1 เม.ย. 2022 เวลา 03:42 • ความคิดเห็น
🎼 7 เทคนิค เลือกเพลงประกอบยังไง? ให้เข้ากับวิดีโอ 👍🔊
วิดีโอที่มีเพลงประกอบที่เหมาะสม สามารถเพิ่มพลัง และความรู้สึกให้วิดีโอได้ แต่ว่าการใส่เสียงเพลงลงไปเฉยๆ โดยไม่ได้มีการไตร่ตรอง หรือดูความเหมาะสมกับเนื้อหาในวิดีโอก็อาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดีนะคะ แล้วการเลือกเพลงนั้น จะต้องเลือกยังไง? หากใครยังไม่รู้ ตามดูเคล็ดลับง่ายๆ กันได้เล๊ยยย!
1. ลองดู Mood & Tone ของวิดีโอก่อน
ดูว่าเนื้อหาที่จะสื่ออกไปให้อารมณ์ และความรู้สึกแบบไหน เช่น สนุกสนานเฮฮา, มีความสุข, สบายๆ ชิวๆ, เศร้า ดราม่า, โรแมนติก, หรือปลุกแรงบันดาลใจ เป็นต้น ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกของเนื้อหาวิดีโอนั้น จะต้องสัมพันธ์กันกับ Mood และ Tone ของเพลงที่เลือกค่ะ
2. รู้จัก และเข้าใจผู้ชม ว่าผู้ชมเป็นใคร? และชอบอะไรแบบไหน?
ซึ่งแน่นอนว่าผู้ชมหลายๆ คน อาจจะเข้ามาดูวิดีโอในช่องของเรา เพราะชื่นชอบรสนิยม หรือสไตล์การตัดต่อวิดีโอของเราก็มีค่ะ ซึ่งผู้ชมอาจจะมีอายุใกล้เคียงกันกับครีเอเตอร์ มีความชอบที่เหมือนๆ กัน หรือชอบฟังเพลงสไตล์เดียวกัน นั่นก็แปลว่ามีแนวโน้มที่ผู้ชมจะชอบเพลงที่เราใส่ในวิดีโอได้ ดังนั้นพยายามเลือกเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา หรือสไตล์เพลงที่เราชอบก็จะสามารถดึงดูดผู้ชมให้เข้ามารับชมได้อย่างต่อเนื่องได้ แต่ก็อย่าลืมดูความเหมาะสมด้วยนะคะ
3. เลือกประเภทของเพลง
เมื่อรู้ Mood & Tone และเข้าใจผู้ชมแล้วก็สามารถใช้ประเภทของเพลงประกอบกับอารมณ์เพลงได้เลยค่ะ ซึ่งประเภทของเพลงนั้นมีหลากหลาย ประเภท ตัวอย่างเช่น Pop, Rock, Jazz, Hip-Hop, Classical, Cinematic และอื่นๆ อีกเยอะเลยล่ะค่ะ
นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับดีๆ ในการพัฒนาทักษะในการเลือกเพลงมากฝากด้วยนะคะ นั่นก็คือ การหา Reference และแรงบันดาลใจ ด้วยการดูผลงานของคนอื่นเยอะๆ เลือกช่อง YouTube หรือแม้แต่หนัง หรือซีรีส์ที่ชื่นชอบ โดยเลือกดูสิ่งที่มีเนื้อหาคล้ายๆ กับที่เราอยากทำ แล้วฟังเพลงประกอบที่เขาใช้ ดูแนวเพลง และอารมณ์ของเพลง ดูจังหวะการใส่เพลง เริ่มตรงไหน หยุดตรงไหน ดูการเพิ่มลดเสียง เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เพิ่มทักษะในการเลือกเพลง และจุดประกายไอเดียในการทำวิดีโอได้อีกด้วยค่ะ
4. หลีกเลี่ยง! ประเภทเพลงฟรี ใช้เพลงที่มีคุณภาพ
