Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
no name
•
ติดตาม
4 เม.ย. 2022 เวลา 02:00 • กีฬา
" รุด ในสีเสื้อราชัน "
รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมของ พีเอสวี ไอน์ดโฮเฟ่น ในฤดูกาลหน้า หลังจากคุมทีมสำรองทำผลงานได้ดี
ชื่อของ ฟาน นิสเตลรอย สมัยเป็นนักเตะ ภาพมักเป็นสมัยดังมาจาก พีเอสวี และเปรี้ยงปร้างสุดขีดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อย่างไรก็ดีในชุดสีขาวของ เรอัล มาดริด เป็นช่วงที่ รุด ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน
จุดเด่นของ "ฟาน เดอะ แมน" คือการจบสกอร์ที่เด็ดขาด แม้แทบไม่ยิงประตูนอกกรอบ 18 หลาเลยตลอดอาชีพ แต่ถ้าเป็นเรื่องภายในกรอบ รุด คือหนึ่งในกองหน้าที่เชี่ยวชาญที่สุดในโลก
1
แม้จะไม่ได้มีการเลี้ยงบอลที่คล่องแคล่วจี๊ดจ๊าด หรือความเร็วมากมายอะไร แต่ก็ด้วยความแข็งแรงของร่างกาย และปฏิกิริยาที่ไวมาก ทำให้เขาสามารถเอาชนะตัวประกบในกรอบเขตโทษได้อย่างง่ายดาย เรียกว่าถ้าสับไก ไม่ตุงตาข่าย โกล์ก็ต้องออกแรงเซฟ
สถิติของ ฟาน นิสเตลรอย กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ 219 นัด ทำไป 150 ประตูกับ 24 แอสซิสต์
แต่แล้วด้วยความขัดแย้งกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาก็ต้องโดนปล่อยตัวออกจากทีม
รุด เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูงมาก เขาทะเลาะกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สมัยยังเป็นดาวรุ่ง ต่อมาผิดหวังที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมลีก คัพ นัดชิงชนะเลิศ จนถึงกับด่าใส่เฟอร์กี้
เมื่อล้ำเส้นเกินไปแบบนี้ต่อให้เป็นนักเตะคนโปรด เฟอร์กี้ ก็ไม่เก็บไว้
ซัมเมอร์ปี 2006 เราจึงได้เห็น ฟาน นิสเตลรอย ย้ายจากแมนเชสเตอร์ ไปยังกรุง มาดริด ด้วยค่าตัว 14-15 ล้านยูโร
ที่นั่นมีเพื่อนเก่าที่เคยเปิดป้อนให้กันที่แมนเชสเตอร์ อย่าง เดวิด เบ็คแฮม รอต้อนรับอยู่แล้ว
บวกกับ มาดริด มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ซีดาน รีไทร์หลังฟุตบอลโลก, ฟาบิโอ คาเปลโล่ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่
บนวัย 30 ปี รุด ต้องปรับตัวเยอะทีเดียว แต่เขาก็พิสูจน์ว่า เขาเล่นให้กับทีมไหนก็ได้ในตำแหน่งกองหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าคู่ หรือหอกเดี่ยวก็ตาม
มาดริด ชุดนั้นเต็มไปด้วยนักเตะบราซิเลี่ยน โรบินโญ่,โรแบร์โต้ คาร์ลอส, เอเมอร์สัน, ซิซินโญ่, ชูลิโอ บาปติสต้า (โดนปล่อยยืมตัว) และ โรนัลโด้ R9 นักเตะที่ รุด บอกว่าเก่งที่สุดเท่าที่เขาเคยสัมผัสมา
1
กระนั้นก็เป็น โรนัลโด้ ที่ผ่านช่วงพีคมาแล้ว มีปัญหาสภาพร่างกาย น้ำหนักเกิน และเจ็บบ่อยขึ้น
เกมแรกใน ลา ลีกา ของรุด กับทีมชุดขาว จบลงด้วยสกอร์ 0-0 แต่ในเกมที่ 2 เขาก็สามารถกดแฮททริกได้ทันที ช่วยทีมถล่มเลบันเต้ 4-1 โดยเล่นประสานงานกับ ราอูล กอนซาเลซ และ อันโตนิโอ คาสซาโน่
1
รุด ไม่ยิงในลีก 4 นัดติดต่อกัน ก่อนมาถึงเกม เอล กลาสิโก้ และเขาก็ทำได้ 1 ประตู ช่วยให้ เรอัล มาดริด เอาชนะบาร์ซ่า ไป 2-0
