25 มี.ค. 2022 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
คู่รักนักปล้นที่โด่งดังที่สุดในอเมริกา 'Bonnie & Clyde' ตอนที่ 1
คู่รักนักปล้นสุดโหดที่วีรกรรมของทั้งคู่เคยโด่งดังในอเมริกา จนถูกนำไปทำเป็นภาพยนต์มากมายหลายเวอร์ชัน ซึ่งความจริงแล้ววีรกรรมของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ลุงเบ็นจะเล่าให้ฟังครับ
บอนนี อลิซาเบธ ปาร์คเกอร์ (ผู้หญิง, Bonnie Elizabeth Parker) และ ไคลด์ แชมป์เปียน แบร์โรว (ผู้ชาย, Clyde Champion Barrow) พบกันครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม ปี 1930 ที่รัฐเท็กซัส ในตอนนั้นบอนนีมีอายุ 19 ปีและเคยแต่งงานกับฆาตรกรคนหนึ่งที่กำลังติดคุก ส่วนไคลด์มีอายุ 21 ปี และไม่เคยแต่งงาน
หลังจากนั้นไม่นาน ไคลด์ก็ถูกจำคุกในข้อหาลักขโมย แต่เขาหนีออกมาได้เพราะได้ความช่วยเหลือจากบอนนีที่ลักลอบเอาปืนไปให้ไคลด์ในคุก ต่อมาเขาโดนจับเข้าคุกอีกครั้งและถูกปล่อยตัวโดยมีทัณฑ์บนในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1932 บอนนีและไคลด์จึงได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ทำให้ตำนานของทั่งคู่ได้เริ่มต้นขึ้น
ในปี 1932 บอนนีและไคลด์ได้เริ่มออกเดินทาง และมีเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปด้วยหนึ่งคนชื่อ เรย์มอน แฮมิลตัน แต่ต่อมาเขาถูกจับและโดนแทนที่โดย วิลเลียม แดเนียล โจนส์ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 1932
เหตุการณ์ที่นำไปสู่การจับกุมบอนนีและไคลด์คือเหตุการณ์ที่ตำรวจได้ไปพบรถฟอร์ดคันหนึ่งที่ถูกขโมยมาจากเมืองพอว์ฮัสกา รัฐโอคลาฮามา ถูกทิ้งไว้ใกล้กับเมืองแจ็คสัน รัฐมิชิแกน และพบรถฟอร์ดอีกหนึ่งคันที่ถูกทิ้งไว้ในเมืองพอว์ฮัสกา ซึ่งถูกขโมยมาจากรัฐอิลลินอยส์ หลังจากตำรวจได้ทำการสืบสวน ก็พบว่าบอนนีและไคลด์เป็นคนขโมยรถสองคันนี้มา ซึ่งหลักฐานคือขวดยา (ที่ถูกซื้อให้กับป้าของไคลด์) ที่ตกอยู่ในรถทั้งสองคัน หลังจากนั้นตำรวจก็ได้ออกหมายจับบอนนีและไคลด์ในข้อหาขโมยรถและใช้ขับเคลื่อนข้ามเขตรัฐในเดือนพฤษภาคม ปี 1933
ภาพประกอบ : ใบประกาศจับ ไคลด์ แบร์โรว ในข้อหาขโมยรถและใช้ขับเคลื่อนข้ามรัฐ
ต่อมา อีวาน บัค แบร์โรวผู้เป็นพี่ชายของไคลด์ได้ถูกปล่อยตัวออกจากคุก Texas State เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ปี 1933 เขาตัดสินใจมาเข้าร่วมกับไคลด์ทันทีพร้อมกับภรรยาของเขา บลานช์ ทำให้สมาชิกที่ร่วมออกเดินทางเพิ่มเป็น 5 คน
หลังจากนั้น แก๊งนี้ก็ได้ทำการปล้นสะดมไปทั่วซึ่งครอบคลุมถึง 5 รัฐ ได้แก่ เท็กซัส, โอคลาฮามา, หลุยส์เซียนา, มิสซูรี และ นิวเม็กซิโก ไม่ว่าจะเป็นการปล้นร้านค้า ปล้นธนาคาร รวมถึงการปล้นฆ่าอีกด้วย
เรื่องราวของแก๊งนี้กลายเป็นข่าวโด่งดังทั่วประเทศ โดยพวกเขาจะอยู่ตามขอบชายแดนรัฐเท่านั้น เพราะตำรวจไม่สามารถทำงานข้ามรัฐได้ เป็นเหตุให้พวกเขาหลบหนีการจับกุมได้บ่อยครั้ง
การจับกุมของตำรวจจึงเข้มข้นขึ้น จนนำไปสู่การยิงปะทะกันระหว่างแก๊งบอนนีและไคลด์ในวันที่ 29 กรกฎาคม ปี 1933 ที่รัฐไอโอวา ส่งผลให้บัค แบร์โรวโดนยิงเสียชีวิตและบลานช์ถูกจับกุม
ส่วนบอนนี ไคลด์ และโจนส์ สามารถหลบหนีไปได้ ทั้งสามคนบาดเจ็บสาหัสจาการโดนยิง แต่ต่อมาโจนส์ก็ถูกตำรวจจับกุมในเดือนพฤศจิกายน ปี 1934 ที่ฮูสตัน รัฐเท็กซัส
ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 1933 นายอำเภอประจำเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส พร้อมกับเจ้าหน้าที่หลายคน พยายามดักซุ่มและล้อมจับบอนนีและไคล์ดแถวเมืองแกรนด์แพรรี่ รัฐเท็กซัส และเป็นอีกครั้งที่ทั้งคู่หลบหนีจากการยิงต่อสู้ของเจ้าหน้าที่ไปได้
ในวันที่ 16 มกราคม ปี 1934 ผู้ต้องขัง 5 คน รวมถึง เรย์มอน แฮมิลตัน (ที่โดนโทษจำคุกกว่า 200 ปี) ได้วางแผนหลบหนีจากฟาร์มภายในเรือนจำ Eastham State โดยได้รับการช่วยเหลือจากบอนนีและไคลด์ จากการช่วยลักลอบปืนเข้าไปในเรือนจำผ่านทางคูน้ำ ทำให้ผู้คุมสองคนถูกยิงเสียชีวิต และหนึ่งในผู้ที่หลบหนีออกมาได้ คือ เฮนรี เมธวิน แห่งหลุยส์เซียนา ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในแก๊งของบอนนีและไคลด์ ส่วนเรย์มอนได้ออกจากแก๊งไปหลังจากมีปัญหากับบอนนีและไคล์ด และสุดท้ายเขาก็โดนตำรวจจับในเดือนเมษายน ปีเดียวกัน
ภาพประกอบ 2 : คนซ้ายคือ เรย์มอน แฮมิลตัน คนขวาคือ เฮนรี เมธวิน
กดที่ซีรีส์ข้างล่างเพื่อติดตามตอนต่อไปได้เลยครับ
References :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา