27 มี.ค. 2022 เวลา 01:27 • คริปโทเคอร์เรนซี
เพจ : กัปตันเทรดดิ้ง
จัดทำเพื่ออ่านหนังสือเสียง
📌แชร์ประสบการณ์ชีวิตและข้อคิด 15 ข้อ
“อาชีพเทรดเดอร์”
เป้าหมายสูงสุด
” ซื้อบ้านซื้อรถเงินสด ”
* บทความนี้ยาวมากแต่คุ้มค่าที่จะอ่านทุกบรรทัด *
กัปตันครุ่นคิดอย่างหนัก
ว่าจะโพสต์บทความนี้ดีไหม
เป็นเวลากว่าปีครึ่ง ที่กัปตันทำเพจมา
ไม่เคยโพสต์โชว์กำไร มีแต่แชร์ความรู้ให้ฟรี
คนที่มาติดตามก็ติดตามเพราะเราให้ความรู้พวกเขา
และเราก็ไม่จำเป็นต้องโพสต์ชักชวนใครให้มาติดตามเพราะกำไร จึงเน้นหนักไปทางแชร์ความรู้ หน้าเพจคลีน มีแต่สาระทั้งจิตวิทยาและเทคนิคอลต่างๆ ที่ไม่ค่อยมีที่อื่น
บทความนี้จึงขอออกตัวไว้ก่อนว่า ไม่ใช่เพราะคิดว่าตัวเองสำเร็จแล้ว จะมาชี้หน้าสอนคนอื่น เพียงแต่กัปตันอยากแชร์ประสบการณ์ข้อคิดและแรงบันดาลใจเพื่อเป็นแนวทางและก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้อ่าน
2
เอาละกัปตันขอสรุปไว้เป็นข้อๆเน้นเป็นแนวทาง
และข้อคิดจิตวิทยาการเทรดต่างๆ
1.ถ้าเราอยากจะถามว่าเทรดแบบไหน สิ่งที่กัปตันเทรด เทคนิคที่กัปตันใช้ อยู่ในหน้าเพจประมาณ 70% สามารถเลื่อนอ่าน และเรียนรู้ได้เลยอีก 30% คือประสบการณ์และการตกผลึกส่วนตัว สิ่งนี้ไม่สามารถสอนกันได้
2.ถ้าการเทรดเกี่ยวข้องกับเทคนิคการเทรดจริงๆแต่ทำไมคน 90 % ที่รู้เทคนิคการเทรดที่เหมือนๆกัน ยังล้มเหลว คำตอบคือเทคนิคการเทรดไม่ได้สำคัญเท่ากับ จิตวิทยาการเทรด การควบคุมอารมณ์ วินัยต่างหากละที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน แต่กระนั้นก็อย่าลืมว่าเทคนิคอลก็สำคัญ ไม่ใช่ว่าเราจะหลอกตัวเองว่า Mindset ดีแล้ว ตูไม่ศึกษาเทคนิคเพิ่มเติม ไม่สนใจอะไรแล้วแบบนี้ก็ไม่เอา
3.ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเทรดไม่ใช่ตลาด ไม่ใช่เทรดเดอร์คนอื่น อย่าได้สนว่าเราเข้าออเดอร์สวนทางกับโค้ชคนเก่งหรืออาจารย์ท่านใดแล้วเราจะขาดทุน ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเราและอารมณ์ของเราเองต่างหาก ฉะนั้นหยุดโฟกัสที่จะไปชนะตลาด เราไม่มีทางชนะตลาดได้ เราเป็นเพียงแค่นักเรียนของตลาด และเราทำได้เพียงคล้อยตามตลาดไปในทิศทางเดียวกับมันก็เท่านั้นเอง
4.สิ่งเดียวที่เราควบคุมได้ในตลาด คือ " ความเสี่ยง " ไม่ใช่ผลกำไร เพราะความเสี่ยงเราสามารถกำหนดได้ตั้งแต่ต้นว่าเราสามารถยอมรับความสูญเสียได้เท่าไหร่ ก่อนที่จะเริ่มเทรดด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นโฟกัสที่ความเสี่ยงไม่ใช่ผลกำไร แม้ว่าเราจะสามารถประเมินศักยภาพของเราได้ว่า ต่อเดือน ต่อปี อัตราส่วนกำไรของเราจะได้กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ก็นั่นแหละ เราได้แค่ประเมินไม่ใช่ควบคุม (สำหรับผลกำไร)