ส่วนใหญ่แล้ว ครีเอเตอร์มือใหม่ที่ยังไม่มีความชำนาญการตัดต่อ มักจะชอบใช้เพลงฟรีกันเยอะมาก ซึ่งการใช้เพลงฟรีไม่ผิดนะคะ เพราะในช่วงเริ่มต้นเรายังอาจจะไม่รู้ว่าเพลงไหนที่คนใช้บ่อย รวมถึงการหาเพลงฟรีแต่ไม่มีลิขสิทธิ์นั้นหาได้ยาก แต่! ถ้าหากเราเลือกใช้เพลงที่มีคุณภาพ หรือยอมจ่ายเงินเพื่อจะได้เลือกใช้เพลงใหม่ๆ เพลงที่ไม่ซ้ำกับที่คนส่วนมากใช้กัน ก็จะทำให้ยกระดับวิดีโอของเราให้ดูดีขึ้นได้
และสำหรับครีเอเตอร์คนไหนกังวลเรื่องลิขสิทธิ์เพลง และไม่รู้จะไปหาเพลงฟรีแต่ไม่มีลิขสิทธิ์ได้ที่ไหน สามารถสมัครเข้าร่วม Partner กับเรา Thoughtful Thailand ครีเอเตอร์ก็จะสามารถเข้าไปใช้เพลงใน Epidemic Sound แพลตฟอร์มซื้อขายต้นฉบับเพลงหลายหมื่นเพลงสำหรับผลิตงานวีดีโอ งานคอนเทนต์ และโฆษณา ได้ฟรี!! โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ติดลิขสิทธ์ด้วย!!
📌หากสนใจเข้าร่วม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Thoughtful Thailand เลยค่าา
5. ตัดต่อตามจังหวะเพลง
ข้อนี้สำคัญมากค่ะ เพราะต้องเลือกใช้ Video Footage ให้เหมาะสม ยกตัวเอย่างเช่น ถ้าเพลงเป็นเพลงเร็วเราะจะต้องใช้ Footage ที่จำนวนมากหน่อย เพราะต้องตัดแบบถี่ๆ และถ้าเป็นวิดีโอที่เป็นเพลงประกอบช้าๆ เราก็เลือกใช้ Footage ที่ยาวขึ้นหน่อยค่ะ ดังนั้นการเลือกเพลงประกอบวิดีโอก่อนออกไปถ่าย Footage ก็จะช่วยให้เรากำหนด Mood & Tone ของวิดีโอได้ง่ายขึ้น และง่ายต่อขั้นตอนการตัดต่ออีกด้วยค่ะ
6. ใส่ Sound Design เพิ่มอารมณ์ให้กับวิดีโอ
การใส่ Sound Effect เล็กๆ น้อยๆ และเพิ่ม Sound Design เช่น เสียงลม เสียงคนเดิน เสียงคลื่นน้ำ หรือเสียงต่างๆ ที่เหมาะสมกับเนื้อหาคอนเทนต์ เข้าไปในวิดีโอ จะช่วยให้วิดีโอมีชีวิตชีวามากขึ้นได้ค่ะ สามารถทำให้คนดูมีอารมร์ร่วมกับวิดีโอที่ดูได้มากขึ้น รู้สึกอินมากขึ้นนั่นเองค่ะ
7. อย่า! ให้เสียงเพลงดังกลบเสียงพูด
ข้อควรระวังในการทำวิดีโอที่ต้องมีเสียงพูด หรือรวมไปถึง Voice over ก็คือ ระวังอย่าให้เสียงเพลงดังกลบเสียงพูดนั่นเอง ควรใส่เสียงเพลงแค่เบาๆ ก็พอนะคะ
แค่ทำตามเคล็ดลับที่ธอทฟลูได้นำเสนอไป เพียงเท่านี้ครีเอเตอร์ก็สามารถเลือกเพลงประกอบงานวิดีโอได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้นได้แล้วล่ะค่ะ อย่าลืม! นำไปเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์วิดีโอเจ๋งๆ กันนะคะ 🤩
โฆษณา