1 เม.ย. 2022 เวลา 04:49 • การ์ตูน
#1D25Y
[มี Spoil One Piece ไม่อ่านปอยล์ข้ามโพสต์นี้นะครับ] อย่าเพิ่งตกใจ!!! คุณมาถูกเพจแล้ว นี่คือ ศาลาผี ในวัน April Fools Day หาอะไรแปลกๆมาให้อ่านกันบ้าง) แต่ถ้าใครไม่สนใจหัวข้อนี้ก็ข้ามไปได้เลย แล้วรออ่านโพสต์ต่อไปครับ และบทความนี้ไม่มีอะไรแกงเพราะ 1 เมษายน มันไร้สาระ ผมไม่เล่นอยู่แล้ว เสียเวลาชีวิตคนอ่าน
---------------------
นี่คือภาพถ่ายในหน้าสารานุกรมผลไม้ปีศาจ จากหนังสือ One Piece Blue Grand Data File ที่อยู่ในมือของผมเอง ซึ่งพาร์ทที่เป็นสารานุกรมผลปีศาจในหนังสือฉบับดังกล่าวมีอยู่หลายหน้า ภาพที่เห็นนี้คือหน้าแรกของสารานุกรม ที่อธิบายลักษณะเบื้องต้นของ "ผลปีศาจ" ว่าคุณสมบัติเป็นยังไงบ้าง
แต่ที่มันเป็นประเด็นน่าติดใจอยู่ในขณะนี้ ก็คือเรื่องของผลเจ้าปัญหาดังกล่าวนี่แหละ
ผมพยายามจะเขียนเกริ่นลากลงมาเรื่อยๆเพื่อไม่ให้เนื้อหาสำคัญมันโผล่ไปจ๊ะเอ๋กับคนที่ไม่อ่านสปอยล์ และรอความสนุกจากรวมเล่มเท่านั้นอยู่ ส่วนใครที่อยากอ่านก็สามารถติดตามจากเว็บถูกลิขสิทธิ์ที่ Manga Plus กันได้ตามสบาย มันไม่ได้ผิดกฏหมายหรือเป็นสิ่งต้องห้ามขนาดนั้น แค่มารยาทที่จะต้องแจ้งล่วงหน้ากับคนอ่านเท่านั้นเองว่าต่อจากนี้มีสปอยล์
--------------------
ประเด็นเรื่องของผลปีศาจเจ้าลูฟี่ที่เป็น "สายโซอน" ที่เพิ่งเปิดเผยออกมา และเอาจริงๆแล้วคนก็เข้าใจกันมาตลอดงว่ามันเป็นผลยางสายพารามีเซีย
ถ้าจะมีใครสักคนที่โดนหลอกมายาวนานมากที่สุด ก็น่าจะเป็นแอดมินโป้งของพวกคุณนี่แหละ ที่อ่านวันพีซตั้งแต่มันออกมาตอนแรกๆที่เป็นรวมเล่มและโผล่มาในซี-คิดส์ (แต่ผมซื้อบูมนะ วันพีซเน้นรวมเล่ม)
นับตั้งแต่ตอนที่ได้อ่านแรกๆช่วงม.2-ม.3 แปลว่าผมก็โดนแกงมาจะ 25 ปีแล้ว ดังนั้นถ้าจะมีใครที่น่าหงุดหงิดหรือแอบโกรธที่สุด ผมน่าจะเป็นหนึ่งในนั้นแน่ๆ (ฮา)
แต่ผมไม่รู้สึกเลย เพราะหลายๆอย่างมันก็มีการปูทิ้งเอาไว้ค่อนข้างโคตรจะนาน และเราสัมผัสอะไรบางอย่างได้หลายครั้ง โดยเฉพาะเงาของลูฟี่ที่งานเลี้ยงเมืองขุมทองแชนโดร่า บนเกาะสกายเปียร่วมกับฝูงหมาป่าที่นั่น มันรู้สึกตะหงิดๆว่าจารย์โอดะอยากจะสื่ออะไรแน่ๆ
ภาพนั้นค่อนข้างอิมแพ็คมากๆ จนกระทั่งเริ่มมีการพูดถึง "นิกะ" เทพพระอาทิตย์ผู้ปลดปล่อยทาส ภาพเงามาคือชัดเจนสุดๆ ท่าทาง หน้าตา มันเหมือนลูฟี่มากๆ
และหลักฐานอะไรอีกหลายๆอย่างที่น่าสนใจ ซึ่งจะไม่ขอลงรายละเอียดมากไปกว่านี้อีกแล้วเดี๋ยวจะยาว ทั้งประเด็นเรื่องของแชงค์ส เป็นลูกใคร ทำไมถึงมีชะตาได้ไปที่ลาฟเทล, ออส หมวกฟางยักษ์ เดี๋ยวจะยาวซะเปล่าๆ
แต่อาจารย์แก Hint ในที่ต่างๆแบบนี้เอาไว้เป็นประจำอยู่แล้ว
