน หรือไปลงเรือส่วนตัวที่ตั้งชื่อตามภรรยาว่า 'เอล ปินีต้า เตเซโร่' (el Pitina III) แต่อีกหนึ่งกิจกรรมสุดโปรดที่น้อยคนจะรู้ก็คือ เปเรซ รักการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ จนถูกเปรียบว่า "หนังคือคนรักเก่าแก่ของเขา"
อย่างไรก็ตาม เปเรซ ไม่ได้มีรสนิยมดูหนังทั่วๆไป แต่ชอบดู 'หนังอาร์ต' หนังแนวศิลปะที่ผู้คนส่วนใหญ่ชอบพูดว่าดูไม่ค่อยรู้เรื่อง
หลักฐานสำคัญว่า เปเรซ รักการดูหนังมาก คือการที่เขาเคยลงสมัครเรียนด้านการกำกับภาพยนต์
แม้ว่าจะเรียนไม่จบ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงตัวตน รสนิยมที่คาดไม่ถึงของ เปเรซ ผู้ที่หน้าฉากคือบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนนึงของวงการลูกหนังโลก
ประธานสโมสรที่โดดเด่นที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด ผู้ซึ่งกำลังนำพาสโมสรก้าวสู่ความท้าทายครั้งใหม่อันน่าตื่นเต้น กับ 'น้วยโบ เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' รังเหย้าแห่งใหม่ ซึ่งกล่าวกันว่ามันจะยกระดับให้ เรอัล มาดริด ข้ามไปอีกขั้น
#เจมส์ลาลีกา
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย