28 มี.ค. 2022 เวลา 11:10 • สุขภาพ
ถ้าติดโควิดต้องทำอย่างไรบ้าง หลังจากผมติดโควิดเมื่อวานนี้จึงลองเขียนเป็นบทความดูครับ อาจทำให้คนที่ติดเชื้อบางท่าน ที่เจอโควิดสามารถรับมือได้ดีกว่าผม (ที่ลนลานมากๆ!)
1
เมื่อวานนี้ผมรู้สึกเจ็บคอมาก หายใจไม่ออกจนทนไม่ไหว เป็นอาการที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ใช่อาการภูมิแพ้ที่มีโดยปกติ สุดท้ายก็เลยสังหรณ์ใจ เอา ATK มาตรวจ ปรากฏว่า เรียบร้อยครับขึ้น 2 ขีด
จริงๆ ผมเขียนบทความเรื่องหนึ่งใกล้จะเสร็จแล้ว แต่พอเจอเชื้อปั๊บ มันมึนไปหมด มือไม้อ่อนไปเลย พิมพ์ไม่ไหว ไม่รู้ว่าต้องนับหนึ่งเริ่มทำยังไง แฟนติดไหม ลูกล่ะ เราเอาเชื้อไปติดพ่อแม่เราด้วยหรือเปล่า
หลังจากรวมสติได้ ประมวลทุกอย่างในหัว สิ่งที่ต้องทำแบ่งออกเป็น 3 อย่าง
1
1) เราจะรักษายังไง ต้องกินยาแบบไหน
1
2) เราติดแล้วต้องทำยังไง ภรรยากับลูกสาวล่ะ จะติดด้วยไหม ถ้าเขาไม่ติดแล้วจะอยู่กันยังไง
3) เราติดจากไหน จะได้แจ้งให้คนที่เกี่ยวข้องรีบตรวจ ATK
เริ่มจากข้อ 1 ก่อนนะครับ ถ้าติดโควิดขึ้นมาต้องทำอย่างไร แบบง่ายสุดคือ โทรเข้าสายด่วนของรัฐ 1330 ขอคำแนะนำจากเขาได้เลย (แต่โทรติดยากมาก) คนที่เคยโทรติดเล่าว่า พอรับสายเขาจะถามอาการของเราว่าหนักไหม ต้องการรถพยาบาลหรือเปล่า
จากนั้นเขาจะแบ่งความรุนแรงของโควิดออกเป็น 3 แบบ คือ สีเขียว (ไม่ป่วยเท่าไหร่ พอทนได้) , สีเหลือง (อาการออก เริ่มน่าห่วง) และ สีแดง (วิกฤติ)
ด้วยความที่คนติดเชื้อกันวันละหลายหมื่นคน ทำให้เตียงในโรงพยาบาลมีจำกัดมาก ดังนั้น รพ. จะเว้นไว้ให้กับคนที่เป็นสีเหลืองหรือสีแดง ถ้าคนธรรมดาติดเชื้อแบบไม่ออกอาการเท่าไหร่ ก็คาดคะเนไว้ก่อนว่าเป็นสีเขียวเลย
ถ้าหากเป็นสีเขียว 1330 จะให้เรา Isolation อยู่บ้าน แล้วเขาจะประสานกับหน่วยแพทย์ท้องถิ่นเอายามาให้เราถึงที่เลย
นี่คือแบบแรก แต่ปัญหาคือ 1330 มักจะโทรไม่ค่อยติด (เคยออกข่าวว่า เจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัดแล้วคนโทรเข้ามาหลายหมื่น ยิ่งในช่วงหลังที่ระบาดหนักๆ) ดังนั้น สำหรับคนร้อนใจ มีวิธีที่เร็วกว่านั้นคือ ติดต่อโรงพยาบาลโดยตรงเลย
โรงพยาบาลจะรับคุณเป็นคนไข้หรือเปล่านั้น คุณต้องตรวจ PCR-Test กับโรงพยาบาลของเขา (จ่ายเงินสดประมาณ 3 พันบาท) ถ้าหากผล PCR บอกว่าติดเชื้อ คุณหมอจะมาพิจารณาต่อว่า สีเขียว เหลือง หรือแดง ถ้าเหลือง-แดง ก็ได้แอดมิทนอนโรงพยาบาล แต่ถ้าหมอว่าอาการไม่หนักเป็นแค่สีเขียว ก็จะให้พักผ่อนที่บ้าน ซึ่งเราก็ต้องฟังตามหมอ
