ทำไม วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ได้มอง Apple เป็นบริษัทเทคโนโลยี
ทุก ๆ ปี วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของโลก
และซีอีโอวัยเกือบ 92 ปี ของ เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ จะเขียนจดหมายไปถึงผู้ถือหุ้นของบริษัท
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เขาทำต่อผู้ถือหุ้นเป็นประจำทุกปี
ซึ่งเนื้อหาในจดหมายปีล่าสุด มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ
หนึ่งในนั้นคือ การลงทุนในหุ้น Apple
บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญ ที่ทำให้การลงทุนของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประสบความสำเร็จในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แล้วจดหมายของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ถึงผู้ถือหุ้นในปีที่ผ่านมา พูดอะไรเกี่ยวกับหุ้น Apple บ้าง ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เริ่มซื้อหุ้น Apple ครั้งแรกในปี 2016
ในเวลานั้น หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมนักลงทุนที่เน้นคุณค่าแบบเขา จึงลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่ดูต่างจากหุ้นตัวอื่น ๆ ในอดีตที่เขาเคยลงทุนมา
แต่สำหรับมุมมองของ บัฟเฟตต์ ต่อหุ้น Apple
เขาไม่ได้มองแค่เป็นหุ้นเทคโนโลยีที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียว
แต่ยังมีประเด็นอื่นที่น่าสนใจสำหรับหุ้นตัวนี้
ตัวอย่างเช่น
- ผู้บริโภคมีความจงรักภักดีต่อสินค้าของ Apple อย่างเช่น iPhone ซึ่งสำหรับตัวเขานั้น แม้ Apple จะเป็นหุ้นเทคโนโลยี แต่สินค้าของบริษัทคือ “สินค้าอุปโภคบริโภค” ที่คนใช้กันทั่ว ๆ ไป
- Apple มักซื้อหุ้นคืน ซึ่งเป็นแนวทางในการให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นที่บัฟเฟตต์ชื่นชอบ
- Apple เป็นธุรกิจที่มีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด
- Apple เป็นธุรกิจที่มีป้อมปราการของธุรกิจที่แข็งแกร่ง คู่แข่งเข้ามาแข่งขันด้วยยาก
ที่สุดแล้วเมื่อเวลาผ่านไป การตัดสินใจในครั้งนั้น ก็ทำให้หลายคนหายสงสัย
เพราะมูลค่าของบริษัท Apple นั้นเติบโตจากประมาณ 20 ล้านล้านบาท ในปี 2016
มาสร้างประวัติศาสตร์ แตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 100 ล้านล้านบาท เมื่อปีที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ที่ เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ เริ่มซื้อหุ้น Apple สัดส่วนการถือหุ้นของ Apple นั้นค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้น
ปี 2016 เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Apple เท่ากับ 1.1%
ปี 2021 เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Apple เท่ากับ 5.6%
ขณะที่ในปีที่ผ่านมา สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Apple ของเบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์เพิ่มขึ้นประมาณ 0.16% จากปี 2020 มาปี 2021 โดยที่เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ ไม่ได้ลงทุนในหุ้นของบริษัท Apple เพิ่มขึ้นเลย
แต่เนื่องจาก Apple มีการซื้อหุ้นคืน ทำให้ปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนในตลาดลดลง จนทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน Apple ของเบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์เพิ่มขึ้นนั่นเอง
ประเด็นนี้ บัฟเฟตต์ได้บอกกับผู้ถือหุ้นของเบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ว่า แม้สัดส่วนการถือหุ้นจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าดูที่กำไรของ Apple ที่ทำได้สูงกว่า 3.1 ล้านล้านบาท
ดังนั้น 0.16% ของจำนวนดังกล่าวซึ่งมีมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าไม่น้อย หากมองว่า เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ ได้ส่วนแบ่งกำไรก้อนนี้เพิ่มมาโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
แล้วนับตั้งแต่ที่เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ลงทุนในหุ้น Apple มานั้น บริษัทได้อะไรมาบ้าง ?
- เงินปันผล โดยเบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ ได้รับเงินปันผลโดยเฉลี่ยประมาณ 25,500 ล้านบาทต่อปี
- กำไร (ที่ยังไม่ได้รับรู้) โดยต้นทุนที่เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ลงทุนในหุ้น Apple เท่ากับ 1.0 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าตลาดของหุ้น Apple ที่เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ถืออยู่ อยู่ที่ราว ๆ 5.3 ล้านล้านบาท
หมายความว่า เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ ทำกำไรจากการลงทุนในหุ้น Apple ไปประมาณ 4.3 ล้านล้านบาท จากระยะเวลาการลงทุนประมาณ 6 ปี..
ขณะที่มูลค่าพอร์ตการลงทุนของ เบิร์กเชียร์ฮาทาเวย์ ณ สิ้นปี 2021 มีมูลค่าเท่ากับ 11.5 ล้านล้านบาท
ซึ่งประมาณ 46% นั้นมาจากมูลค่าของหุ้น Apple ตัวเดียว
บัฟเฟตต์นั้นขึ้นชื่อเรื่องการลงทุนระยะยาว ในธุรกิจที่เขาเชื่อมั่น และเขามักบอกว่า
“เมื่อเราเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีเยี่ยม พร้อมทั้งมีผู้บริหารที่โดดเด่น ดังนั้น สำหรับเขาแล้ว เขาจะถือหุ้นตัวนั้นไปเรื่อย ๆ โดยแทบไม่มีความคิดที่จะขายมันออกไป”..
References:
- 60
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