ถ้าอันไหนที่มันเป็นความลับมากๆที่ไม่อยากให้หลุด แต่ก็อยากจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ (ฮา ไม่ต้องเขียนบอกไว้ก็สิ้นเรื่องนะจารย์) แกก็จะเอามาใส่ในพวกมุมตอบคำถาม หรือข้อมูลพิเศษ นอกเนื้อหาหลักแบบนี้แหละ เพื่อเป็นเหมือนการตอบแทน
เป็นอีสเตอร์เอ้กเล็กๆน้อยๆมอบให้กับ "แฟนพันธุ์แท้" ของวันพีซที่รักการ์ตูนเรื่องนี้และขยันหาข้อมูลจริงๆ
แฟนพันธุ์แท้ทั้งหลายก็มักจะชอบอ่านทฤษฎีวันพีซกันอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเลือกอันที่มันมีมูลหน่อย ตัวมโนๆอย่างแจ็คผู้ฆ่าเหยี่ยวนี่ขอให้เลิกซะนะ(55)
--------------------
เรื่องราวที่เปิดเผยมาในช่วงนี้ ผ่านปากคำของห้าผู้เฒ่าสูงสุด ถ้าใครสงสัยก็อาจจะมีคิดในใจบ้างในเรื่องของ "ผลโซอน" แต่เมื่อเอาไปรวมกับหลักฐานอื่นๆโดยเฉพาะเรื่องที่อึดเว่อร์เกินกว่าปกติ ล้มแล้วล้มอีกยังฟื้นพลังกลับมาได้ รูปแบบนี้แม้แต่ชาวไซย่ายังไม่มีเลย
(เงื่อนไขของชาวไซย่าคือ ถ้ารอดมาได้ พลังจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้อึดตายยาก และพร้อมลุกขึ้นมาไฟต์ใหม่เหมือนพวกกินผลสายโซอน)
เรื่องของการที่ลูฟี่ไม่ได้กินผลพารามีเซีย แต่เป็น "ผลสายโซอน" นี่ เอาจริงๆใครจะไปรู้?(วะ) ผมเองผมก็ไม่รู้ เพราะเรื่องที่อึดทนทายาดกว่าปกติ เนื่องจากมันเป็น "พระเอกโชเน็น" อย่างลูฟี่นี่แหละ ก็ไม่เคยมีใครสงสัยเรื่องที่ว่า ลูฟี่อึดสัสๆมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ภาษาชาวบ้านเค้าเรียก "สกิลพระเอก" นั่นแหละคือคำตอบของเรื่องนี้
ใครจะไปกล้าคิดว่ามันคือโซอนจริงๆ ผลปีศาจสายที่ดูไม่ค่อยน่ากลัวที่สุดแล้วถ้าไม่ใช่พวกโมเดลสัตว์มายาทั้งหลาย และโซอนก็ดูจะเบสิคมากในด้านความหวือหวา ถ้าเทียบกับพวกพารามีเซีย หรือพวกสายโรเกีย
----------------------
เรื่องเงื่อนไขร่างกายเป็นยาง ที่เราก็ไม่รู้ว่าเลเวลของความบาดเจ็บที่ลูฟี่ได้รับ มันจะถูกกระจายdamageผ่านคุณสมบัติยาวรึเปล่า
(ทำให้เวลาโดนอัดก็จะเจ็บน้อยกว่าคนอื่นหน่อย แต่ไม่ใช่ไม่เจ็บเลย แค่กระจายไปทั่วๆร่าง ไม่ได้บาดเจ็บแค่จุดเดียว)
ไม่มีใครสงสัยในเรื่องนี้มากนัก เพราะอย่างที่บอก โอดะปูและบอกชัดมาตั้งแต่แรกว่ามันคือผลโกมุ โกมุ ก็ไม่น่าจะมีอะไรอื่นอีก และมันก็เป็นผลกากๆธรรมดาๆ แต่พัฒนาให้เก่ง เอาไปใช้สู้ให้ทัดเทียมมนุษย์คนอื่นๆได้ เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมชอบมากเกี่ยวกับผล "โกมุ โกมุ" ที่ผ่านมา
แต่การสูญเสียคอนเซปต์ตรงนี้และอีกชื่อหนึ่งของผลโกมุ โกมุ กลายเป็น "ผลฮิโตะ ฮิโตะ" โมเดลนิกะ ซึ่งเป็นผลสายโซอน พันธุ์สัตว์มายา
จากผลเบสิคที่สุด สู่จุดสูงสุดจุดหนึ่งของผลปีศาจ ฟีลลิ่งอาจจะเปลี่ยนกันบ้าง
