31 มี.ค. 2022 เวลา 18:05 • การ์ตูน
ศรีธนญชัย
เราคงได้ยินเรื่องเล่าขานที่กลายมาเป็นเรื่องเล่าขานดังของไทย
โดยภาคเหนือ จะมี กะตำป๋า และทางอีสาน เป็น เซี่ยงเมี่ยง
 
ลักษณะของ คนหนุ่ม ทั้ง 3 นี้ คือ ฉลาด มีไหวพริบ เอาตัวรอด
 
แต่เราจะมาพูดถึง ศรีธนญชัย ที่รู้จักกันดี มากกว่า จากหนังสือ
หลากชนิดที่มี ตั้งแต่ ครั้งพิมพ์ด้วยกระดาษ ยัน E-book
เครดิต บอร์ดโพสจังดอทคอม
เรื่องราวของศรีธนญชัย เริ่มตั้งแต่เด็ก มาจนโต เข้ารับราชการ เพราะ พระราชาทรงโปรด ความมีไหวพริบ
แต่ ศรีธนญชัย เป็น คนเห็นแก่ตัว ไม่มีใครรัก กะล่อน ชอบโกหก หลอกลวงผู้อื่น
เห็นแต่ตัวเองเป็นหลัก
ตอนเป็นเณร ได้สอนหนังสือ ก็มี
ชีกอ กับผู้หญิง เป็นเรื่องเป็นราวมาแล้ว
 
จึง มักนำมาเปรียบเทียบ กับ คนเจ้าเล่ห์ โกหก หลอกลวง เห็นแก่ตัว เอาเปรียบผู้อื่น เป็นนิสัย
เนื้อเรื่อง ที่เหมือนๆกัน บอกว่า
เศรษฐี ผู้หนึ่งกับภรรยา ไม่มีบุตร จึงไปบนบานศาลกล่าว ขอมีลูก จนได้สมใจ เรียกว่า ศรีธนญชัย
บางเล่ม บอก พ่อค้าใหญ่ แทนคำว่าเศรษฐี
 
ต่อมา เศรษฐี ก็จนลงๆ เพราะ มีเจ้าศรีฯ
พ่อแม่เด็ก เขาว่าแบบนั้น
เจ้าศรี ยังไม่พ้น 5 ขวบ ก็มีน้อง มาอีกคน
ทีนี้ ไม่มีเงินจ้างคน มาทำงาน ต้องทำกันเองล่ะสิ งานบ้านอีก เลี้ยงเด็กอีก ก็โอนให้เจ้าศรีฯ ดูแลเลี้ยงน้อง ทำความสะอาดบ้านหุงหาอาหารเย็นอีก
อยู่มาวันหนึ่ง แม่ก็สั่งไอ้ศรี อาบน้ำให้น้องด้วย เอาให้หมดจด เลยนะ
ล้างข้างนอกข้างในให้ดี แล้วจึงออกไปทำงาน ตกเย็น กลับบ้าน
เห็นข้าวปลาเตรียมไว้แล้ว
แต่น้องเงียบ จึงถาม ว่า ศรี อาบน้ำให้น้อง
แล้วนะ ศรีก็ตอบครับ แม่จึงไปดูน้อง ลมแทบจับ น้องไม่มีชีวิตแล้ว
โดนผ่าท้อง อ้ายศรี ผ่าล้างนอกล้างใน จึงดุด่า ทุบตีไอ้ศรี ทั้งพ่อแม่
 
พาไปประจานตามชุมชน ว่า
ไอ้ศรีตัวเสนียด เกิดมามีแต่จนลง
แถมยังฆ่าน้องอีก
แล้วพาไปปล่อยวัด ไม่เลี้ยงแล้ว
เรามาคิดดูดีๆ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล่า แต่ไม่มีใครว่าให้พ่อแม่ไอ้ศรีฯ เลย
เรื่องนี้ ถ้าคิดแนว จิตวิทยา ก็เป็นเรื่อง น่าศึกษาเรื่องหนึ่ง เลย
 