5.Indicator เป็นแค่ตัวชี้วัดที่นำข้อมูลในอดีตและปัจจุบันมาคำนวณตามสูตรคณิตศาสตร์ของอินดี้แต่ละตัวและแปรผล
ออกมาตามค่าต่างๆ ที่ได้เซ็ทไว้ และแน่นอนว่าผลลัพธ์ของมันไม่เคยผิด มีแต่เราที่แปรผลของมันแบบผิดๆ และอาจจะนำไปใช้แบบผิดๆ เพราะฉะนั้นจงเรียนรู้วิธีการใช้มันเพื่อช่วยในการเทรด ไม่ใช่เพื่อนำการเทรดไปซะทั้งหมด
6.ความผิดพลาดคือบทเรียนในการเทรดจะเกิดขึ้นซ้ำๆ จนกว่าเราจะเรียนรู้จากมัน ความผิดพลาดเขาบอกว่ามันคือครู แต่ถ้าผิดซ้ำๆเขาเรียกว่าความล้มเหลว และมันจะไม่สำคัญเลยหากเราไม่รู้ว่าการเทรดแต่ละครั้ง เราผิดพลาดตรงไหนเพราะฉะนั้นการจดบันทึกคือหัวใจหลักในการเรียนรู้ที่จะไม่ทำผิดซ้ำเดิมอีก ( จงทำ Trading Journal )
2
7.ถ้าเราไม่สามารถควบคุมอารมณ์ในการเทรดของคุณได้ นั่นก็แปลว่าเราไม่สามารถควบคุมเงินทุนและความเสี่ยงของเราได้เช่นกัน อย่าลืมว่าการควบคุมอารมณ์ในการเทรดคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ต่อให้เรามีแผนการเทรดที่ดี มีระบบเทรดที่ดี แต่ถ้าหัวร้อน ทุกอย่างก็พังได้ในพริบตา
8.อย่าโทษอย่าว่าตัวเราเองว่าไม่เก่งเหมือนคนอื่น เมื่อเราเห็นผู้คนในโลกออนไลน์โชว์การทำกำไรจากเงินน้อยไปสู่เงินเยอะๆได้ในเวลาสั้นๆ หรือเขาโชว์กำไร เพราะสิ่งที่เราเห็นมันคือด้านที่เขาอยากให้เราเห็นก็เท่านั้นเอง
บทความนี้ของกัปตันก็เหมือนกันอย่าได้เชื่อไปซะทั้งหมด กัปตันไม่ใช่เทพ กัปตันก็มีช่วงเวลาที่แพ้ ขาดทุน เครียด ไม่ได้ต่างจากพวกเรา
9.ห้ามหยุดเรียนรู้ เปิดใจรับสิ่งใหม่ ลดอัตตาของตัวเอง ทำตัวเองให้เป็นน้ำก้นแก้ว การหยุดเรียนรู้พัฒนาและไม่ฝึกฝนถือเป็นความเสี่ยงรูปแบบนึง ใครบอกตลาดไม่เคยเปลี่ยนกัปตันยืนยันเลยว่าตลาดเปลี่ยนทุกปี มีปัจจัยเสริมเข้ามาตลอด แต่สิ่งนึงที่ไม่เปลี่ยนคือ ยังมีคนขาดทุนเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่เยอะกว่าคนได้กำไร เงินจากคนใจร้อนจะไหลผ่านไปสู่คนใจเย็น ฉะนั้นอย่าหยุดเรียนรู้และปรับตัว