แต่นี่เพิ่งเริ่มต้น และเนื้อเรื่องยังไม่ได้เปิดเผยอะไรมากนัก
-----------------
ผมเชื่อว่าอาจารย์โอดะแกก็พร้อมหาทางลงในเรื่องแบบนี้เอาไว้แล้ว เพื่อไม่ให้สเกลพลังมันมั่วหนักเกินกว่าที่คนอ่านจะรับได้ มันอาจจะดูแถไปบ้างเพื่ออุดพล็อตโฮลอะไรบางอย่าง แต่มันคือเรื่องของการ "ตกแต่ง" เนื้อหาให้ทุกอย่างไปด้วยกันได้ และคนอ่านสามารถยอมรับได้
ถ้าผู้ที่ติดตามเนื้อหาที่เป็นมหากาพย์แบบนี้และเข้าใจธรรมชาติของมัน จะไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะมนุษย์เราไม่ใช่เครื่องจักร การทำงานของ กองบรรณาธิการของจัมพ์หลายๆคนก็รู้กันอยู่
เนื้อเรื่องทุกอย่างที่เห็น มันอาจจะไม่ใช่ 100% ของอาจารย์ผู้เขียนคนเดียว มันจะต้องผ่านการปรึกษาพูดคุย และควบคุยโดยผู้ดูแลที่รู้ใจกันด้วย ทุกอย่างถึงจะไปได้ เพราะงานขายเป็นงานสเกลใหญ่ที่ไม่ใช่ว่าจะทำตามใจของคนตัดสินใจคนเดียว(คนวาด) แล้วจะประสบความสำเร็จได้
นี่คือความโหดร้ายของสิ่งที่เป็นธุรกิจ แต่อาจารย์โอดะก็ผนวกเอาธุรกิจ มาเข้ากับจินตนาการการ์ตูนที่ไม่ถูกปิดกั้นมากนักได้อยู่ดี
เรื่องของความชอบ หรือไม่ชอบ เป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ บางคนก็อาจจะไม่ชอบเรื่องการตื่นของลูฟี่ที่กลายเป็นจอยบอย พลังผลเทพนิกะไปแล้ว บางคนอาจจะเฉยๆและรู้สึกยอมรับได้
แต่เชื่อเถอะว่าสุดท้ายแล้วมันก็จบสวยแน่นอนไม่ว่าใครจะคิดยังไงก็ตาม
ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่กังวลกับเนื้อเรื่องในช่วงนี้ และรู้สึกสนุกในความแปลกของการระเบิดพลังที่มันเป็นร่างสุดยอดซึ่ง "กาว" จัดๆจนทำให้หลายคนรำคาญ แต่ผมว่ามันฉีกดี เพราะพระเอกระเบิดร่างหัวทองหัวไฟแล้วยืนเก๊กเท่ๆมันก็มีเยอะแล้ว ที่ไหนก็มี เรื่องไหนก็มี
แต่ร่างสุดยอดแบบกาวๆ บ้าๆ น่ารักๆแบบนี้แหละ โคตรเหมาะกับเจ้า "ลูฝี" เลยจริงๆในฐานะเพื่อนที่รู้จักกันมา 25 ปี
ไม่ต้องห่วง ผมรับประกันได้ว่า มันจะไม่ได้โกงจนทำให้เนื้อเรื่องหมดสนุกไปว่าลูฟี่จะตบใครก็ได้บนโลกนี้ เพราะถ้า 1-1 ไคโดน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว แล้วแบบนี้ใครจะไปสู้ไอ้ฟี่มันได้ มันคงจะมีเงื่อนไขหรือเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ "ลิมิต" พลังดังกล่าวไว้พอสมควร
ร่าง"อาจจะ"เปิดปิดไม่ได้ดังใจนึกขนาดนั้น สุดท้ายก็ต้องมาสู้กันด้วย "พลังลุ่นๆ" เหมือนเดิม
เชื่อว่าในยามที่ต้องใช้พลังดังกล่าว ก็คงเป็นกรณีที่ต้องเจอกับ "ลาสบอส" คู่ต่อสู้ที่เป็นคนพิเศษ และ โกงมหาโกงเช่นกัน อย่างเช่น มนุษย์ที่แดกผลปีศาจได้สามลูกในคนๆเดียวกัน แบบนี้ก็โกงไม่ใช่เหรอ?
