29 มี.ค. 2022 เวลา 11:13 • ไลฟ์สไตล์
ปกหลัง
ปกหลังครั้งนี้ เป็นโฆษณาของสุราไทยที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุด เป็นที่นิยมที่สุด และขายดีที่สุดมาแล้วในอดีต นั่นคือสุราตราแม่โขงนั่นเอง
‘แม่โขง’ เป็นสุราที่ในอดีตผลิตโดยโรงกลั่นสุราบางยี่ขัน ตามเกร็ดประวัติศาสตร์แล้ว…บางยี่ขัน หรือปากคลองบางยี่ขัน ริมฝั่งธนบุรีนั้น ในอดีตเป็นย่านต้มสุรา มีมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 1 เลยทีเดียว เริ่มจากมีนายอากรสุราชาวจีนมาปลูกโรงต้มสุราในบริเวณนี้
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 ได้มีการโอนโรงงานสุราบางยี่ขัน มาเป็นกิจการของรัฐ ควบคุมและดูแลผลประโยชน์โดยกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ให้เอกชนประมูลสัมปทานและใบอนุญาตให้ผลิตสุราออกจำหน่าย และในปี พ.ศ. 2472 รัฐได้เข้ามาควบคุมการผลิตทั้งหมดเอง แต่ให้สัมปทานเอกชนในการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า มีการปรับปรุงโรงงานให้ทันสมัย มีการผลิตสุราใหม่ๆออกมา รวมถึง ‘เชี่ยงชุน’ เหล้าขาวจีน 28 ดีกรี ที่ยังคงผลิตมาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อการดื่มสุราจากต่างประเทศได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ประเทศต้องเสียดุลย์การค้า รัฐเลยมีนโยบายที่จะลดการนำเข้าสุราจากต่างประเทศ ด้วยการผลิตสุราแบบวิสกี้ที่สามารถดื่มได้เพียวๆหรือผสมกับโซดาที่กำลังได้รับความนิยมในเวลานั้นให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนไทย
กรมสรรพสามิตจึงได้พัฒนา ‘สุราปรุงพิเศษ’ ขึ้นมา เป็นสุราผสม 35 ดีกรีที่หมักจากชานอ้อยและข้าวเหนียว รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆอย่าง ส่าแดง น้ำตาล และแม้แต่เครื่องเทศอย่าง เม็ดผักชี ตะไคร้ กระวาน มีสีเหลืองอำพันเจือทองแดง มีรสชาติแรกคือ หวานปลายลิ้นกลมกล่อม
‘แม่โขง’ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2484 ในยุคของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่ากันว่าชื่อ ‘แม่โขง’ นี้ เกิดขึ้นจากอิทธิพลของเพลง ‘ข้ามโขง’ ที่แต่งโดยหลวงวิจิตรวาทการ อธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้น เพลงที่แต่งขึ้นเพื่อปลุกใจให้ประชาชนรู้สึกรักชาติรักแผ่นดิน เพื่อเรียกร้องดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขง 4 จังหวัด อันได้แก่ เสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ และนครจำปาศักดิ์ คืนจากประเทศฝรั่งเศสจนเกิดกรณีพิพาทและนำไปสู่สงครามอินโดจีน
เพลง ‘ข้ามโขง’ นี้เป็นที่โด่งดัง ได้รับความนิยม สร้างความหึกเหิมให้กับประชาชนสมใจท่านผู้นำ จนกรมสรรพสามิตเกิดแรงจูงใจ ตั้งชื่อสุราปรุงพิเศษ 35 ดีกรี ตัวใหม่ที่กำลังจะออกวางจำหน่ายว่า ‘แม่โขง’
‘แม่โขง’ ขายดิบขายดี เพราะนอกจากรสชาติถูกปากคนไทยในราคาที่เอื้อมถึงแล้ว ยังมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้สโลแกนหรือคำขวัญ ‘ยอดสุราของไทย’ กิจกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่บรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างเฝ้ารอในทุกๆปี คือปฏิทินแม่โขง ในแต่ละเดือนจะมีภาพสาวสวยปรากฏกายอยู่ในชุดนุ่งน้อยห่มน้อย หรือเปลือยแบบวับๆแวมๆ เป็นต้นแบบให้บรรดาสุราหรือเครื่องดองของเมายี่ห้ออื่นๆต่างเจริญรอยตามแจกปฏิทินแขวนแบบนี้บ้างในเวลาต่อมา
แต่โฆษณาของ ‘แม่โขง’ ที่กลายเป็นตำนานและยังมีคนจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ คือภาพโฆษณาที่เป็นภาพวาดการ์ตูน หนุ่มหัวล้านนั่งวาดรูปชายหนุ่มหญิงสาวพลอดรักกันอยู่ริมทะเล แต่แทนที่จะเป็นชายหนุ่มตัวจริง ในภาพที่วาดกลับกลายเป็นตัวเขาเองที่ประคองกอดหญิงสาวเอาไว้
โฆษณาชิ้นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ขัน รักสนุกของคนไทย แพร่หลายไปในสื่อต่างๆทั้งหนังสือพิมพ์ นิตยสาร รวมถึงป้ายโฆษณากลางแจ้ง หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่าบิลบอร์ด ตามจุดต่างๆโดยเฉพาะตามชานชาลาสถานีรถไฟทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ที่เชื่อแน่ว่าใครหลายๆคนคงยังจำกันได้
โฆษณา ‘แม่โขง’ ชิ้นนี้ ปรากฏอยู่บน ‘ปกหลัง’ นิตยสารดิฉัน ฉบับที่ 10 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2518 เป็นชิ้นงานที่คนโฆษณาเรียกวิธีการนำเสนอแบบนี้ว่าเป็น Product Advertising คือเน้นหน้าตาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์เป็นหลัก เพื่อสร้างการจดจำในรูปลักษณ์ของสินค้า
แต่ที่สงสัยและให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้คือ ทำไมโฆษณา ‘แม่โขง’ ซึ่งเป็นสุราที่มีความแรงถึง 35 ดีกรีนี้ ถึงได้ปรากฏอยู่บน ‘ปกหลัง’ นิตยสารสตรีในยุคนั้นอย่างนิตยสารดิฉัน แทนที่จะเป็นนิตยสารที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ชายแทน
ใครรู้ช่วยตอบที
โฆษณา