ผมทราบราคาของ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมาด้วย ในกรณีที่เขารับเราแอดมิทเพราะโควิด จะคิดเงิน 7 วัน 1 แสนบาทครับ เป็นราคาที่มหาโหดอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าคิดในสภาพการณ์ที่ใครๆ ก็อยากได้เตียง อยากมีแพทย์ดูแลตลอด ราคานี้อาจอยู่ในวิสัยที่รับได้อะนะ
1
ตอนที่ผมรู้ว่าติดเชื้อ ตอนนั้น 18.15 น. ละครับ ผมเลยโทรไปหาหลาย รพ. มากๆ เช่น สินแพทย์ Medpark ฯลฯ แต่ รพ.แทบทั้งหมด บอกว่า การ PCR-Test จะทำปุบปับเลยไม่ได้ บางวันมีคิวแค่ 50 คนเอง คนไข้ต้องจองคิวล่วงหน้า รพ.จะตรวจ PCR เฉพาะเวลา 08.00-18.00 ซึ่งทุกรพ. จะให้ผมเข้าอินเตอร์เนต เพื่อไปจองคิวมาตรวจวันรุ่งขึ้น
1
แต่ผมลนลาน และร้อนใจ รอข้ามวันไม่ได้ เลยพยายามตามหาไปเรื่อยๆ และไปเจอ รพ. ที่รับตรวจ PCR ตอนดึกครับ แถมยังมีหมอคอยแนะนำด้วย รพ.นั้นคือ รพ. บีแคร์ ย่านสายไหมครับ ต้องขอบคุณ รพ. ด้วยจริงๆ ที่อุตส่าห์เปิด ไม่งั้นผมคงว้าวุ่นจนทำอะไรไม่ถูก
การทำ PCR คือการแยงจมูก + ปาก ต่างจากตรวจ ATK ที่แยงจมูกอย่างเดียว
ผลของ PCR การันตี 99.9999% มีความชัวร์สูงมาก อย่าง ATK ยังแค่ 80-90% มี False Positive กันหลายเคสแล้ว อย่างเวอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็เคย False Positive นะ คือเหมือนจะติดแต่ไปตรวจ PCR แล้วไม่ติด เป็นต้น
การ PCR ของรพ. บางแห่งกว่าจะได้ผลตรวจก็เป็นวันๆ แต่บางรพ. จะเร็วมากครับ 4 ชั่วโมงรู้เรื่อง ติดก็ติด รู้เลยวันนั้น
ตอนผมตรวจ PCR เสร็จ (ยังไม่รู้ผล) แต่รพ. ก็ปฏิบัติกับผม ในแบบเดียวกับคนไข้ (ซึ่งก็ถูกต้องแล้ว) แล้วพาไปหาคุณหมอครับ
1
พอเจอหมอ เขาบอกว่า "คุณคนไข้ ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น สถานการณ์ตอนนี้ มันติดกันได้ง่าย แล้วคุณคนไข้ฉีดวัคซีนกี่เข็มแล้วนะครับ"
ผมก็ตอบไปว่า "ซิโนแวค 2 เข็ม กับ โมเดอร์น่า 2 เข็มครับ" หมอตอบว่า ก็โอเคแล้วนะ ไม่น่าเป็นห่วงอะไร แล้ววันนี้มีอะไรอยากจะถามหมอไหม
ผมก็ถามว่า ผมไม่รู้ว่าต้องเริ่มนับหนึ่งยังไง ถ้าติดเชื้อโควิด หมายถึงต้องกินยาอะไร
1
หมอบอกว่า คุณวิศรุต มีอาการคัดจมูก และไอด้วย หมอจะสั่งยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ตามอาการ ส่วนโควิดนั้น หมอจะจ่ายยาที่ชื่อ ฟาวิพิราเวียร์ ให้ครับ
ยาฟาวิพิราเวียร์ ว่าง่ายๆ คือยาต้านไวรัส ที่คอยเบรกไม่ให้มันออกฤทธิ์ไปมากกว่านี้ คือไวรัสอยู่ในตัวเราแล้ว ร่างกายเรากำลังสู้อยู่ และยาฟาวิฯ จะเข้าไปช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของมัน เพื่อให้ร่างกายเราต่อสู้กับมันได้ดีขึ้นครับ
