1 เม.ย. 2022 เวลา 16:33 • กีฬา
สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้เราก็กลับมาพบกันอีกแล้วกับสวัสดีวูซู
หลังจากที่โพสต์ที่แล้วเราได้เล่าเกี่ยวกับกีฬาวูซูประเภทต่างๆ และลงลึกในประเภทของยุทธลีลาทั้ง 5 ชนิดแรกไปแล้ว วันนี้เราจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกีฬาวูซูประเภทยุทธลีลาและอุปกรณ์ที่ใช้อีก 5 ชนิดที่เหลือค่ะ
สำหรับประเภทของกีฬาวูซูประเภทยุทธลีลาที่เหลืออีก 5 ชนิด ได้แก่
1. หนานเตา (ดาบใต้)
วิชาหนานเตาเป็นเอกลักษณะพิเศษเฉพาะของยุทธลีลาตอนใต้ของประเทศจีน มีใบดาบที่เรียบ ส่วนท้ายด้ามดาบไม่นิยมผูกผ้า เนื่องจากเป็นรูปห่วงทรงกลม อาจมีห่วงเล็กๆห้อยในห่วงใหญ่ประมาณไม่เกิน 3 ห่วง ในการฝึกพื้นฐานนั้น โดยทั่วไปเหมือนกับการฝึกพื้นฐาน " เตาซู่ "
2. ไท่จี๋เจี้ยน
ไท่จี้เจี้ยนมีท่าทางและเพลงยุทธที่เหมือนกับไท่จี๋ฉวน ซึ่งเป็นวิชาที่มีความนุ่มนวล เชื่องช้า เคลื่อนไหวแผ่วเบา กระบี่เป็นอาวุธที่บอบบาง มีสองคม แต่ใบลำตัวกระบี่มีขนาดเล็กกว่าดาบ จุดเด่นของความสวยงามจึงอยู่ที่ภู่กระบี่ อีกทั้งเพลงยุทธของไท่จี๋เจี้ยนยังแฝงเร้นซึ่งพลังลมปราณที่แข็งแกร่งไหลเวียนไปทุกส่วนของร่างกาย โดยมีสมาธิจิตเป็นเครื่องชี้นำเพลงยุทธ
3. เชียงซู่ (ทวน)
วิชาทวนเป็นวิชาเจ้าแห่งอาวุธหรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่าจอมโจรแห่งศาสตราวุธ ลักษณะพิเศษของวิชาทวนคือความแหลมคมตรงส่วนปลายที่ใช้ได้อย่างคล่องแคล่วยิ่งและยังมีความยาวที่ได้เปรียบคู่ต่อสู้อีกด้วย ในการสอนวิชาทวนต้องคำนึงถึงการเคลื่อนไหวของลำตัวผู้ฝึกเป็นสำคัญ มิฉะนั้น ทวนจะดูแข็งทื่อไม้จะไม่ไหวพริ้วประดุจมังกรรำ ดังคำที่ว่า " ทวนพริ้วไหวดุจมังกรรำ " วิชาทวนนั้น รูปแบบตามปกติคือจับด้ามทวน ด้วยมือขวา จับตัวทวนด้วยมือซ้าย เมื่อแทงส่งทวนใช้มือขวาส่งถึงมือซ้าย
4. กุ้นซู่ (ไม้พลอง)
ไม้พลองจะมีความแตกต่างจากทวนทางด้านคุณสมบัติและเอกลักษณ์ของวิชา แต่พื้นฐานการฝึกเริ่มต้นเหมือนกันคือการควงไม้พลองและทวนในลักษณะคว่ำข้อมือไปทั้งซ้ายและขวา และใช้พลังเอวในการควงด้วย คุณสมบัติของไม้พลองในประเภทฉางฉวน ตัวไม้พลองไม่ควรหนาหรือโตมากเกินไป จะเป็นอุปสรรคต่อการแสดงได้ ความสูงของไม้พลองเมื่อตั้งตรงชิดลำตัวเจ้าของต้องสูงเลยศีรษะ และชนิดของไม้ที่ฝึกหรือใช้แข่งขันต้องเป็นไม้ " ไป๋ละกาน " จึงถือว่าถูกต้องตามกติกา
5. หนานกุ้น (พลองใต้)
วิชาไม้พลองของทางใต้มีเอกลักษณ์เฉพาะ และค่อนข้างมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีทางตอนใต้และชาวจีนโพ้นทะเล เนื่องจากเป็นวิชาที่สืบทอดโดยวัดเส้าหลินเป็นส่วนใหญ่ และมี 2 ประเภทสำคัญ ได้แก่พลองที่จู่โจมด้วย 2 หัวท้ายของไม้พลอง กับพลองที่ใช้ส่วนปลายเป็นหลักในการจู่โจม ซึ่งมีพื้นฐานคล้ายกับวิชาทวน วิชาพลองใต้เน้นที่พลังจากเอวเป็นหลักสำคัญ ดังนั้นในการฝึกจึงมักพบว่าส่วนใหญ่ด้ามพลองจะชิดเอวหรือหน้าท้องเป็นหลัก ในการฝึกไม้พลองใต้แต่โบราณ มักฝึกด้วยไม้แก่นเหนียวหรือไม้เนื้อแข็ง มีรูปแบบการฝึกที่เน้นพลังก่อน
ถ้าทุกท่านสนใจและสงสัยว่าพวกเราจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรอีกต่อไปนั้น ท่านสามารถกดติดตามพวกเราเพื่อให้ไม่พลาดข้อมูลที่น่าสนใจเช่นนี้ต่อไปได้เลยนะคะ
สุดท้ายแล้วก็อย่าลืมทำแบบประเมินความรู้ ความพึงพอใจในงานของพวกเรา และให้คำแนะนำพวกเราผ่านลิงค์ทางด้านล่าง เพื่อให้พวกเราได้ทราบความพึงพอใจของทุกท่านและจะได้นำคำแนะนำของทุกท่านมาปรับปรุงต่อไปค่ะ แแล้วไว้พบกันใหม่สัปดาห์หน้านะคะ
โฆษณา