10.การเทรดเราวัดผลลัพธ์กันในระยะยาวเหมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ได้วัดกันแค่ไม่กี่ออเดอร์ไม่กี่เดือน การเทรดไม่ได้จบเพียงแค่กำไรเดือนนี้หรือปีนี้ การเทรดเป็นสิ่งที่ถ้าเราได้กำไร ยากที่เราจะออกจากตลาด ยกเว้นว่าเราขาดทุนหมดตัว เพราะฉะนั้นหลายคนอาจจะทำกำไรได้ดีในปีแรกๆแต่พอปีหลังๆ เจอวิกฤตเจอสถานการณ์ที่เปลี่ยน อาจจะขาดทุนทั้งปีก็ได้ พอขาดทุนเราก็ใจเสียเลยเทรดแบบไร้สติทำให้พอร์ตพัง เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกลับหลายคนมาก แม้แต่กัปตันที่เคยผ่าน Consecutive loss เป็นปี แม้เราจะเทรดเก่งแค่ไหนแต่ยืนระยะไม่ได้ รักษาความมั่นคงไม่ไหวสุดท้ายก็ออกจากตลาดไป
11.วินัยกับอาชีพเทรดเดอร์ ตลาดนี้สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการมีวินัย มีวินัยที่ต้องทำตามแผน วางแผน และมีวินัยในการเข้าออกออเดอร์ รู้ว่าตอนไหนควรเข้า ตอนไหนควรออก อาชีพเทรดเดอร์อิสระ แตกต่างจากอาชีพอื่นที่มันไม่มีกฏไม่มีระเบียบมาบังคับเรา เราจะเทรดยังไงเทรดเมื่อไหร่ก็ได้ (กรณีพอร์ตส่วนตัวไม่ใช่ของเฟิร์ม)
บ่อยครั้งความสะดวกสบายนี้มันทำให้เราขาดวินัยในตัวเองไป ในขณะที่อาชีพอื่นหากคุณ ขาด ลา มาสายบ่อย อู้งานบ่อย มันจะส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าในอาชีพ และเงินเดือนของเรา สิ่งนี้จะมาคอยบังคับตัวเราเองให้เรามีวินัยที่จะให้เราทำตามแผนได้ตลอดรอดฝั่ง
คำแนะนำใดๆ หรือเทคนิคต่างๆ จะไม่ช่วยให้เราเทรดได้ดีขึ้นเลย หากเราปราศจากสิ่งที่เรียกว่า " วินัย " เพราะมันคือสิ่งสำคัญ จะช่วยบังคับให้เราทำสิ่งที่ไม่อยากทำ แต่เป็นผลดีแก่ตัวเราในระยะยาว ฉะนั้นจงมีวินัยเข้าไว้ มีวินัยที่จะทำตามแผน มีวินัยที่จะคัทลอส มีวินัยที่จะฝืนอารมณ์ตัวเองทำในสิ่งที่ถูกต้อง
12.ไม่สำคัญว่าเราจะวิเคราะห์ถูกหรือผิดในตอนต้น แต่สำคัญว่าท้ายที่สุดแล้วการเทรดของเราจะสร้างผลกำไรให้เราหรือไม่ต่างหากละ ฉะนั้นให้โฟกัสที่กระบวนการและผลลัพธ์ระยะยาว มากกว่าการเทรดเพื่อหวังรวยทางลัด ไปวันๆ เพราะมันไม่มีทาง เราอาจจะโชคดี Overtrade ได้กำไรมาแต่สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องคืนให้กับตลาดไปอยู่ดี
13. เงินทุนน้อย เลยได้กำไรน้อย ? เพราะหากเราจะรวยจากการเทรดได้เราต้องมีทุนเยอะๆเข้าไว้ ยิ่งปลอดภัยและทำกำไรได้ง่าย
เช่นหากเราอยากทำกำไร 10% ต่อเดือน แต่ถ้าหากเป็น 10% ของเงินทุน 1,000$ = 100$ ไม่พอค่ากินต่อวันด้วยซ้ำ และถ้าเป็น 10% ของเงินทุน 100,000$ = 10,000$ อื้อหือเดือนละ 3 แสนบาทไทย นี่มันเงินเดือนผู้บริหารชัดๆ
