#สรุปหนังสือ Good Vibes, Good Life ใช้คลื่นพลังบวก ดึงดูดพลังสุข
1. เล่มนี้เขียนโดย “เว็กซ์ คิงส์” Influencer ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก เนื้อหาว่าด้วยกฎแรงดึงดูด และกฎแรงสั่นสะเทือนคล้ายๆ The Secret แต่หนังสือเล่มนี้นำเสนอในประเด็นที่ต่างออกไป เขากล่าวว่า “ตัวเรานี้แหละ ที่จะเป็นคนสร้างแรงสั่นสะเทือน (Good Vibes) ที่ดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามา” โดยคุณจูนคลื่นได้ผ่านการจูนความรู้สึกของคุณ !!!!
2. “คุณรู้สึกอย่างไร คุณจะได้รับอย่างนั้น” !! ผลลัพธ์จะแปรตามประสบการณ์ของคุณเสมอ : ถ้าคุณอยากได้รับความรู้สึกดี คุณก็ต้องสร้างความรู้สึกที่ดี เราเป็นได้ทั้งตัวส่งและตัวรับความถี่ แรงสั่นสะเทือนที่ส่งออกไปจะดึงดูดสิ่งที่สั่นสะเทือนในความถี่เดียวกับเราเสมอ
3. “อารมณ์” คือหนึ่งในแรงสั่นสะเทือนที่มีพลังที่สุดที่เราควบคุมได้ โชคดีที่พื้นเพของจิตแสวงหาอารมณ์ที่เป็นบวกอยู่แล้ว เราเพียงแต่สนับสนุนมัน และเปิดโอกาสให้เราสัมผัสความรู้สึกดีอย่างต่อเนื่อง
4. “การรักตัวเอง” เป็นองค์ประกอบหนึ่งของกรอบวิธีคิดเชิงบวก การรักตัวเองก็คือ การสร้างสมดุลระหว่างการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นกับสิ่งที่ตัวเราเองสมควรได้รับ
5. หนึ่งเทคนิคที่สำคัญมากคือ “ใช้เวลากับคนที่เพิ่มคุณค่าให้ชีวิตและทำให้อารมณ์ดีขึ้น” คุณก็จะรับรูปแบบการคิดที่ให้กำลังใจและสะท้อนแรงสั่นสะเทือนของเขากลับไปด้วย เพียงคุณมีการสนทนาที่สนิทสนม อบอุ่น คุณก็สัมผัสได้ถึงพลังงานเหล่านั้นแล้ว
6. อยู่ห่างจากคำนินทาและเรื่องดราม่า เพียงพาตัวเองออกห่างจากบทสนทนาที่เกี่ยวกับผู้อื่น หรือพยายามเปลี่ยนไปคุยเรื่องมุมมองเชิงบวกแทน เรื่องดราม่ามีไว้สำหรับทีวี ไม่ใช่ชีวิตจริง อย่าเล่นบทของคนอื่นในตอนที่พวกเขาเป็นตัวเอก
7. ลดอีโก้ที่เป็นภาพลักษณ์เกี่ยวกับตัวเองที่คุณสร้างจากความคิด อีโก้ของเราอยากรู้สึกสำคัญและเป็นที่รักอยู่เสมอ เลิกทำให้คนอื่นประทับใจ แต่ทำให้ตัวเองประทับใจ เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
8. ความยิ่งใหญ่เริ่มต้นจากการรู้สึกขอบคุณ การแสดงความรู้สึกขอบคุณ โฟกัสในสิ่งที่เรามี สิ่งดี ๆ จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ยิ่งนับความโชคดีของเรามากเท่าไหร่ จะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นมาเท่านั้น
9. ศึกษาอารมณ์ของคุณ ยอมรับความหมายเบื้องลึกภายใต้ความรู้สึก และใช้เป็นโอกาสในการเติบโต อย่าข่มความรู้สึกเชิงลบที่มี แต่รู้จักเปลี่ยนเพื่อเพิ่มแรงสั่นสะเทือนของคุณ และก้าวไปสู่ความคิดเชิงบวก
10. ใส่ใจปัจจุบัน นั่นเพราะมันเป็นเวลาเดียวที่คุณมี และจัดการกับมันได้ ไม่ว่าคุณจะเพ้อฝันในใจอีกกี่ครั้งก็ตาม อนาคตก็ยังมาไม่ถึง คนเรามักทำให้ชีวิตทั้งหมดกลายเป็นอนาคตที่อยู่แค่ในจินตนาการ และพลาดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าอย่างสิ้นเชิง
11. ตีตัวออกห่างจากคนที่ทำให้แรงสั่นสะเทือนของคุณลดลงเรื่อย ๆ จงจำไว้ว่าคุณไม่ได้เห็นแก่ตัว หรืออ่อนแอที่ไม่กล้าเผชิญหน้าเรื่องแย่ ชีวิตเกี่ยวข้องกับความสมดุลของความอ่อนโยน กับการไม่ปล่อยให้ใครพรากความอ่อนโยนไปจากใจ
12. คุณไม่ได้ถูกคาดหวังให้สมบูรณ์แบบ ทุกคนทำผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น แต่ต้องยินดีที่จะเรียนรู้ เติบโต และเคารพคนอื่น 📌📌 อย่าด้อยค่าตัวเอง เพียงยอมรับ และเรียนรู้ !!
