26 มี.ค. 2022 เวลา 07:15 • หนังสือ
นวลหยกงาม (15 เล่มจบ)
ซานเยวี่ยกั่ว เขียน
Honey Toast แปล (สำนักพิมพ์แจ่มใส)
น่าจะเป็นนิยายจำนวนเล่มมากสุดที่เราเคยอ่าน และอ่านรวดเดียวจบ ใช้เวลาตรากตรำดึกดื่นราว 11 วันก็จบเล่มสุดท้ายด้วยความประทับใจสุดซึ้ง
สิ่งที่สะพรึงกว่าคือนี่เป็นนิยายเรื่องแรกของ “ซานเยวี่ยกั่ว’ และสิ่งที่อึ้งงันกว่าคือนักเขียนทิ้งปมหลายอย่างไว้ ทิ้งความน่าจะมีภาคต่อไว้ ผ่านไปหลายปี นางก็ยังไม่เขียนซักที (กลับมาเขียนต่อเดี๋ยวนี้ๆๆๆๆ)
‘นวลหยกงาม’ ตั้งชื่อไพเราะมาก เล่าถึงชีวิตของ หลูอี๋อวี้ ตั้งแต่เป็นเด็กกำพร้า ถูกทิ้งไว้หน้าสถานสงเคราะห์เด็กตั้งแต่แบเบาะ สติปัญญาปานกลาง รูปโฉมปานกลาง ด้วยความที่นางไม่มีใครทะนุถนอม จึงพากเพียรอุตสาหะในทุกสิ่ง สมองไม่ดีมาก พรสวรรค์ไม่ต้องพูดถึง นางจึงยิ่งทุ่มเทความพยายาม คนอื่นท่องจำอ่านหนังสือรอบเดียว แต่อี๋อวี้อ่านแล้วอ่านอีก ท่องแล้วท่องอีก เพื่อกระเสือกระสนมีชีวิตที่ดีกว่า ไม่เคยนึกน้อยใจในชะตา
แต่แล้วในวันที่หญิงสาวอายุย่างเข้าสามสิบ ชีวิตธรรมดาๆ ของพนักงานกินเงินเดือน ฐานะระดับล่างในสังคม ก็ปลิดปลิวจากอุบัติเหตุ ยมทูตดำขาวสลับวิญญาณนางไปอยู่ในร่างเด็กหญิงสมองพิการวัยสี่ขวบในยุคต้าถังรุ่งเรือง กำเนิดในครอบครัวหญิงม่าย มีพี่ชายสองคน บ้านดินเก่าคร่ำแต่สะอาดสะอ้านในชนบท แม้จะยากไร้เพียงนั้น แต่ความรักความอบอุ่นในครอบครัวกลับล้นเหลือ
หลุอี๋อวี้ ในร่างเด็กหญิงที่พูดไม่ได้ตลอด 4 ปี ค่อยๆ เผยตัวตนต่อครอบครัวนี้ ซึมซับความอ่อนโยนกล้าหาญของแม่และพี่ชายทั้งสอง ความอบอุ่นที่ไม่เคยมีตลอดชีวิตสามสิบปีได้รับการเติมเต็มจนนางถือเป็นครอบครัวใหม่ที่ให้ชีวิตใหม่ อี๋อวี้ใช้สติปัญญาอายุสามสิบปีและความรู้ความสามารถของสาวยุคใหม่ ช่วยแก้ไขปัญหา คลี่คลาย หาทางออกให้ครอบครัวในวันอับจน
คนอ่านค่อยๆ เติบโตไปกับหลูอี๋อวี้ ได้อมยิ้ม ได้หัวเราะ ได้ซาบซึ้ง ได้กัดฟันข่มกลั้น ไปพร้อมกับนาง ตั้งแต่ 4 ขวบจนกระทั่งวันที่นางเอกกอปรเกียรติยศสูงสุด มีครอบครัวของตัวเองพรั่งพร้อม พลิกโฉมเป็นสตรีสูงศักดิ์มากบารมี
