31 มี.ค. 2022 เวลา 19:29 • ความคิดเห็น
ผมว่าสิ่งที่คุณคิดนั้น น่าจะเป็นคำตอบแล้วส่วนหนึ่งครับ
ในความคิดของผม ที่อ่านข่าวจากหลายๆเพจมา
คุณคิดอย่างไรและรู้สึกต่างกันอย่างไร ถ้าคุณดูการต่อสู้ของ 2 คู่ คือ
ยักษ์ vs ยักษ์
ยักษ์ vs หนู
ถ้าสมมุติ ยักษ์ สู้กับ ยักษ์ อย่างเช่น ถ้า สหรัฐ กับ รัสเซีย รบกันเองโดยตรงเลย แบบนั้นผมถึงจะรู้สึกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เน้นไปที่สงครามแบบฆ่าฟันกัน เพราะมีโอกาสสูงที่จะงัดกันให้รู้ไปเลยว่าใครจะเหนือกว่ากัน แล้วค่อยมากดขี่โดยทำสัญญาระหว่างผู้ชนะและผู้แพ้กันอีกที
แต่ถ้าคุณดู ยักษ์ สู้กับ หนู คุณยังคิดอยู่หรือไม่ว่า ความขัดแย้งครั้งนี้ สงครามการส่งทหารเข้าต่อสู้กันเป็นหลักจริงๆ เพราะยังไงหนูก็มีโอกาสแพ้สูงกว่ามาก ยิ่งเป็นเมืองพี่เมืองน้องย่อม ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ไม่เหมือนกับสงครามเวียดนามที่ต่างถิ่นต่างวัฒนธรรมกันเกินไป หรือจะให้ใช้นิวเคลียร์ให้จบๆไปเลยยิ่งมีโอกาสน้อยเพราะประเทศต่างๆหลายประเทศก็มีนิวเคลียร์เช่นกัน
ระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เรื่องรบกัน ผมว่าเรื่องรอง อยู่ที่ว่าจบช้าหรือเร็ว แต่สงครามเศรษฐกิจ การเมือง น่าจะเป็นเรื่องหลักที่น่าติดตามมากกว่า ความเปลี่ยนแปลงต่างๆตั้งแต่ระบบการเงิน การค้า การทูต กฏหมาย การเมือง และอื่นๆ น่าติดตามอย่างใจจดใจจ่อมากกว่าครับ เพราะมันมีผลกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั้งโลกจริงๆครับ
ความขัดแย้งครั้งนี้ มันซับซ้อนมากและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงจริงๆครับ
เพราะครั้งนี้มีการต่อสู้กันของยักษ์จริงๆ คือ สงครามเศรษฐกิจการเมืองครับ ซึ่งอยู่หลังฉากของสงครามความรุนแรงครับ
โลกมันก็แบบนี้แหละครับ ประชาชนทั่วไปมุ่งสนใจระหว่างการปกป้องอธิปไตยของยูเครน กับการรุกรานของรัสเซีย นั่งเถียงกันเต็มโลกออนไลน์ แต่พวกระดับมันสมองและเบื้องหลังเขาครุ่นคิดกันว่าผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรและจะรอดและรุ่งเรืองต่อไปยังไงครับ ส่วนเรื่องอธิปไตยกับการสงครามก็เอาใจช่วยให้จบลงด้วยดีโดยเร็วครับ
(ส่วนตัวผมก็ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงหรือสงครามเช่นกันครับ)
โฆษณา