24 มี.ค. 2022 เวลา 16:18 • ไอที & แก็ดเจ็ต
iPhone SE3 Vs Galaxy A53 5G โทรศัพท์ราคาประหยัดที่แตกต่างของ Apple และ Samsung
Apple และ Samsung เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ห่างกันไม่ถึงสองสัปดาห์ ตั้งราคาต่ำกว่าทั้ง iPhone13 และ Galaxy S22 แต่ทั้งสองรุ่นมีแนวทางที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน Apple เปิดตัว iPhone SE3 วันที่ 8 มีนาคม ราคา 15,900 บาท มีรูปลักษณ์เหมือน iPhone 8 แต่ภายในใช้ชิป 5G และหน่วยประมวลผลแบบเดียวกับ iPhone 13 ขณะที่ Samsung เปิดตัว Galaxy A53 5G วันที่ 17 มีนาคม ราคา 14,499 บาท ด้วยการออกแบบและฟีเจอร์ที่ใกล้เคียงกับรุ่นไฮเอ็นด์ แต่ใช้หน่วยประมวลผลต่ำกว่า
หากเปรียบเทียบเทคโนโลยีทั้งสองค่าย โทรศัพท์มือถือจากทั้ง Apple และ Samsung มีฟีเจอร์ที่เพียงพอกับการใช้งานในปัจจุบัน ด้าน Apple เน้นการใช้หน่วยประมวลผลรุ่นล่าสุด แต่ขายในราคาประหยัด และมีรูปลักษณ์และกล้องแบบรุ่นเดิม ในขณะที่ Samsung มีแนวทางตรงกันข้ามโดยการใช้หน่วยประมวลผลรุ่นต่ำกว่า แต่มีความสามารถเช่นเดียวกันโทรศัพท์รุ่นราคาแพง เช่น จอไร้ขอบ หรือกล้องหลายเลนส์ (Multi-lens Camera)
iPhone SE โทรศัพท์สำหรับสาวก Apple ที่อยากใช้ iPhone
iPhone SE3 ออกแบบเหมือนกับ iPhone 8 ที่วางจำหน่าย 4 ปีที่แล้ว เช่น มีปุ่ม Home มีขอบหนาด้านบนและล่างหน้าจอภาพ ใช้หน้าจอขนาด 4.7 นิ้วซึ่งเล็กกว่า iPhone 13 Mini และกล้องขนาด 12 ล้านพิกเซลแบบเลนส์เดี่ยว ในขณะที่กล้อง iPhone รุ่นปกติมี 2 หรือ 3 เลนส์
ลักษณะเหล่านี้ทำให้โทรศัพท์ iPhone SE ดูล้าสมัย แต่ถ้าพิจารณาส่วนประกอบภายในแล้ว โทรศัพท์รุ่นนี้ใช้โปรเซสเซอร์ A15 Bionic เช่นเดียวกับ iPhone 13 ที่ทำให้สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 15 ซึ่งไม่สามารถใช้งานได้กับโทรศัพท์รุ่นเก่าอย่าง iPhone 6S หรือ iPhone SE รุ่นแรกได้
สิ่งดึงดูดผู้ใช้ให้เปลี่ยนเป็น iPhone SE จึงไม่ไช่ฟีเจอร์ล้ำสมัย แต่เป็นฟีเจอร์ iPhone พื้นฐานที่ใช้งานประจำวัน เป้าหมายของ Apple จึงเป็นการเปลี่ยนผู้ใช้ไปใช้อุปกรณ์อื่น เช่น AirPods และ Apple Watch หรือบริการอื่นๆ เช่น Apple Music หรือ iCloud
Galaxy A53 5G โทรศัพท์ที่เลียนแบบรุ่นไฮเอ็นด์จาก Samsung
โทรศัพท์ Samsung Galaxy A53 5G สามารถเปรียบเทียบได้กับราคาแพงอย่าง Galaxy S21 FE ที่มีราคา 22,900 บาท หน้าจอโทรศัพท์ Samsung รุ่นใหม่ถูกออกแบบให้คลุมเกือบทั่วด้านหน้าของตัวเครื่อง แต่มีรูขนาดเล็กสำหรับกล้องหน้าเพื่อเซลฟี่ Samsung Galaxy A53 5G จึงดูราวกับโทรศัพท์ราคาแพงของ Samsung ที่เปิดตัวในช่วงสามปีมานี้
เป้าหมายของ Galaxy A53 5G คือ การใส่ฟีเจอร์ไฮเอ็นด์ในโทรศัพท์ราคาประหยัด โทรศัพท์รุ่นนี้มีกล้องระบบหลายเลนส์ (Multi-lens Camera System) กล้องหน้าความละเอียด 64MPixel กล้องเลนส์มุมกว้างขนาด 12MPixel และกล้องถ่ายภาพมาโครขนาด 5MPixel ในขณะที่ iPhone SE มีเลนส์ตัวเดียวที่ความละเอียด 12MPixel เท่าน้ั้น
อย่างไรก็ตาม Galaxy A53 5G ไม่ได้ใช้หน่วยประมวลผลรุ่นไฮเอ็นด์เหมือน iPhone SE แต่ใช้โปรเซสเซอร์ Exynos 1280 ของ Samsung ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลระดับกลาง
วิสัยทัศน์ของ Apple และ Samsung
ทั้ง Apple และ Samsung มีวิสัยทัศน์โทรศัพท์ราคาประหยัดที่แตกต่างและน่าจะประสบความสำเร็จทั้งคู่ Tim Cook กล่าวถึง iPhone SE รุ่นก่อนว่าอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ iPhone และสนับสนุนว่าขนาดโทรศัพท์ที่เล็กนี้ช่วยดึงดูดผู้ใช้ที่ไม่ได้เปลี่ยนโทรศัพท์เป็นเวลานาน iPhone SE ยังเป็นหนึ่งใน 10 โทรศัพท์มือถือที่ขายดีในปี 2021 อีกด้วย
ในฝั่งของ Samsung โทรศัพท์ Galaxy A series เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Samsung มียอดขายกว่า 58% ของยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ Samsung ในขณะที่ Galaxy A12 ติดหนึ่งใน 10 โทรศัพท์มือถือที่ขายดีเช่นเดียวกับ iPhone SE
iPhone SE และ Galaxy A53 5G จึงเป็นได้มากกว่าโทรศัพท์รุ่นราคาประหยัด ทั้งสองบริษัทคิดถึงแง่มุมที่สำคัญ Samsung เน้นที่แบตเตอรีที่ใช้งานได้นาน หน้าจอใหญ่ และกล้องหลายเลนส์ ในขณะที่ Apple เน้นเรื่องประสิทธิภาพที่เทียบได้กับโทรศัพท์ iPhone รุ่นราคาแพง
โฆษณา