คนน้ำหนักไม่ถึง 90 กิโลกรัม จะกินเช้าเย็น 9 เม็ด ในวันแรก จากนั้นจะลดปริมาณเหลือเช้า-เย็นรอบละ 4 เม็ด
1
หมอบอกว่าติดแล้วก็ติดไป ไม่ต้องห่วงขนาดนั้น ไม่ต้องคิดมาก ถ้ามีวัคซีนแล้ว มียาฟาวิฯ อีก ก็ยากที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิต หมอบอกว่าบางคน 3-5 วัน ตรวจซ้ำใหม่ก็หายแล้ว ทำใจสบายๆ ไม่ต้องคิดมาก ตอนนี้แค่แยกตัวที่บ้าน กับครอบครัวก็พอ แยกกันอยู่คนละชั้นเลยจะดีที่สุด
2
โอเค พอได้คุยกับหมอ เราก็ใจเย็นลงครับ เพราะว่าไปแล้วตอนนี้ใครๆ ก็คิดโควิดกันได้ แล้วมันจะแปลกอะไรที่เราจะต้องโดนสักวัน (แต่ผมเองก็ระวังตัวไม่พอจริงๆ ก็ต้องโทษตัวเองครับ)
สำหรับคนที่มีประกันโควิด ก็สามารถใช้เบิกได้ครับ แต่คนที่ไม่มี จ่ายค่า PCR ค่าเจอหมอ ค่ายาฟาวิฯ รวมๆ แล้วก็ประมาณ 6 พันบาทครับ
เอาล่ะ เมื่อข้อแรกผ่านแล้ว รู้ว่าไม่ตายแน่ ก็มาถึงข้อ 2 คือ "แล้วเราจะใช้ชีวิตยังไง" ปกติที่บ้านผมจะมี 3 คน ผม แฟน และน้องเกว็น ลูกสาว เวลานอนเกว็นไม่เคยห่างพ่อ ก็จะอยู่ด้วยกันตลอดจนเขาหลับ แล้วผมค่อยลงไปทำงานอะไรก็ว่ากันไป
1
แต่พอรู้ว่าตัวเองติดโควิดแล้ว ภรรยาผมกับลูกสาว ก็ต้องตรวจ ATK ด้วย ปรากฎว่าทั้งคู่ไม่ติด ผมก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง อย่างน้อยก็มีผมติดเชื้อคนเดียว ก็ยังดี
ผมโทรไปเช็กกับพ่อแม่ตัวเอง ทุกคนก็เซฟดีไม่มีใครติดเชื้ออะไร สรุปคือเชื้อมีแค่อยู่กับผมคนเดียว
1
เอาล่ะ ทีนี้เราก็ต้องเริ่มกระบวนการ แยกที่อยู่กัน บางคนอาจเลือกไปอยู่ Hospitel ก็ได้ ก็เป็นสัดเป็นส่วนดี แต่คนที่คิดว่าอยู่บ้านตัวเองดีกว่า ก็อยู่ได้เหมือนกัน สรุปคือผมอยู่ในห้องนอนชั้นบน ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนภรรยากับลูกสาวจะนอนชั้นล่างครับ
2
สิ่งที่ทรมานที่สุดของผม ไม่ใช่อาการเจ็บคอ มึนหัว ไม่สบาย แต่เป็นการที่ลูกสาวร้องเรียกหาพ่อ แงๆ อยากขึ้นมาอยู่ด้วย คือเขายังเด็กมาก เกินกว่าจะเข้าใจว่าทำไม
ก็พ่ออยู่ข้างบนนี้ชัดๆ ทำไมเจอกันไม่ได้ มีแอบปีนบันไดตอนแม่เผลอ จนผมต้องล็อกห้องไว้
2
ผมว่าอีกสัก 1-2 วัน เกว็นคงจะชิน แล้วคงจะดีขึ้นครับ คุณแม่คงอธิบายให้เขาพอเข้าใจจนได้
1
ผมเคยได้ยินมาตลอดว่า โควิดเป็นโรคที่โดดเดี่ยวอ้างว้าง ก็เพิ่งเข้าใจว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
1
