24 มี.ค. 2022 เวลา 11:21 • ปรัชญา
สมาธิที่ผิด มีทั้งผิดในทางโลกและในทางธรรมดังนี้
ในทางโลก สมาธิที่ผิดคือ การไม่ตั้งมั่นของ สติและสัมปชัญญะ เนื่องจากสติและสัมปัญชัญญะอ่อน ขาดๆหายๆ เกิดชั่วครั้งชั่วคราวไม่ต่อเนื่อง จึงไม่เกิดเป็นปัญญาที่ใช้งานได้จริง เช่นฟุ้งซ่าน เหม่อลอย ยํ้าคิดยํ้าทํา แยกแยะไม่ออกระหว่างดี ชั่ว ( มีสติสัมปชัญญะ แต่ไม่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ)
ในทางธรรม สมาธิที่ผิดก็คือ สมาธิที่หลงเข้าไปยึดตัวตน รูปนาม รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่เป็นผลจากสมาธิแบบสมถะ มิได้ทําไปเพื่อหลุดพ้นอย่างแท้จริง ตัวอย่างเช่น การทําสมถะที่เริ่มจาก วิตกวิจารณ์ เมื่อจิตยึดเอาอารมณ์ภาวนาแบบใดแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจเข้าออก หรือคําบริกรรมพุทธโธๆ แล้วจิตรวมเป็นหนึ่ง จิตจะเกิดปิติ สุข เอกคตา ซึ่งเป็นไปตามลําดับของณาณ (ฌาน1,2,3,4) ผลที่ได้ บางคนจะรู้สึกตัวลอยได้ ตัวขยายใหญ่ บางคนจะเห็นดวงแก้ว เห็นพระพุทธเจ้า สุดท้ายจิตจะรวมเป็นหนึ่งและยึดความสงบเป็นอารมณ์ บางคนก็จะเข้าไปยึดติดความสงบนั้นและคิดว่าตัวเองบรรลุธรรมแล้ว กิเลสต่างๆ หายซึ่งหายไปชั่วคราว , คิดว่าตัวเองได้อภิญญา มีอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ (ร่างทรงก็เกิดจากสมาธิประเภทนี้)เป็นอาการของ วิปัสสนูปกิเลสซึ่งเป็นอุปกิเลสแห่งวิปัสสนา เป็นเหตุขัดขวางให้ผู้ปฎิบัติไม่ก้าวหน้าต่อไปในวิปัสสนาญาณ
2
ผลของสมถะ = ณาน, ( สงบ, กิเลสระงับชั่วคราว, อภิญญา )
ผลของวิปัสสนา = ญาณ ( รู้แจ้ง, ขจัดกิเลสแบบถาวร, เกิดปัญญา )
วิปัสสนูป 10 ประการดังนี้ ( พระพรหมคุณากรณ์ )
       1. โอภาส (แสงสว่าง — illumination; luminous aura)
       2. ญาณ (ความหยั่งรู้ — knowledge)
       3. ปีติ (ความอิ่มใจ — rapture; unprecedented joy)
       4. ปัสสัทธิ (ความสงบเย็น — tranquillity)
       5. สุข (ความสุขสบายใจ — bliss; pleasure)
       6. อธิโมกข์ (ความน้อมใจเชื่อ, ศรัทธาแก่กล้า, ความปลงใจ — favor; resolution; determination)
       7. ปัคคาหะ (ความเพียรที่พอดี — exertion; strenuousness)
       8. อุปัฏฐาน (สติแก่กล้า, สติชัด — established mindfulness)
       9. อุเบกขา (ความมีจิตเป็นกลาง — equanimity)
       10. นิกันติ (ความพอใจ, ติดใจ — delight)
โฆษณา