พระเอกเจอโกงแบบนี้แล้วจะเอาอะไรไปสู้ได้ มันก็ต้องพัฒนาพลังขึ้นมาให้ได้นั่นแหละถูกแล้ว
มองในมุมของ "คนแต่งเรื่อง" นั่นคือทางเดียวที่ผู้แต่งนิยายจะสามารถตอบโจทย์ของการดำเนินเรื่องไปสู่จุดสุดท้ายได้
--------------
พูดแล้วก็ใจหายนะ เพื่อนรักที่อยู่กับเรามา 25ปี กำลังขมวดปมไปสู่จุดสุดท้ายแล้ว ชีวิตนี้ขออย่างเดียว ขอแค่อยากดูตอนจบของวันพีซแค่นั้นพอ แล้วก็ขอให้แมนยูคว้าแชมป์ลีก กับ ทริปเปิลแชมป์ อีกสักรอบ แค่นั้นพอละ ตายตาหลับ
ทุกสิ่งคือมุมมองที่ผมอยากจะแบ่งปันให้ได้อ่านกันในเรื่อง Talk of the town ที่น่าจะไม่จบไม่สิ้นไปอีกเป็นเดือนๆเลยล่ะสำหรับการถกเถียงกันในโลกการ์ตูน
แต่ประเด็นสำคัญเล็กๆจุดเดียวที่แอดอยากหยิบมาพูดคุยกันก็คือ แกไม่ได้เพิ่งมายัดพลังนี้เมื่อไม่นานมานี้แน่นอน มันถูกแย็บเปิดเผยอย่างคลุมเครือๆเอาไว้ตั้งแต่ปี 2002 หลักฐานนี้ยืนยันโดยช่องคุณต้อม YousayーIX หรือ Gladiuz kb ใน Youtube นั่นเอง ซึ่งแกก็รับได้แหละ แม้ว่าอาจจะไม่ชอบร่างนี้มากๆก็ตาม (ความชอบมันเป็นเรื่องส่วนบุคคลจริงๆนะ)
---------------------
สิ่งที่ผมจะหยิบมาเขียนก็คือ เรื่องที่ว่า ในข้อมูลดังกล่าวซึ่งกินเวลามา 20 ปีแล้ว และสิ่งที่ผมจะเพิ่มเติมข้อมูลให้ก็คือ ช่วงเริ่มต้นของภาค "สกายเปีย" ที่ปริศนาต่างๆเริ่มขมวดเยอะมาตั้งแต่ตอนนั้น อาจารย์โอดะเริ่มต้นภาคในช่วงกลางปี "2002" จริงๆ หลังจบภาคอลาบาสตา
และการเปิดเผยข้อมูลในหน้านี้ของ One Piece Blue ก็ตีพิมพ์ในปี "2002" เช่นกัน (เล่มภาษาไทยก็ยังมีสัญลักษณ์ Copyright 2002 อยู่)
ดังนั้น ไอ้เรื่องที่ฮือฮากันอยู่ขณะนี้ว่าไม่เมคเซนส์ ยัดพล็อต ฯลฯ ข้อนี้รับประกันได้เลยว่า คนอย่างอาจารย์โอดะที่บ้าการใส่Hint+Easter Egg จัดๆคนหนึ่งขนาดนี้
คิดว่าแกจะไม่วาง "Main Plot" เอาไว้เหรอ ไม่มีทาง
ไอ้ที่เห็นการค่อยๆมาเติมอะไรหลายๆอย่างนั้นคือสิ่งที่เรียกกันว่า Subplots ที่บางครั้งใช้อธิบายเนื้อเรื่องแตก และบางครั้งใช้อธิบายดีเทลของพล็อตหลัก บางอย่างมันก็เลยดูเหมือนเป็นการยัด แต่ถ้าเป็นตัวหลักๆแกไม่มีทางยัดแน่นอน
ธรรมชาติของนิยายต่างๆบนโลกนี้ ถ้าเป็นสเกลใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่จะมีพล็อตโฮลเกิดขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาของทุกศิลปะการเล่าเรื่องยาวบนโลกนี้
ถ้าเข้าใจธรรมชาติของมันและไม่พยายามยกตัวเองไปข่มคนเขียน ก็ไม่มีทางมีปัญหาอะไรครับ ถ้าเราเข้าใจคนอื่นว่าเขาก็มีโอกาสผิดพลาดได้เหมือนกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งโอดะที่พลาดบ๊อยบ่อย
ตราบใดที่มันยังยอมรับได้ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย หรือบางอย่างเขาก็ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว มันก็โอเค
--------------------------
ในหน้าสารานุกรมดังกล่าวอธิบายถึงสามประเด็นที่จะเกิดขึ้นเมื่อกินผลปีาจ นั่นก็คือ
1.ร่างกายจะเปลี่ยนไปทันที
2. ทะเลคือจุดอ่อน
3. มีอยู่มากกว่า 100 ผลทั่วโลก