เด็กเกิดมา ติดถุงเงินถุงทองมาเป็นค่าจ้างเลี้ยงด้วยเหรอ จึงจนลงจนลง เนี่ย
พวกคุณสร้างเขาขึ้นมา คุณต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน ชี้แนะ
การที่คุณทำการค้าถดถอยทรัพย์สินถดถอย มันไม่ใช่เป็นเพราะเขา แต่ คุณโยนความผิดในความสามารถของคุณให้เด็ก มากกว่า
เด็ก 5-6 ขวบที่ไหน เขาโยนภาระให้ขนาดนี้ วัยยังเล่นอยู่เลย ยังไม่ได้ เริ่มศึกษาชีวิตเลย มันเป็นความผิดของพ่อแม่ทั้งนั้น
แต่ เด็กที่ยังไม่ประสีประสา ต้องรับผิดชอบ จริงอยู่ เด็กอาจเบื่อภาระ
บ้าง แต่เขาก็ยังคงคิดไม่ได้ หรอก อะไรผิดอะไรถูก
เมื่อ ไอ้ศรี ไปอยู่วัด แบบเด็กกำพร้า
แล้ว ศิษย์วัด ไม่ได้มีคนเดียว
มีเป็นโขยง
เมื่อไอ้ศรี ไปอยู่กับเด็กเหล่านี้ ไม่ว่า อาหารการกิน ที่หลวงพ่อไปบิณฑบาตร มันก็แทบไม่พอกินกันอยู่แล้ว
มันจึงต้องแก่งแย่ง การกินอยู่ แย่งกันทำงาน ในวัด เพื่อเลี้ยงชีพกัน
ไอ้ศรี เมื่อต้องการเอาตัวรอด ก็ต้องเห็นแก่ตัวไปตามวงการ เพื่อ เอาตัวรอด ตามธรรมชาติของมนุษย์
มันก็ไต่เต้า จาก เด็กวัด สู่ วงการพระ เริ่มด้วยการเป็นเณร
ซึ่งตำแหน่งหน้าที่ ในสายนี้ สูงสุด ที่ไอ้ศรีเคยรับ ก็คือ เป็นเณร
ต้องระเห็จออกจากวัดเพราะ เณรศรี เรียนเก่ง ฉลาด
ต่อๆมา เณรศรี ได้รับมอบหมายให้กับ
การสอนหนังสือ ให้กับโยมสีกาวัยกำดัดไล่เลี่ยเณรศรี ลูกสาวขุนนาง
เณรศรี สอนไปใกล้ชิดไป ก็มีการลูกเล่นสอน ในการลวนลาม เพราะเคมีในร่างกายและอารมณ์ในวัยอยากลอง จนต้องหนี ออกจากวัดไปนอกเมือง
เจ้าศรี หนีไป อยู่กับ ยายขายขนม ความกะล่อนก็มีอยู่ในตัวเต็มที่
จริงอยู่ ยายใช้ให้ทำงาน เป็นคนทำให้ศรี ไปขาย แต่ อนิจจา เจ้าศรี
มองแต่ตัวเอง ไม่มอง ด้านอื่นเลย มองยายเอาเปรียบตน
 
จึงเอาขนมไปเทน้ำเทท่าจริงๆ ดัง ยายบอกว่าขายดีอย่างเทน้ำเทท่า
 
1. ยายแก่แล้ว หาบเดินไม่ไหว ก็ผลิตให้ เจ้าศรีขนไปและขาย แลก
กับที่อยู่ที่กิน ก็ ถูกแล้วไง ไอ่ศรี ทำเป็นลืม หลังมือซะดีมั๊ง
2. ถ้ายายไม่แก่ ก็ถูกแล้วไง Division of labor แบ่งงานกันทำ
จะให้เขาผลิต ขนส่ง ขาย ล้าง แล้วมาเลี้ยงเอ็ง เหรอ
3. ยายอาจจะพูดจาไม่เพราะ แต่เขาก็ให้อยู่ด้วย คนพูดจาเพราะๆ
ทำไมศรีฯ ไม่ไปขออยู่กับเขา แทนที่จะมาขออยู่กับยาย ไม่กล้า หรือ
เขาไม่ให้อยู่
ไอ้ศรีฯ ก็ระเหเร่ร่อน ไป จนเจอ พระราชา ถูกใจ ให้ไปทำงานด้วย
 
เรื่องราวต่อจากนั้น เป็นที่ทราบกันดี อยู่แล้ว เพื่อเปรียบเทียบกับ
คนจำพวกหนึ่งที่มีคุณสมบัติตอนโตเหมือนกับไอ้ศรี
 
ประเด็น ของการเขียนนี้ คือ การที่คนๆหนึ่ง จะกลายเป็นคน เช่นนั้นได้
ก็ถูกหล่อหลอมมาแบบนี้ จะให้เขาเป็นคนอย่างไรกันล่ะ
 
ต้นเหตุไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยรึ
 
ผ่านมา ค่อนชีวิต
เห็นแต่ การแก้ปัญหาปลายเหตุ
ยังไม่เคยเห็นใคร แก้ไขต้นเหตุเลย
ไม่เคยมีอะไรใหม่เลย
โฆษณา