หากเรารักใครสักคนจริงๆ เราจะไม่มีทางยอมเลยที่จะเอาเชื้อจากตัวเองไปติดให้เขา ดังนั้นเราจะยอมแยกตัวออกไป ไม่เจอหน้ากันก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่เขาสบายดี เราก็มีความสุขแล้ว
5
ลองนึกถึงคนที่เขาเสียชีวิตกันไป โดยที่ไม่ได้ร่ำลากัน มันคงฟีลลิ่งแบบนี้อะเนอะ ยิ่งรักเท่าไหร่ ยิ่งอยากให้เขาปลอดภัย
เศร้ามากจริงๆ เลย นี่ขนาดผมแค่ติดเชื้อวันเดียว (แบบสีเขียวอีกต่างหากด้วยนะ)
นอกจากนั้นยังสงสารแฟนด้วย ที่เขาต้องรับมือลูกคนเดียวทั้งวัน แถมต้องหาข้าว หายาให้ผมกินอีก ขอบคุณมากจริงๆ ถ้าไม่มีเขาผมเองก็คงมืดแปดด้านไปแล้วเหมือนกัน
ข้อ 1 ข้อ 2 เคลียร์แล้ว มาถึง ข้อ 3 คือติดอย่างไร? ติดตอนไหน
มาคิดดูความเป็นไปได้ มีโอกาสที่สุดคือวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่ผมไปนอกบ้าน เพื่อไปร่วมงานของ Supersports ที่เอาเท็ดดี้ เชอริงแฮม มาเยือนประเทศไทยที่เซ็นทรัลเวิลด์
 
ก่อนออกจากบ้านผมตรวจ ATK ก็ยังปกติดีนะครับ ขีดเดียว ดังนั้นก็เลยคิดว่า ถ้าจะติดเชื้อจากสักที่ ก็คงเป็นวันนั้น เพราะมีบางโมเมนต์ที่ต้องถอดแมสก์มาถ่ายรูป กับคนนี้คนนั้นเหมือนกัน
งานวันนั้น เชอริงแฮม มาแจกลายเซ็นให้แฟนบอล 80 คน และมีอินฟลูเอนเซอร์ไปด้วยหลายคน ซึ่งผมก็ไปคุยกับทุกๆ คน
พอจบอีเวนต์วันพฤหัสบดี แรกๆ ก็ไม่เป็น แต่พอ เสาร์-อาทิตย์ ร่างกายก็ทรุดลงเรื่อยๆ จนรู้สึกได้ว่ามีอะไรผิดปกติแล้ว แล้วก็จริงๆครับ ติดโควิดจริงๆ นั่นแหละ
1
ผมไม่รู้ว่าติดเชื้อจากใคร แล้วเอาไปปล่อยให้ใครต่อบ้าง นั่นทำให้เมื่อคืนผมไล่โทรหาทุกคน พี่จอม บอ.บู๋, ดูบอลกับแนท, ป๊อป วีระพล, เบลล์ ขอบสนาม ฯลฯ ผมโทรหาทุกท่านเท่าที่พอจะมีเบอร์ครับ เพื่อจะบอกว่า ผมติดเชื้อ เขาจะได้ไปตรวจ ATK ถ้าไม่ติดก็ดีไป แต่ถ้าติดจะได้ระวังตัวมากๆ ไม่แพร่ให้คนใกล้ชิดต่อ
ในวันนั้นมีลูกเพจหลายท่าน ถ่ายรูป และยืนคุยใกล้ๆ กับแอดมิน ผมไม่รู้จะติดต่อพวกท่านยังไงนะครับ ก็ขอแจ้งผ่านเพจตรงนี้เลยนะครับ ว่าไปตรวจ ATK ทีนะครับ
จริงๆ แล้ว ผมก็ระวังตัวประมาณหนึ่งแล้วนะ เพราะอยู่กับโควิดมา 2 ปีแล้ว ยังไม่เคยติด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ติดจนได้ เสียใจมากเลยครับ อนาคตเราต้องเซฟตัวเองให้มากกว่านี้อีก ครั้งนี้คงทำไม่ดีพอจริงๆ
1
ขอโทษทุกท่านที่ต้องลำบากไปกับแอดมินนะครับ ขอให้ทุกคนแคล้วคลาดปลอดภัยนะครับผม อย่ามาติดโควิดกันในคราวนี้เลยนะ
ทุกท่านระมัดระวังตัวด้วยนะครับ ถ้าติดแล้วก็แก้ไขปัญหากันไป แต่จะดีที่สุดถ้าไม่ติดเชื้อแต่แรกครับผม
1
โฆษณา