27 มี.ค. 2022 เวลา 14:41 • สุขภาพ
ราวๆเดือนตุลาปี 2558 หลังเสร็จจากกิจธุระการงานที่ทำประจำก็มักจะมานั่งพักอิริยาบถหยิบโทรศัพท์มาไถดูฟีดของคนที่เป็นเพื่อนกันบนหน้าเฟสบุ้คพร้อมกด
หรือแสดงความคิดเห็นบ้าง เหมือนผู้คนปกติส่วนใหญ่ในสังคมออนไลน์ที่ทำกันจนเป็นกิจวัตรประจำวัน อีกอย่างก็เป็นการยืนยันตัวตนเองเหมือนกันว่าปกติไม่ซึมไม่เศร้าแล้ว แต่ยังต้องกินยาเป็นประจำเหมือนเดิม และไปพบหมอตามนัดจากทุกอาทิตย์เป็นทุกเดือนเป็นสามเดือนและยาวสุดก็คือหกเดือน ส่วนสาเหตุที่หายแล้วก็ยังต้องไปหาหมอนั้นก็เพราะคุณหมอต้องรีเช็คอาการเหมือนเช็คสภาพรถยนต์อย่างไรอย่างนั้น และที่สำคัญต้องจัดยาว่าสามารถปรับลดลงได้ไหม หรือต้องปรับขึ้น แฮร่!
ช่วงเวลานั้นฟีดกิจกรรมที่เพื่อนๆทำส่วนใหญ่ และชวนให้ผมสนใจก็คือการออกกำลังกาย เพราะผมเองก็เคยหายจากโรคนี้ด้วยการออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ได้ต้องออกจริงจังมากมายเหมือนนักวิ่ง นักปั่นที่ภายหลังจากทำกิจเสร็จก็ต่างพากันโพสอวดโพสโชว์กันอย่างมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเห็นหน้าฟีดของพี่หมู พี่ชายที่แสนดีของผมที่โพสภาพสวยๆของบรรยากาศงานวิ่ง เรซหรือเส้นทางที่วิ่ง พร้อมผู้คนรวมถึงไอเท็มต่างๆ อาทิเช่น รองเท้าวิ่ง นาฬิกาวิ่ง หูฟัง ตลอดจนข้อมูลสถิติของการวิ่งในแต่ละครั้ง และที่ขาดไม่ได้ แค็ปชั่นเก๋ๆโปรยก่อนรูปที่จะโพส ซึ่งจะว่าไปแล้วช่วงเวลานั้นนักวิ่งทำกันแบบนี้เกือบทุกคน แต่สิ่งที่ผมสนใจ และบอกตัวเองเสมอก็คือทั้งพี่หมูทั้งนักวิ่งคนอื่นดูมีความสุขมากมายเหลือเกินหลังจากวิ่งเสร็จแล้ว
จนในช่วงกลางเดือนนั้นหลังจากส่งของให้ลูกค้าองศ์กรแห่งหนึ่งก็เหลือบหันมองไปเห็นโต๊ะรับสมัครงานวิ่งของหน่วยงานภายในตรงหน้าตึก แถมเป็นรายการวิ่งการกุศลเสียด้วย ด้วยความสนใจบวกกับสงสัยก็เลยขอเดินเข้าไปสมัคร โดยตั้งใจว่าจะเลือกระยะวิ่งที่น้อยที่สุดเท่าที่งานมีให้วิ่ง ซึ่งผลก็คือต้องวิ่งที่ระยะ 5 กิโล!
แต่ก็ตัดสินใจจ่ายเงินค่าสมัครไปทันทีโดยที่ไม่คิดเลยว่าที่ผ่านมาแค่วิ่งในหมู่บ้านไม่ถึง 2 กิโลก็ไม่ไหวแล้ว..
โฆษณา