24 มี.ค. 2022 เวลา 14:06 • ปรัชญา
ในทางวิทยาศาสตร์ถ้าเราอยากรู้ว่า สสารประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เราจึงต้องแยกมันออกมาเพื่อหาดูส่วนประกอบของมันและหาว่าอะไรคือหน่วยย่อยที่ประกอบมันขึ้นมา อย่างที่เรารู้ สสารประกอบด้วย โมเลกุล ธาตุ อะตอม หน่วยย่อยที่เล็กที่สุดของมันก็คือ อิเล็กตรอน, ควากซ์และ โบซอน ที่รวมตัวเป็นอะตอม สสาร เป็นสมช. ขึ้นมา
ในทางธรรมก็เช่นเดียวกัน เราต้องการรู้ว่า สมช. ประกอบไปด้วยหน่วยย่อยอะไรบ้าง แต่ในทางธรรมเราไปไกลกว่า นั่นคือเราแยกในส่วนที่เป็นทั้งรูปธรรม กับ นามธรรม ออกจากกันได้ด้วย ซึ่งวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทําเช่นนี้ได้ เราเรียกส่วนประกอบของสมช. ทุกชนิดในจักรวาลว่า ขันธ์ ซึ่งมีไม่เกิน 5 ขันธ์ดังนี้
สิ่งมีชีวิตในจักรวาลประกอบขึ้นมาด้วย รูป กับ นาม (จิต) ซึ่งจิตหรือนามจะประกอบไปด้วย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ 4 อย่างนี้เราเรียกรวมๆว่านามหรือจิต นามต้องประกอบด้วย 4 ขันธ์เป็นอย่างต่ำ ไม่นับแค่ 1 ขันธ์ที่เป็นนาม แต่รูปนับเป็น 1 ขันธ์ได้ตัวอย่างเช่น
5 ขันธ์ = กามาวจรภูมิทั้งหมด นรก สวรรค์ โลกมนุษย์ เทวดา และรูปาวจรภูมิ (รูปพรหม) แต่มีเฉพาะมนุษย์ รูปขันธ์แสดงออกเป็นกายเนื้อหรือกายหยาบชัดเจน แต่ภูมิอื่น รูปจะเป็นกายละเอียดที่มองไม่เห็นด้วยตาปล่าว
4 ขันธ์ = อรูปาวจรภูมิ คืออรูปพรหม (ไม่มีรูปมีแต่นาม หรือมีแต่จิต) เกิดจากผลของสมถภาวนาภาวนาของบุคคลที่ปราถนาจะไม่รูปที่มีตนหรือร่างกาย
1 ขันธ์ = อสัญญสัตตพรหมหรืออสัญญีพรหม ( พรหมลูกฟัก ) มีแต่รูปไม่มีนาม (ไม่มีจิต)เป็นรูปที่ละเอียดอ่อนที่สุด เกิดจากบุคคลที่อบรมสมถภาวนาจนได้ปัญจมฌาน และปรารถนาที่จะไม่มีนามธรรมเพราะเห็นโทษ จากความวุ่นวาย ต่างๆที่เกิดจากความคิด จึงไม่มีความคิดใดๆ เกิดขึ้นเลยมีแต่รูปนิ่งสนิทเหมือนลูกฟัก และไม่มีโอกาสอบรมจิตหรือยกระดับจิตเข้าสู่นิพพาน
1 ขันธ์ อีกจําพวกคือ มีแต่รูปไม่มีจิต เช่น ต้นไม้, อมีบา, โปรโตซัว, ภูเขา, แม่นํ้า
โฆษณา