มีนางเอกก็ต้องมีพระเอก หลี่ไท่ องค์ชายสี่แห่งราชวงศ์ต้าถัง ลูกชายที่ชาติกำเนิดต่ำต้อย พ่อใช้เป็นโล่บังหน้า เผขิญคมดาบและความปลิ้นปล้อนนับไมถ้วน เป็นพระเอกที่คงคาแรกเตอร์ของตัวเองตั้งแต่แรกเจอจนเล่มจบอย่างยืนหนึ่ง พูดแต่ละประโยค คิดแต่ละอย่าง นี่คือตัวตนของหลี่ไท่แท้ๆ จุดนี้ชื่นชมนักเขียนมาก
หลี่ไท่ เป็นพระเอกสุดโฉด พูดเท่าที่จำเป็น เย็นชา แล้งน้ำใจ คิดแต่ผลประโยชน์ เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นและบู๊ วรยุทธ์สูงส่ง รูปโฉมเป็นหนึ่งในใต้หล้า ทว่าภายใต้ภาพงดงามคืออำมหิตโหดเหี้ยม ไม่รักษาน้ำใจใครเลย ทะเยอทะยาน เป้าหมายแน่วแน่ ต้องการกำจัดทุกคนเพื่อขึ้นครองบัลลังก์อย่างชอบธรรมโดยใช้วิธีฉลาดแยบยล กับ หลูอี๋อวี้ ที่เจอกันเพราะโชคชะตาฟ้าลิขิต เมื่อเขาแน่ใจว่าตัวเองพึงใจนาง ก็ค่อยๆ สอนสั่งให้อี๋อวี้แข็งแกร่งพอที่จะยืนเคียงข้างเชาได้ในภายภาคหน้า แต่ละวิธีที่พระเอกสรรหามาทดสอบนางเอกมีหนาวยะเยือก
หลี่ไท่ “พวกที่ไปเป็นเบาะรองหลังให้คนอื่น ประเภทหนึ่งเรียกว่าคนโง่ อีกประเภทเรียกว่าเบาปัญญา”
หลี่ไท่ “การเผยความในใจด้วยวาจา บางทีอาจไม่มีวันที่เขาจะสอบผ่านชั่วชีวิต แต่เขาจะชดเชยให้ทางอื่นเป็นสองเท่า”
ข้อความนี้น่าจะพูดถึงความรักของพระนางคู่นี้ได้แจ่มแจ้งที่สุดข้อความหนึ่ง
“เขากับนางจะเป็นคู่รักที่เดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกัน แต่ยังเป็นคนสองคนที่ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระแก่ตน เขามีเรื่องที่เขาต้องทำ นางก็มีเรื่องที่นางต้องทำ ไม่พูดไม่ถามหาใช่เพราะไม่สนใจไม่ห่วงใย มันเป็นการรู้ใจกันแบบหนึ่ง ตั้งใจทำหน้าที่ในส่วนของตนเองให้ดีจึงทำให้อีกฝ่ายยิ่งสบาย”
นอกจากเส้นเรื่องเข้มข้นพลิกแพลงให้คิดซับซ้อนชวนติดตามอยู่ใต้เตียงอี๋อวี้ตลอด 15 เล่ม ยังสอดแทรกการใช้ชีวิตคู่ ความสัมพันธ์ของคนสองคน ของคนมากกว่าสองคน ของคนหมู่มากในสังคมยุคนั้นอย่างแยบคาย ถามว่ามีช่วงน่าเบือหรือไม่ ตอบได้ว่าไม่เลย เป็นหนึ่งในหนังสือจำนวนน้อยมากๆ ที่เรากระหายใคร่รู้ชีวิตของอี๋อวี้ในหน้าถัดไป ถามว่าลำไยนางเอกบ้างหรือไม่ ตอบได้ว่ามีบ้าง แต่เมื่อรำลึกได้ว่านางเพิ่งอายุสิบห้าเท่านั้น แม้จะมีวิญญาณของสาววัยสามสิบ แต่ผู้หญิงทุกยุคล้วนไม่ต่างกัน ต่างมีความระแวง ต่างคิดมาก ต่างคิดฟุ้งซ่าน ต่างคิดไปไกล ต้องให้หลี่ไท่พูดห้วนๆ สยบความเตลิดเปิดเปิง “อย่าคิดฟุ้งซ่าน”
