ร้านกินดื่มอย่าง 'อิซากายะ' ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารยอดฮิตของคนญี่ปุ่น เป็นสถานที่อันดับหนึ่งที่ต้องนึกถึงเมื่ออยากมาสังสรรค์กับเพื่อนฝูง
ความเป็นมาของร้านอิซากายะจะเป็นอย่างไร ลุงเบ็นจะมาเล่าให้ฟังครับ
บรรยากาศภายในร้านอิซากายะแบบดั้งเดิมโดยลูกค้าจะนั่งบนเสื่อทาทามิ
หนึ่งในสถานที่ที่เหมาะสำหรับการนั่งดื่มสาเกมากที่สุดคงหนีไม่พ้นร้านอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่าง “อิซากายะ” การตกแต่งภายในร้านของอิซากายะจะให้บรรยากาศที่เป็นกันเองมากกว่าบาร์ทั่วไป และยังมีอาหารให้เลือกรับประทานกับสาเกหลายประเภท ซึ่งมีตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย ซูชิ ไปจนถึงอาหารจานหลัก และแน่นอนว่ามีสาเกหลายยี่ห้อที่รอให้ลูกค้าได้ลิ้มลองมากมาย
วัฒนธรรมการนั่งดื่มในร้านอิซากายะเริ่มเป็นที่นิยมในต่างประเทศตั้งแต่ปี 1980 แต่ประวัติศาสตร์ของร้านอิซากายะสามารถย้อนไปได้กว่า 250 ปีเลยทีเดียว ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับสาเกอีกด้วย
ย้อนไปเมื่อศตวรรษที่ 14 ร้านที่ขายสาเกจะถูกเรียกว่า “ซากายะ” ซากายะจะเป็นร้านที่ทั้งหมักและขายสาเก ซึ่งซากายะในยุคนั้นจะใช้ภาชนะเซรามิกหลายร้อยใบในการทำและเก็บรักษาเครื่องดื่ม อีกทั้งเจ้าของจะนำหม้อสาเกฝังลงไปในดินเพื่อป้องกันไม่ให้ล้ม หากลูกค้าต้องการดื่มสาเก ลูกค้าต้องนำภาชนะมาตักไปดื่มเอง
สาเกที่บรรจุอยู่ในภาชนะเซรามิกแบบดั้งเดิม
ในเกียวโตมีร้านซากายะอยู่หลายร้อยแห่งในช่วงยุคกลางตอนปลาย (ปี 1400-1600) ทำให้การแข่งขันระหว่างร้านซาคายะค่อนข้างดุเดือด ต่างคนก็ต่างงัดกลยุทธ์เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ได้มากที่สุด อย่างเช่น การเสิร์ฟของว่างฟรีให้ลูกค้าระหว่างยืนรออาหาร (สมัยนั้นร้านซากายะจะเป็นร้านแบบยืนกิน)
แต่มันคงจะสบายกว่าหากได้นั่งดื่มสาเกและเพลิดเพลินไปกับอาหารอร่อย ๆ ทำให้ร้านซากายะที่เป็นแบบนั่งกินได้เกิดขึ้นในช่วงปี 1600 ซึ่งเรียกว่า “อิซาเกะ” โดยสมัยนั้นร้านซากายะเลิกผลิตสาเกของตัวเอง เนื่องจากการบังคับกฎหมายของรัฐบาลในสมัยนั้นที่ต้องมีใบอนุญาตในการผลิต ร้านซากายะส่วนใหญ่เลยเลือกที่จะขายสาเกอย่างเดียว
จนในปี 1750 ได้เกิดธุรกิจใหม่ขึ้นจากการนำร้านนั่งดื่มสาเกและร้านขายอาหารนึ่งมารวมกัน ซึ่งเรียกว่า “นิอุริ อิซากายะ” แต่ต่อมาถูกนำมาเรียกสั้น ๆ ว่า “อิซากายะ”
เครื่องเคียงและของนึ่งต่าง ๆ ที่นิยมกินคู่กับเครื่องดื่ม
ร้านอาหารที่ราคาไม่แพงแถมยังมีเครื่องดื่มและอาหารให้เลือกมากมาย ทำให้ร้านอิซากายะเติบโตอย่างรวดเร็ว
ภายในระยะเวลา 70 ปี เอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) มีร้านอิซากายะเพิ่มขึ้นมากว่า 1,800 แห่ง ทำให้อิซากายะกลายเป็นร้านกินดื่มที่มีจำนวนมากที่สุดในเอโดะ
หลังจากการฟื้นฟูยุคเมจิ (Meiji Restoration) จนถึงปี 1980 อิซากายะกลายเป็นร้านกินดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
อิซากายะในปัจจุบันมีตัวเลือกให้นักดื่มมากมาย เช่น เบียร์, สาเก, ค็อกเทล, เหล้าโชจู รวมถึงวิสกี้ ซึ่งต่างจากยุคแรก ๆ ที่มีสาเกเป็นเพียงตัวเลือกเดียว
อาหารหรือของกินเล่นบางอย่างยังคงมีเหมือนเดิมจาก 100 ปีก่อน เช่น ถั่วต้ม, ผักดอง และเต้าหู้ รวมถึงยังมีอาหารจานหลัก เช่น เกี๊ยวซ่า, ไก่ทอดคาราอาเกะ, ซาชิมิ, ยากิโทริ, ข้าว และก๋วยเตี๋ยว ซึ่งลูกค้าสามารถมารับประทานที่อิซากายะแบบกินดื่มจบในที่เดียวได้เลย
จนท้ายที่สุดการได้มานั่งดื่ม กินอาหาร และใช้เวลาสังสรรค์กับเพื่อนแบบผ่อนคลายในร้านอิซากายะหลังเลิกงาน ได้กลายมาเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นไปโดยปริยาย
จบกันไปแล้วกับ 'อิซากายะ ความเป็นมาของร้านอาหารกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น' หากชอบและอยากติดตามเรื่องราวใหม่ ๆ อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ลุงเบ็นด้วยนะครับ
References :
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