แต่เดี๋ยวก่อน ! นี่คือปี 2022 แล้ว ข้ออ้างเรื่องทุนน้อยในอดีตเคยใช้ได้ผลในปัจจุบันมี Prop Firm (บริษัทที่ให้ทุนเรา หากเราสอบผ่าน) เต็มไปหมด ถ้าเราเก่งจริง มีศักยภาพจริง เราก็ใช้เงินทุนน้อยๆ ของเราไปสอบแล้วได้เงินมาบริหาร หลักล้าน หลักสิบล้านได้ ซึ่งปัจจุบันคนไทยก็ตื่นตัวเรื่องนี้ มีคนสอบกันเต็มไปหมด ไม่จำเป็นต้องมีทุนเยอะอีกต่อไป ถ้าใครสนใจ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่
ปัจจุบันกัปตันก็ทั้งสอบ และทั้งเทรดให้กองทุนเหล่านี้
ผ่านบ้าง ตกบ้างว่ากันไป แต่หมดปัญหาเรื่องทุนน้อยแน่ๆ
ใช่ไหมทุกคน
15. ข้อสุดท้ายไม่มีอะไรจะแนะนำเพิ่มเติม แค่อยากจะให้กำลังใจและแรงบันดาลใจ เมื่อเราอ่านโพสต์นี้จบอย่าให้ไฟในใจมันหายไปเมื่อเราตื่นมาในพรุ่งนี้ แต่ให้เชื่อมั่นว่าเราทำได้ถ้าเราคิดจะมาสายนี้จริงๆลองดูกับมันสักตั้ง เอาจริงให้สุดทางผลลัพธ์จะออกมาดีหรือร้ายนั่นคือสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม แต่เราควบคุมกระบวณการต่างๆได้ และขอขอบคุณพวกเราที่ช่วยสนับสนุนกัปตันมาตลอด สิ่งที่กัปตันแชร์
มันใช้ได้จริงและพิสูจน์มาแล้ว ที่เหลือคือเรา เราเท่านั้นหละที่จะพาตัวเองไปยังจุดที่เราตั้งไว้ได้ ....
อ้อ ! ข้อ 14 ไม่มีนะครับขอข้าม
ตอบ คำถามท้ายบทความที่ถามกันเข้ามา
- ทำไมต้องซื้อบ้าน ซื้อรถเงินสด ไม่นำเงินไปลงทุนต่ออะ?
ตอบ : นอกจากจะไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแล้ว มันยังเป็นเป้าหมายสูงสุดของกัปตันเอง และถือว่าตัวเองได้ทำตามเป้าหมายที่วางไว้แล้วก็แค่นั้น
ทั้งนี้กัปตันก็บริหารเงินไว้ทุกทางแล้ว
ไม่ใช่ว่าซื้อบ้านซื้อรถเงินสดปุ๊ป จะหมดเงินทันที แบบนี้มันก็เสี่ยงไป คงไม่ใช่วิสัยทัศน์ของคนที่จะเป็นเทรดเดอร์บริหารความเสี่ยงได้ เงินสำรองฉุกเฉินต้องมี เงินลงทุนต้องยังเหลือ
- เทรดตลาดอะไรบ้าง และอยู่ในตลาดมากี่ปี
ตอบ : เทรดตลาด FOREX , Crypto , ตลาดหุ้นสหรัฐ , เยอรมนี ไม่เทรดตลาดหุ้นไทย / กัปตันอยู่ในตลาดมาประมาณ 10 ปี ด้อมๆมองๆ แต่เทรดจริงๆ จังๆ ที่นับสถิติที่ลงใน Myfxbook คือประมาณ 5 ปี ที่เหลือคือล้มลุกคลุกคลาน เทรดบ้างหยุดบ้าง เลยไม่ขอนับ 5 ปีก่อนหน้า
- เมื่อก่อนทำอาชีพอะไร ?
ตอบ : เป็นข้าราชการ ขออนุญาตไม่บอกหน่วยงาน เพราะคิดว่ามันคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับผม
และก่อนจะจบบทความนี้ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจบ
กัปตันขออะไรได้ไหม ช่วยคอมเม้นท์บอกกัปตันหน่อย
ว่าความสำเร็จ หรือเป้าหมายที่พวกเราตั้งไว้ในการเป็นเทรดเดอร์คืออะไร? และไม่ว่ามันจะคืออะไร กัปตันขอให้สำเร็จทุกประการ สาธุ.... 🙏🙏
#กัปตันเทรดดิ้ง
cr.กัปตันเทรดดิ้ง
โฆษณา