ถึงตรงนี้ คนอ่านหยุดคิดก่อนอี๋อวี้อีกจ้า
เคยอ่านความสงสัยของนักอ่านบางคนว่าทำไมนางเอกต้องทุ่มเทตัวเองเพื่อพระเอกขนาดนี้ ขอพูดแทนว่าเราเข้าใจนางมากๆ อี๋อวี้มาจากยุคปัจจุบันที่ต้องแก่งแย่งขันแข่งเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ต้องพยายามพัฒนาตัวเองทุกอย่าง เพียงเพื่อให้ได้งานทำหล่อเลี้ยงชีวิต เมื่อมีโอกาสมาอยู่ยุคโบราณ นางยินดีปากกัดตีนถีบยิ่งขึ้นเพื่อครอบครัว นางเต็มใจศึกษาเล่าเรียน มุมานะให้ตัวเองมีความภาคภูมิใจ พูดง่ายๆ อี๋อวี้เป็นนางเอกที่รักตัวเอง ในขณะเดียวกัน ก็รักครอบครัวและคนที่ดีกับนางมากๆ ด้วย
จึงไม่แปลกที่วันหนึ่งนางจะชมชอบ หลี่ไท่ พระเอกผู้สูงส่ง ชำนาญทุกศาสตร์ ผู้ให้ความช่วยเหลือนางและครอบครัวในช่วงอับจนที่สุด แม้แรกเริ่มจะเป็นเพียงความบังเอิญ ทว่าความฉลาดรู้ความ ความตั้งใจพากเพียร ความเจ้าเล่ห์แสนกล ความตรงไปตรงมา ความองอาจห้าวหาญ ก็ค่อยๆ เบี่ยงเบนผู้ชายเย็นชาหน้าบึ้งทั้งเรื่องให้มีรอยยิ้มมุมปาก (แวบเดียว) เพราะนางได้
จึงไม่แปลกที่อี๋อวี้จะตั้งใจทำให้ตัวเองดีขึ้นในทุกวันเพื่อเขา เพราะเขาคู่ควร เพราะเขามีเป้าหมายไม่ธรรมดา เพื่อตำแหน่งนั้น เพื่อไม่ให้ใครหยามหยันครอบครัวของนางและคนที่นางรักได้อีก อี๋อวี้จึงงัดทุกกลยุทธ์สุดชีวิต และนางทำได้
นางเอกไม่เก่งแต่ต้น รูปโฉมมิได้เลิศล้ำ ต้องเจอหลายเหตุการณ์ไม่เป็นดังใจ ต้องใช้สติแก้ไขประคับประคองไปทีละอย่าง พระเอกลับเหลี่ยมคมในตัวนางที่เขาประจักษ์ไปทีละวัน นางเองก็เรียนรู้ที่จะเติบโตไปทีละก้าว เรื่องราวจึงสนุก ลุ้นระทึกบ้าง หวานเร่าร้อนบ้าง (จริงๆ มากเลยแหละ) แกงคนอ่านบ้าง ไปอย่างนี้
เหมาะจะค่อยๆ อ่าน คะแนนเต็มสิบให้สิบเอ็ด บางปมยังค้างคา แต่ไม่ติดใจอะไรดีกว่า คะแนนสิบเอ็ดเต็มสิบยกให้หลี่ไท่ นักเขียนวางบุคลิกได้ดีงามในสามโลก ชื่นชมการสอดแทรกนิสัยรักการอ่านของพระเอกในทุกเล่ม นึกภาพชายหนุ่มรูปงามสีหน้าเฉยเมยนั่งพิงพนักบนตั่งตัวยาวริมหน้าต่าง ในมือถือม้วนอักษรพลิกอ่านอย่างตั้งใจ โอ้โฮ ชมชอบเหลือเกิน (ใช้คำในนิยายเลยนะ)
คะแนนเต็มนี้รวมถึงสำนวนแปลสละสลวย ใช้คำดีมาก ช่วงแปลลำนำเพลงพื้นบ้านคือไพเราะจับใจ
โฆษณา