4. สมบัติแห่งท้องทะเลที่มีมูลค่าถึงร้อยล้านเบรี หรือ เทียบเท่าหีบสมบัติระดับA สิบหีบขึ้นไป ก็ร้อยล้าน++ นั่นแหละ
5. "ผลปีศาจสายโซอน"
ผลฮิโตะฮิโตะโมเดลนิกะAKA"ผลโกมุโกมุ"
ที่น่าสนใจคือ ภาพตัวอย่างที่ใช้อธิบายคุณสมบัติของผลปีศาจ อาจารย์ก็หยิบผลโกมุ โกมุ มาเป็นโมเดลอธิบาย เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นธรรมดาปกติมากๆอยู่แล้วที่จะใช้ผลของพระเอก ที่แฟนๆเห็นกันบ่อย มาเป็นตัวอธิบายในเรื่องนี้
แต่จุดที่น่าสงสัยจัดๆที่สุดก็คือ ทำไมจะต้องเจาะจง "ผลปีศาจสายโซอน" (Zoan) ในการชี้ไปที่ผลปีศาจผลนี้ แถมยังไม่อธิบายผลปีศาจสายอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นพารามีเซีย หรือ โรเกีย ซึ่งก็ปรากฏในเรื่องมาหลายผลแล้วไม่ว่าจะผลไฟของเอส(เมระ เมระ) หรือผลซูระ ซูระ ผลทรายของเฮียเข้
ทำไมต้องอธิบายเฉพาะโซอน แล้วผลพารามีเซียล่ะ คุณสมบัติเด่นคืออะไร ทำไมไม่บอกแถมมาบ้าง ทำไมอธิบายคร่าวๆว่า ร่างกายผู้กินผลโซอนจะแปลงร่างได้สามแบบ คือร่างสัตว์(เปลี่ยนร่าง100%ตามผลปีศาจ) ร่างครึ่งคนครึ่งสัตว์(ร่างไฮบริด ไคโด กับ ช็อปเปอร์ ร่างไฮบริดเห็นชัดสุด) และร่างคน (ร่างต้นเพียว)
----------------------------
ประเด็นคือคำว่า ผลปีศาจสายโซอน ก็ถูกชี้ไปที่ผลโกมุ โกมุ เมื่อย้อนกลับไปดูมันก็จริงตามภาพนี้แหละ คือตั้งใจชี้ "คุณสมบัติ" ห้าข้อดังกล่าวไปยังผลโกมุ โกมุ ในรูป
.. อาจารย์โอดะเป็นมนุษย์ที่แปลกประหลาด บางทีก็แม่นยำเนียนกริ๊บ ซ่อนทุกอย่างเอาไว้มาเป็นเวลานานมากๆหลายๆเรื่อง จนบางอย่างเราลืมไปแล้ว แต่ผมยังไม่ลืมแน่ๆ โดยเฉพาะประเด็นโคบี้ ว่าที่คู่ปรับคนสุดท้ายที่อาจจะไม่ได้สู้กันตรงๆ แต่ก็เป็นเหมือนการ์ปกับโรเจอร์นั่นแหละ เรื่องลูกเรือ10คน เรื่องสัญลักษณ์บนดวงจันทร์ที่Eminemขึ้นไปเจอ
การเซอไพรส์คนอ่านเป็นของชอบของโอดะอยู่แล้ว
แต่บางทีแกก็หลงลืม และขัดแย้งในตัวเองเช่นกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่แกก็ยกมือยอมรับแหะๆว่าวาดพลาด วางพล็อตเรื่องพลาดจนมีรูโบ๋ที่อธิบายตอบในมุมคำถามแบบแถๆไปออกจะเยอะแยะ (ติ่งที่แท้จริงไม่ควรอวยแกเกินเหตุนะครับ คนเราก็เหมือนๆกันแหละทุกคนมีผิดพลาดกันได้นะ)
--------------------
เรื่องความย้อนแย้งของจารย์โอดะ มันก็มีอีกประเด็นอยู่ในหนังสือ One Piece Blue ในหน้านี้ จุดนี้แหละ ที่ผมยังไม่เห็นใครหยิบมาพูดถึงกัน
ให้สังเกตบรรทัดล่างสุดใต้ภาพช็อปเปอร์ว่า คนที่กินผลปีศาจสายโซอน จะมีสัญลักษณ์ "เท้าสัตว์" กำกับ ในข้อมูลผลปีศาจไว้
อยากรู้ไหมครับว่า ช่องของลูฟี่ ที่กินผล "โกมุ โกมุ" มีตีนสัตว์กำกับไว้เพื่อบอกว่านี่คือผลโซออน หรือไม่?
...
..
-------------------
คำตอบคือ "ไม่มี"
เอ้า แปลว่าแบบนี้อาจารย์ก็หักล้างและมั่วข้อมูลตัวเองน่ะสิ เพราะหน้าทางขวาที่เป็น General Description ของ "ผลปีศาจ" ก็เพิ่งจะชี้ไปผลโกมุ โกมุ เหมือนอยากHintว่ามันคือโซออน แต่ทำไมตอนอธิบายผลที่ลูฟี่กินไป ทำไมspecifyมันไว้ที่กรอบคำอธิบายของผลโกมุ โกมุไปเลยล่ะ
อาจารย์โอดะย้อนแย้ง? หรือว่า "พลาด"?!
