1 เม.ย. 2022 เวลา 12:19 • การศึกษา
ยูเครน
(UKRAINE)
นับเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งประเทศรัสเซีย ออกคําสั่งให้กองทัพเปิดฉากโจมตีประเทศยูเครนอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เมืองต่างๆของยูเครนถูกปิดล้อมและถูกกระหน่ำโจมตีทั้งทางบกและทางอากาศ ประชาชนกว่า 10 ล้านคนต้องอพยพหนีภัยสงครามกลายเป็นคนไร้บ้านและมีพลเรือนเสียชีวิตจากการสู้รบหลายร้อยคน
ส่งผลให้ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เชเลนสกี แห่งประเทศยูเครน สั่งระดมกำลังทหารทั่วประเทศเพื่อต่อสู้ ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกต่างก็ส่งความช่วยเหลือทางทหารไปยังยูเครน แต่อย่างไรก็ตาม การต่อต้านทางทหารก็ทําให้ยูเครนต้องสูญเสียพลเมืองไปเป็นจำนวนมาก ในขณะที่เมืองต่างๆ เช่น มาริอูโปล และ เคอร์สัน ก็ถูกโจมตีเสียหายยับเยิน ถึงตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าสงครามจะจบลงเมื่อไหร่ เช่นนี้แล้วเรามาทำความรู้จักกับประเทศยูเครนให้มากขึ้นจากข้อมูลเหล่านี้กันครับ..
ประเทศยูเครน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ยูเครน” เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายลงในปี 1991 ยูเครนเป็นหนึ่งในประเทศที่แยกไปมีเอกราชของตัวเอง โดยเป็นประเทศหนึ่งในยุโรปตะวันออกที่มีเนื้อที่มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในยุโรปรองจากประเทศรัสเซีย (ประเทศรัสเซียตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปเอเชียและมีพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในทวีปยุโรป) และเป็น 1.17 เท่าของประเทศไทย นั่นคือมีพื้นที่ 603,628 ตารางกิโลเมตร มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 45 ของโลก ถือได้ว่าเป็นประเทศซึ่งมีพื้นที่อยู่ในทวีปยุโรปทั้งหมดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีจำนวนประชากรประมาณ 41.3 ล้านคน และเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ในทวีปยุโรป ประชากรส่วนใหญ่ 77.8% เป็นชาวยูเครน, 17.3% เป็นชาวรัสเซียและอื่นๆอีก 4.9% โดยมี “กรุงเคียฟ” เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ประเทศยูเครนมีอาณาเขตทางทิศเหนือจรดพรมแดนรัสเซียและเบลารุส ทิศตะวันออกก็มีอาณาเขตติดต่อกับรัสเซีย ทิศตะวันตกจรดพรมแดนโปแลนด์ สโลวาเกีย และฮังการี ทิศตะวันตกเฉียงใต้จรดพรมแดนโรมาเนียและมอลโดวา ส่วนแนวชายฝั่งทางทิศใต้ติดทะเลดำและทะเลอะซอฟ ประเทศยูเครนมีภูมิอากาศแบบภาคพื้นทวีปอบอุ่นมี 4 ฤดู โดยในฤดูหนาวพื้นที่บริเวณภายในประเทศจะมีอากาศหนาวเย็นกว่าพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลดําแต่จะยกเว้นบริเวณชายฝั่งทะเลแถบแหลมไครเมียทางตอนใต้ที่จะมีอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