13. อย่าพยายามรักษาความสัมพันธ์บางอย่างไว้ : ถ้าถึงเวลา จงเดินออกมาอย่างกล้าหาญ ตอนนี้อาจรู้สึกเจ็บปวด แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าในอนาคต
14. จงมีกลุ่มเพื่อนฝูงที่สบายใจ : รักษากลุ่มเพื่อนฝูงที่สบายใจ รักษาคนที่เพิ่มคุณค่าให้ชีวิตคุณ ปล่อยคนที่ไม่ใช่ออกไป จำไว้ว่า “จำนวนไม่สำคัญเท่าคุณภาพ” !!
15. อย่าปล่อยให้แนวคิดเกี่ยวกับความงามที่สังคมสร้างขึ้น ลดทอนการนับถือตัวเองของคุณ
ค่านิยมกับความจริง มันคนละเรื่องกัน
16. การมองคนอื่นเพื่อเป็นแรงบันดาลใจเป็นเรื่องดี แต่แรงบันดาลใจกับความอิจฉาเป็นคนละเรื่องกัน คุณควรปรบมือให้กับความสำเร็จของผู้อื่น แต่ก็ควรปรบมือต่อสิ่งที่คุณมีเช่นกัน คุณควรภูมิใจในเส้นทางของตน และจำไว้ว่า อย่ากังวลนักเลยว่าใครจะไปไกลแค่ไหน เพียงหันหลังและภูมิใจกับตัวเองว่าคุณก็มาได้ไกลเหมือนกันนะ 📌📌📌
17. อ่อนโยนและให้อภัยตัวเอง ทุกความผิดพลาดช่วยให้คุณพัฒนาตัวเอง แต่การจะใช้ประโยชน์จากบทเรียนในแต่ละครั้งที่ผิดพลาดนั้น คุณต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวางให้ได้ก่อน และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าลงโทษตัวเองในสิ่งที่ทำไปแล้ว หันมาใส่ใจสิ่งที่ทำให้ดีขึ้นได้ดีกว่า
18. การให้อภัยก็คือ การที่คุณจะไม่ยอมให้พฤติกรรมแย่ๆของคนอื่นมีอำนาจและควบคุมสภาวะทางอารมณ์ของคุณ
19. อย่ากังวลว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นคุณก็จะเริ่มสร้างข้อจำกัดขึ้นมา เพราะความตั้งใจที่ไม่ลงมือทำเป็นได้แค่ความปรารถนา ความเปลี่ยนแปลงอาศัยการลงมือทำ สิ่งสำคัญไม่ใช่คุณอยู่จุดไหน แต่สิ่งสำคัญคือตอนนี้คุณทำอะไร เพราะมันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราไปสู่เป้าหมายได้
20. ความต่อเนื่องนำไปสู่ผลลัพธ์ อย่าแก้ตัวว่าไม่มีเวลา ถ้าไม่อาจหาเวลาเพื่อบางสิ่งได้ แสดงว่าสิ่งนั้นไม่สำคัญมากพอสำหรับคุณ แต่ถ้าบางสิ่งสำคัญจริง ๆ คุณจะหาเวลาให้มันได้เอง
21. ถ้าซอยเป้าหมายแล้วยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่อยู่ ให้ซอยย่อยลงอีก การซอยเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อย ๆ คุณจะเอาชนะมันได้ สมองคุณจะเฉลิมฉลองทุกครั้งที่ไปถึงเป้าหมาย และคุณก็จะมีกำลังใจลงมือทำพื่อเป้าหมายอื่น ๆ ต่อไป
22. “อย่าเร่งกระบวนการ” การคาดหวังว่าจะได้สิ่งใดอย่างเร่งด่วน เพิ่มโอกาสให้ความผิดหวังสูงขึ้น จงมองไปไกลๆ ปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างช้าๆ วิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เราถนัดที่สุด
23. ชีวิตไม่ได้สู้กับคุณเพราะคุณอ่อนแอ แต่มันสู้กับคุณเพราะคุณเข้มแข็ง มันรู้ว่าถ้าให้ความเจ็บปวดแก่คุณ คุณจะรู้ซึ้งถึงพลังที่ตัวเองมี 📌📌📌
24. เพียงเพราะคุณไม่เห็นเหตุผลที่แฝงอยู่ในช่วงเวลาอันท้าทาย ไม่ได้แปลว่ามันไม่มี การเปลี่ยนความคิดจะทำให้เราเริ่มเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้น จริง ๆ แล้วมัน เกิด ! เพื่อ ! เรา !
25. ชีวิตจะทดสอบคุณ ก่อนที่จะให้สิ่งดี ๆ กับคุณ ความเปลี่ยนแปลงที่ดีที่สุดในชีวิตบางอย่างเป็นผลมาจากประสบการณ์ที่เจ็บปวดที่สุด เราจำเป็นต้องเผชิญกับช่วงขาลงในชีวิต เพื่อที่จะเกิดภูมิปัญญา ความเข้มแข็ง และความรู้ที่จำเป็นสำหรับช่วงขาขึ้น
26. บรรลุความสุขที่แท้จริง คุณควรเริ่มจากจุดที่คุณควบคุมได้ นั่นก็คือภายในตัวคุณ ทั้งหมดที่กล่าวมา คือหนทางที่ทำให้คุณรู้สึกดี นี่คือการเดินทางภายในใจที่ต้องอาศัยการเติบโตทางจิตวิญญาณอย่างเป็นรูปธรรม สุดท้ายจงจำไว้ว่า…
“…เพราะคุณรู้สึกดี คุณจึงได้สิ่งดีๆ…” 📌📌📌
// bbunny
#เรื่องย่อของหนังสือเล่มเยี่ยม
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