ถ้าใส่มาแบบนั้น ผมว่ากลายเป็นประเด็นฮือฮาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วแน่นอน และคำเฉลยที่จะมาพีคในศึกไคโด ก็คงจะไม่Hypeกันไปทั่วโลกขนาดสำนักข่าวทางยุโรปยังต้องเอาไปทำข่าวถึงกระแสวันพีซ 1044 นี้ (ตอนนี้ 1045 แล้ว)
แต่.. ก็ถูกของอาจารย์อีกนั่นแหละ ที่ไม่ใส่สัญลักษณ์เท้าสัตว์ ที่บอกคนอ่านว่า สิ่งที่ลูฟี่กินคือสายโซอน เรียกง่ายๆว่า สามารถแถได้
เพราะคำอธิบายตรงนั้นของลูฟี่ "ไม่ใช่ผลฮิโตะ ฮิโตะ"
ผลโทริโทริเป็นสายโซอนมีสัญลักษณ์กำกับชัดเจน
--------------------------------
ผลโกมุ โกมุ ใน"นาม" นั้น ไม่ใช่โซอน
ทุกคนเข้าใจตรงกันว่ามันคือพารามีเซีย ร่างกายกลายเป็นยาง
จนถึงตอนนี้ โกมุ โกมุ ก็ยังเป็นพารามีเซียอยู่
นั่นคืออีกชื่อหนึ่งที่คนในโลกวันพีซ(รวมคนอ่านด้วย) รับรู้เข้าใจตรงกัน
ถ้าจะบอกว่าโกมุ โกมุไม่ใช่โซอน ก็สามารถพูดได้ หรือแถได้ในกรณีนี้
แต่อาจารย์โอดะก็ฉลาดพอที่จะระบุชื่อผลของลูฟี่เป็น "โกมุ โกมุ" เอาไว้แบบชัดเจนเต็มๆข้อ เพื่อให้อ้างได้ว่า นั่นไม่ใช่ "ฮิโตะ ฮิโตะ"
ถ้าเขียนข้อมูลบอกตั้งแต่ตรงนั้นเลยว่า ลูฟี่กินผล ฮิโตะ ฮิโตะ ทุกอย่างก็แทบจะเก็บเอาไว้เป็นของขวัญของเกียร์ 5 ไม่ได้น่ะสิ
เรื่องมันก็เป็นประการฉะนี้ หากใครมีหนังสือ One Piece Blue ไปเปิดดูเอาเองได้เลยว่า หน้าถัดมาที่อธิบายผลปีศาจของลูฟี่ มันไม่ระบุว่าเป็นโซอน จริงๆ แต่เป็นการชี้แจงในนามผล "โกมุ โกมุ" เป๊ะๆ
ไม่ใช่ "ฮิโตะ ฮิโตะ"
ถ้าจะอธิบายว่า โกมุ โกมุ มันเป็น "aka" ของผลฮิโตะ ฮิโตะ โมเดล นิกะ ก็น่าจะอธิบายได้ง่ายที่สุด ก็เหมือนชื่อ aka ของนักเขียน นักร้อง แร็ปเปอร์นั่นแหละครับ ชื่อผลยาง ก็เป็นอีกชื่อนึงนั่นแหละที่ห้าผู้เฒ่าพูดเอาไว้ และคนทั่วไปเข้าใจแบบนั้น แต่ความลับนี้คงมีไม่กี่คนที่รู้จริงๆ ไม่งั้นจะต้องมีการพูดถึงอย่างแพร่หลายแล้ว
------------------
ขึ้นชื่อว่าผลฮิโตะ ฮิโตะ นี่ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว อย่างของเซ็นโงคุก็เป็นโมเดลไดบุทสึ โคตรอลังการ ซึ่งถ้ายึดเอาในกรณีของ นิกะ กับ ไดบุทสึ แล้ว ผมเชื่อว่า ฮิโตะ ฮิโตะ ยังเล่นได้อีกเยอะมาก เพราะโมเดลที่เป็นร่างมนุษย์ มันยังมีทรงคนอีกหลายประเภท
มีเทพได้ ก็มีปีศาจที่เป็น "ร่างคน" ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ฮิโตะ ฮิโตะ ร่างสัตว์ในตำนานที่เป็นสายปีศาจ ก็ยังมีลุ้นที่จะออกมาอยู่ แถมอาจจะเป็น "ผลที่สามของ" หนวดดำ ก็ได้ (อันนี้เก็ง)