ประเทศยูเครนมีรูปแบบการปกครองเป็นแบบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ โดยฝ่ายบริหารมีประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ดํารงตําแหน่งวาระละ 5 ปี มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งสภาสูงสุดจะเป็นผู้เสนอชื่อและประธานาธิบดีเป็นผู้เห็นชอบ ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติเป็นระบบสภาเดียวคือสภาสูงสุดมีสมาชิก 450 คน ซึ่งจะมีการเลือกตั้งทุกๆ 4 ปี และมีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 24 แคว้น โดยมี 1 สาธารณรัฐปกครองตนเองซึ่งก็คือ “ไครเมีย” และ 2 นครสถานะพิเศษคือ “เคียฟ” และ “เซวัสโตปอล” ส่วนภาษาราชการคือภาษายูเครนแต่ก็มีการใช้ภาษารัสเซียกันอย่างกว้างขวาง ประชากรร้อยละ 85 นับถือศาสนาคริสต์นิกาย Ukrainian Orthodox เป็นศาสนาประจำชาติ ประเทศยูเครนใช้สกุลเงิน ‘ฮริฟเนียยูเครน’ (UAH) เขตเวลา UTC+2
https://pixabay.com/images/search/ukraine/?pagi=4&
ประเทศยูเครนมีสถานที่น่าท่องเที่ยวมากมาย มีศิลปะและวัฒนธรรมของชาวสลาฟที่สวยงามและน่าสนใจไม่แพ้ประเทศอื่นๆในยุโรปเลย เริ่มที่ “กรุงเคียฟ” เมืองหลวงที่อยู่ริมแม่น้ำนีเปอร์ ในอดีตเมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการค้าขายระหว่างทะเลบอลติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาอย่างยาวนาน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เมืองแห่งนี้จะถือเป็นทรัพย์สมบัติของมวลมนุษยชาติ “เมืองลวีฟ” ก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังคงอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างในอดีตอย่างถนนแคบๆที่ปูด้วยหินหรืออาคารบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมแตกต่างกันได้เป็นอย่างดี และต่อมาเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ เนื่องจากเป็นเมืองท่าที่สำคัญของทะเลดําและของประเทศจึงได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งทะเลดํา” นั่นก็คือ “เมืองโอเดสซา” เป็นเมืองที่มีอากาศอบอุ่นและชายหาดที่สวยงาม จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนตลอดทั้งปี
จนถึงวันนี้สงครามระหว่างประเทศรัสเซียกับประเทศยูเครนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ ทางรัสเซียยังคงมองว่าชาติตะวันตกกําลังขยายอิทธิพลทางการทหารโดยผ่านความต้องการของยูเครนที่ต้องการเข้าร่วมนาโต และยังอ้างถึงความรุนแรงในภูมิภาค “ดอนบาส” ทางตะวันออกของยูเครนที่มีการต่อสู้ยืดเยื้อหลายปี ระหว่างกองทัพยูเครนกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุน อย่างไรก็ตาม โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียระบุเงื่อนไข 4 ข้อให้ยูเครนปฏิบัติตามเพื่อยุติสงคราม ได้แก่ 1. ยูเครนต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยูเครนปฏิเสธเป้าหมายในการเข้าร่วมกลุ่มความร่วมมือต่างๆ 2. ยอมรับว่าพื้นที่ไครเมียเป็นอาณาเขตรัสเซีย 3. ยอมรับว่าพื้นที่ที่ประกาศตนเป็นสาธารณรัฐประชาชนโดเนตก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์นั้นเป็นรัฐเอกราช และ 4. ยูเครนต้องยุติปฏิบัติการทางทหาร
ยากที่จะคาดการณ์ต่อไปว่าเรื่องความขัดแย้งนี้จะจบลงที่ตรงไหน การเจรจาสร้างสันติภาพที่หลายฝ่ายพยายามที่จะให้บรรลุข้อตกลงจะได้ผลหรือไม่ เพราะทุกฝ่ายก็ทราบดีว่าหากปล่อยให้สงครามยังคงดำเนินต่อไปแบบนี้จะพลอยทําให้ยุโรปพังไปด้วยและจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก สุดท้ายเราก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้สงครามความขัดแย้งครั้งนี้ได้ข้อสรุปและยุติลงได้โดยเร็วที่สุด เพราะไม่มีสงครามครั้งไหนที่ไม่สร้างความสูญเสียให้กับมนุษยชาติ..
References:
โฆษณา