31 มี.ค. 2022 เวลา 09:54 • ธุรกิจ
สยาม วาลิดัส จับมือ SCG ช่วย SMEs ระดมทุนผ่านหุ้นกู้ ด้วยแพลตฟอร์ม Crowdfunding
หนึ่งความท้าทายของธุรกิจ SME คือจะทำอย่างไรให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเอาไปต่อยอดสร้างการเติบโตให้ตัวธุรกิจ
พอเป็นแบบนี้ “สยาม วาลิดัส” ผู้นำด้านแพลตฟอร์มการระดมทุนเพื่อ SMEs ผ่านช่องทางดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน ก็ได้จับมือกับ SCG ช่วย SME ไทยที่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ด้วยการนำเสนอทางเลือกใหม่ในการระดมทุนเพื่อใช้ในธุรกิจ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ผ่านแพลตฟอร์ม “คราวด์ฟันดิง (Crowdfunding)”
โดย Crowdfunding อธิบายง่าย ๆ คือ
การระดมทุนจากคนจำนวนมาก ที่ไม่ใช่ธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน เพื่อนำเงินไปสนับสนุนโครงการ หรือธุรกิจต่าง ๆ
โดยผู้ให้เงินทุน ก็จะได้รับผลตอบแทนขึ้นอยู่กับรูปแบบและวัตถุประสงค์ของผู้ระดมทุน
ทั้งนี้ สยาม วาลิดัส เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง กลุ่มวาลิดัส และ SCG
ซึ่งกลุ่มวาลิดัส ดำเนินธุรกิจด้าน FinTech เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มการระดมทุนเพื่อ SME ผ่านช่องทางดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน (อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม และไทย) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์
โดยมีการใช้เทคโนโลยี Data Analytics และ AI มาใช้ในการระดมทุนให้แก่ SMEs ที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน และมียอดระดมทุนในอาเซียน รวมแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้าโตเป็น 6 หมื่นล้านบาท ภายใน 12 เดือนข้างหน้า
นางวรีมน นิยมไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยาม วาลิดัส แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า
SMEs เป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ดี ธุรกิจ SMEs มักประสบปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเสริมสภาพคล่องหรือขยับขยายธุรกิจ
โดยแพลตฟอร์ม คราวด์ฟันดิง ของสยาม วาลิดัส จะเข้ามาช่วยทำให้ SMEs สามารถระดมทุนจากนักลงทุนรายย่อยในตลาดทุน ซึ่งระดมทุนได้ตั้งแต่ 2 แสนบาท และสูงสุดที่ 30 ล้านบาท
(ในอนาคตทางแพลตฟอร์ม วางแผนที่จะขยายวงเงินเพดานระดมทุนเพิ่มด้วย)
สยาม วาลิดัส ตั้งเป้าให้ SMEs ในประเทศไทย ระดมทุนได้ 3 พันล้านบาท ภายในสิ้นปี 2565 หลังจากที่ผ่านมา ระดมทุนสำเร็จไปแล้วถึง 1 พันล้านบาท
โดยได้จับมือกับ บริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ซึ่งมีเครือข่ายของ SMEs ที่เป็นคู่ค้าที่มีศักยภาพ
ในการเติบโตจำนวนมาก
จากความร่วมมือดังกล่าว สยาม วาลิดัส จะสามารถเข้าไปช่วยแบ่งเบาภาระการเข้าถึงเงินทุน และแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องให้กับ SMEs เหล่านี้
โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจประสบปัญหาจากการระบาดของโควิด 19
ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบ “หุ้นกู้” เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สำหรับนักลงทุนรายย่อย
จากปกติที่การลงทุนรูปแบบนี้ ส่วนใหญ่มีแต่กลุ่มนักลงทุนเฉพาะ (High net worth individual) และ
นักลงทุนสถาบันที่สามารถเข้าถึงได้
ทั้งนี้ สยาม วาลิดัส ได้ศึกษาวิจัยพบว่า นักลงทุนรายย่อย กำลังมองหาการลงทุนรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์กว่าเดิม
จึงพยายามคัดสรร SMEs ที่มีศักยภาพสูง มาเป็นทางเลือกการลงทุน ในรูปแบบของ “หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง”
โดยหุ้นกู้ที่ว่านี้ มีอายุหุ้นกู้ ทั้งระยะสั้นและยาว เป็นรายเดือน ราย 3 เดือน หรือรายปี ให้เลือกตามความเหมาะสม และผลตอบแทนที่หลากหลาย ตามความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้
โดยนักลงทุนสามารถรับผลตอบแทน 4% - 15% ในรูปแบบของดอกเบี้ยเงินกู้ บนเงินลงทุนของตัวเอง
นับเป็นโอกาสที่ดีในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
และเข้าถึงการลงทุนได้สะดวกผ่านแพลตฟอร์ม ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ที่สำคัญ แพลตฟอร์ม คราวด์ฟันดิง ของสยาม วาลิดัส อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.
และทางแพลตฟอร์มจะคอยดำเนินการคัดกรอง, ตรวจสอบ, อำนวยความสะดวก, ติดตามการระดมทุนและจ่ายผลตอบแทนให้นักลงทุน, เจรจาปรับโครงสร้างหนี้ให้ หากเกิดปัญหา และอื่น ๆ อีกมากมาย
นักลงทุนจึงสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจ
นายบรรณ เกษมทรัพย์ Chief Strategy & Investment Officer of SCG Cement & Building Materials กล่าวว่า
SCG ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่มุ่งเติบโตไปพร้อมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs ที่การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโต
บริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าการระดมทุนรูปแบบใหม่ด้วยแพลตฟอร์ม คราวด์ฟันดิง ของ สยาม วาลิดัส จะเป็นประโยชน์กับ SMEs ในเครือข่าย ทั้งผู้แทนจำหน่าย, ร้านค้าช่วง และคู่ธุรกิจ
ที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น สนับสนุนให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งส่งผลดีกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
รู้ไหมว่า SMEs ถือเป็นฟันเฟืองหลักของเศรษฐกิจไทย โดยคิดเป็น 95% ของจำนวนธุรกิจในประเทศ
และยังมีอัตราการจ้างงานคิดเป็นสัดส่วน 80% ของทั้งประเทศ เลยทีเดียว..
โฆษณา