ถ้ามันมีไอ้ที่โหดกว่านี้ออกมา คุณจะเห็นเลยว่า "นิกะ มันไม่ได้โกงได้อยู่คนเดียวเสมอไป"
ถึงตอนนั้นย้อนมาอ่านอีกที เสียงด่าผลเทพนิกะก็อาจจะเบาลงแน่นอน ถ้าลาสบอสแสดงพลังให้เห็น ซึ่งบางครั้ง ศัตรูที่เก่งที่สุดในโลก ก็อาจจะไม่ใช่ศัตรูที่ร่างกายแข็งแกร่งที่สุดในโลกก็ได้
ยังไงก็ตามร่างที่เท่ที่สุดของลูฟี่สำหรับผู้เขียนยังคงเป็นNightmareLuffyเหมือนเดิม
-------------------
ความเก่ง กับ ความแข็งแกร่ง (Physical) คนละประเด็นกัน แน่นอนว่าสายกายภาพคงไม่มีใครถึกไปกว่าไอ้มังกรขี้เมาตัวนี้แน่ๆอยู่แล้ว แต่บอสตัวสุดท้าย มันจะมาในรูปแบบของการประยุกต์พลังต่างๆได้อย่างอันตรายที่สุดมากกว่า
หลายๆท่านที่สงสัยว่า "ลาสบอส" ที่แท้จริง มันจะเอาใครมาเก่งกว่าไคโดวะ? โอ้ยยยยยย ยังไปได้อีกเยอะ ไม่ต้องห่วงเลย เหมือนกับว่าเรามาเจอบอสสายกายภาพเท่านั้นเอง ก็เหมาะกับการดวล 1-1 กับลูฟี่ที่แดกโซอนเข้าไปแล้วเป็นสายกายภาพจ๋าๆมาตั้งแต่ต้นเรื่องนั่นแหละ
เมคเซนส์แล้ว
(เรื่องของช็อปเปอร์นี่ก็ยังไม่เฉลยเลยซะด้วยซ้ำ ว่าฮิโตะ ฮิโตะของแก เป็น "โมเดลอะไร" เพราะมีเหรอที่ลูกเรือว่าที่เจ้าแห่งโจรสลัด จะแปลงร่างได้แค่เป็น คนธรรมดาๆ มันจะต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ภายใน "ร่างแปลง" ของช็อปเปอร์แน่ๆ)
ทรงของผลฮิโตะฮิโตะที่ลูกพี่ช็อปกินเข้าไปมันธรรมดาซะที่ไหนวะเนี่ยทรงเนี้ย
นี่ก็ยังลุ้นการอัพเกรดผลตื่นของช็อปเปอร์ ว่าจะเป็นโมเดลอะไร และดูท่าเจ้าตัวอาจจะยังไม่รู้ เพราะลูฟี่ก็ไม่รู้ของตัวเองเช่นกันจนกระทั่งฝึกฝน ออกรบมาจนแตะจุดที่มันพีคและเข้าถึงผลปีศาจได้
ช็อปเปอร์จำเป็นต้องเจอสถานการณ์ความเป็นความตายแบบนี้ ตอนนั้นถึงจะตื่น ซึ่งก็อาจจะไปอยู่ในไฟต์สุดท้ายเลยก็ได้
ที่แน่ๆ ลูกพี่ช็อปเป็นตัวละครหลัก ความนิยมระดับท็อปๆของเรื่องนี้ หนึ่งในตัวละครที่ดังที่สุดตัวนึงในวันพีซที่ออกสินค้าทำของเล่นได้เยอะมาก เพราะมันน่ารัก นักสะสมหลายๆคนโคตรชอบเก็บช็อปเปอร์เป็นเซ็ตคอลเล็คชั่นนั้น เป็นตัวพิเศษที่เป็นสัตว์ตำนานแน่นอน คุณเตรียมตังไว้รอได้เลย ผมฟันธง!!!!
เอาเป็นว่าแค่นี้ก่อนแล้วกัน ประเด็นเรื่องของผลฮิโตะ ฮิโตะ หลายๆคนน่าจะมองภาพออกแล้วว่า มันไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งมายัดตอน ฮูส์ฮู พูดอย่างแน่นอน
20ปีแล้วจ้าาาาาา นี่ก็แอบช็อคเหมือนกันเนี่ยแหละ!
นอกเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ผมก็ยังยืนยันว่า ผมรู้สึกชอบการตื่นและการระเบิดพลังครั้งนี้ของลูฟี่มากๆ แม้หลายคนอาจจะมองว่ามันไม่ได้เป็นความสามารถโดยตรงของลูฟี่ และไม่โอเคเท่าไหร่ อันนี้เราไม่กล้าละเมิดความคิดเห็นคนอื่นครับ แต่ส่วนตัวผม ผมชอบมาก ชอบในลักษณะที่ไม่ได้ "ไฮพ์" แต่เห็นแล้วมันรู้สึกดี
มีครบเครื่องทั้งความเท่ ความกาว ความหลุดโลก ซึ่งเป็นการระเบิดร่างสุดยอดที่ไม่จำเป็นต้องมายืนเก๊กเท่ๆเหมือนการ์ตูนหลายๆเรื่อง ที่แทบจะเป็นแพทเทิร์นมาตลอดชีวิต 30 จะ 40 ปี ที่ร่างสุดยอดของทุกคนจะต้อง "เท่"
แต่ของลูฟี่ ร่างสุดยอดมัน "กาว" แถมออกไปทาง "น่ารัก" ซะอีก ดูหน้าแบ๊วของมันแล้วอย่างจี้
และนี่แหละ "วันดี" ของเพื่อนผมแน่ๆล่ะ ไอ้ฟี่ที่ผมรู้จักมันมา "25 ปี" มันเป็นแบบนี้แหละ อาจารย์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเพื่อนผมเลย มันก็แค่โตขึ้นเท่านั้น
เพื่อนแท้ เวลาเปลี่ยนแปลงไปยังไง มันก็จะปฏิบัติกับเราเหมือนเมื่อ 25 ปีก่อน และร่างนี้ของลูฟี่ คือการระเบิดพลังขั้นสูงที่แตกต่างออกไปจากเรื่องอื่นๆอย่างแท้จริงในด้านของ "สไตล์"
รูปลักษณ์ของมันถือว่าไม่แปลก หัวตั้งๆ ร่างสีทองๆ อันนี้มีเยอะ ต้นแบบมันก็มาจาก "ซุปเปอร์ไซย่า" ทั้งนั้นแหละ
แต่สิ่งที่ผมชอบมากๆ และมันยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็คือ ในภาคเกาะวาโนะ อาจารย์โอดะเขียนอะไรหลายๆอย่างที่ Tribute to "อาจารย์ โทริยาม่า อากิระ" ผู้วาด Dragonball มากๆ ว่าแกเคารพและมี DB เป็นตำนาน เป็นไอดอลมาตลอดจนถึงบัดนี้
หัวของลูฟี่ที่ทรงเป็น "เมฆสีทอง" ของโกคู นั่นคือเมฆระดับตลอดตลอดกาลของโลกการ์ตูน และตอนนี้ มันคือทรงผมของร่างสุดยอดของลูฟี่
ผมชอบประเด็นของการแสดงความเคารพนี้ที่สุดแล้ว ยิ่งกว่าพลังที่เพิ่มขึ้นมาซะอีก
นี่แหละ ความสุขของคนที่หัวใจรักการ์ตูนครับ
-หัตถาครองพิภพ-
โพสต์นี้คือโพสต์ "April Fools Day" ในแง่ที่ว่า วันนี้ 1 เมษายน ขอเฉลยความจริงที่ผม "โกหก"มาตลอด เพราะจริงๆแล้วเพจ ศาลาผี คือ "เพจการ์ตูนที่เขียนเรื่องแมนยูบังหน้า" เป็นร่างสองของ หัตถาครองพิภพ ก็เท่านั้นเอง
(จริงๆแล้วผมเคยคิดอยากจะทำเพจการ์ตูนด้วยซ้ำ โดยเฉพาะ "JOJO" เรื่องโปรดนัมเบอร์วันของผม ไม่นับDBที่ขึ้นหิ้งไปแล้ว ตอนนั้นโจโจ้เฉพาะกลุ่มมากๆ ด้วยลายเส้น เนื้อเรื่องของมัน ก็สามารถพูดได้เลยว่ามันยัง "ไม่แมส" เท่าปัจจุบันด้วยซ้ำ
ตอนนี้ใครๆก็รู้จักโจโจ้ ผ่านการดูอนิเมะ แต่ผมนั่งอ่านภาคมังงะมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันรอบแล้วในช่วงชีวิตวัยรุ่นของผม สุดท้ายก็ไม่ได้ทำเพจโจโจ้ (ทั้งๆที่อยากทำ) เพราะไม่มีเวลา และอยากทุ่ม Passion เทมาทางเรื่องแมนยูมากกว่า
JOJO นี่ก็ยังไม่เคยทิ้งเหมือนกัน เหมือนการ์ตูนทุกๆเรื่องที่ผมชอบ ไม่ว่าจะ Slamdunk ที่ทำให้ผลเล่นบาสเต็มๆ6ปีในช่วงมัธยม / Lucky Man ที่น่าจะเป็นการ์ตูนที่เราชอบมากๆจนถึงบัดนี้ ทั้งลายเส้นที่หลายคนมองว่ามันดูกาก แต่จริงๆโคตรมีเอกลักษณ์ และอีกหลายๆเรื่องเท่าที่ผมอ่าน
ผมยังมีร่างอื่นอีกเพียบ ก็เหมือนลูฟี่นั่นแหละ รอตามกันไปเรื่อยๆแล้วกันครับ
เอาแมนยูมาบังหน้า เรื่องบ้าอื่นๆยังมีอีกเยอะ!
🤣🤣🤣
#นิ้วโป้งสีน้ำทะเล
โฆษณา