ฤดูกาล 2006/07 เป็นปีที่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ พยายามใช้ความเฮี้ยบ ความมีระเบียบวินัยของตัวเองมาใส่ในทีมมาดริด ซึ่งเต็มไปด้วยสตาร์อารมณ์ศิลปิน และความคิดสร้างสรรค์สูง
ช่วงกลางๆ ฤดูกาลผลงานของมาดริดแย่มาก พวกเขาแพ้ 6 นัดจาก 13 เกม ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - ต้นกุมภาพันธ์
โรนัลโด้ R9 โดนปล่อยไปให้ เอซี มิลาน ในตลาดหน้าหนาว นั่นยิ่งทำให้ รุด ต้องกลายมาเป็นความหวังในการทำประตูสูงสุด เคียงข้างกับ ราอูล กอนซาเลซ
ช่วงที่ผลงานทีมแย่ ผลงานของเขาก็แย่ไปด้วย เขายิงได้แค่ 4 นัด จากทั้งหมด 15 นัด
กระทั่งเขาไม่มีชื่อในเกมเสมอ แอตเลติโก้ มาดริด เขาก็กลับมาด้วยการยิงประตูใส่เคตาเฟ่ ทันที เมื่อตอนต้นเดือนมีนาคม
ในช่วงโค้งสุดท้ายนี่เองที่ รุด กลับมาแผลงฤทธิ์ พร้อมๆ กับที่ คาเปลโล่ จำใจต้องให้โอกาส เดวิด เบ็คแฮม กลับสู่ทีม เพราะ เบ็คแฮม ทุ่มเททำงานหนักและมีลูกเปิด ลูกฟรีคิกที่ สร้างโอกาสให้เพื่อนได้เสมอ
1
ฟาน นิสเตลรอย ทำอีก 2 ประตูในการบุกไปเสมอ บาร์เซโลน่า 3-3
จากนั้นเขาก็เริ่มเครื่องติด 14 นัดสุดท้ายของฤดูกาล รุด ยิงได้ถึง 10 นัด รวมแล้ว 14 ประตูพอดี ช่วยให้ เรอัล มาดริด เข้าป้ายเป็นแชมป์ ลา ลีกา ได้ในท้ายที่สุด
ส่วนใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นรายการที่ รุด ถนัดมาก เขาก็ยังทำผลงานได้เยี่ยม น่าเสียดายที่ มาดริด แพ้ให้ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยอเวย์โกล โดยที่ รุด เองยิงใส่ บาเยิร์น ได้ทั้งเหย้าและเยือน
ฤดูกาลแรกกับเรอัล มาดริด ฟาน นิสเตลรอย เป็นดาวซัลโวของทีมทันที ทั้งในลีก (25 ประตู) และรวมทุกรายการ 33 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 47 นัด
2
ความผันผวนเกิดขึ้นอีกในฤดูกาล 2007/08 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สองของเขากับทีม เพราะ ฟาบิโอ คาเปลโล่ จากไป แบร์นด์ ชูสเตอร์ เข้ามาเป็นเทรเนอร์คนใหม่
มิหนำซ้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องขุมกำลังขนานใหญ่ พวกรุ่นเก๋าที่ผ่านช่วงเวลารุ่งเรืองกาลาคติกอสกับทีม เริ่มจากไป ทั้ง เอเมอร์สัน, เดวิด เบ็คแฮม, โรแบร์โต้ คาร์ลอส, อิบัน เอลเกร่า, อันโตนิโอ คาสซาโน่ รวมถึงสำรองชั้นดีที่ทำงานหนักอย่าง ฟรานซิสโก้ ปาบอน และ ราอูล บราโบ
พวกที่เข้ามาใหม่ ส่วนใหญ่เด็กหนุ่มไฟแรง โดยเฉพาะ 3 รุ่นน้องร่วมชาติของรุด ทั้ง อาร์เยน ร็อบเบน, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, รอยสตัน เดรนเธ่
เรอัล มาดริด ถึงคราวเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง แต่รุด ยังก้มหน้าก้มตาแบกความหวังในการทำประตูต่อไป ร่วมกับกัปตันทีมที่วัยแตะเลข 3 แล้วเช่นกันในเวลานั้นอย่าง ราอูล กอนซาเลซ
19 นัดแรกที่ลงสนามใน ลา ลีกา ปีนั้น เขาทำไป 12 ประตู กับ 4 แอสซิสต์ และแล้ว ฝันร้ายก็มาเยือน ... มันคืออาการเจ็บที่ข้อเท้า
อาการเจ็บนี้ทำให้เขาพลาดลงสนามถึง 10 นัด กินเวลา 2 เดือนเศษ ก่อนจะกลับมาในช่วง 3 นัดสุดท้ายของฤดูกาล
นัดแรกที่คัมแบ็กและได้ลงสนามคือลงมาเป็นตัวสำรองในเกมถล่ม บาร์เซโลน่า 4-1 โดยเขาทำ 1 ประตู จากนั้น ก็ยิงอีก 3 ประตูใน 2 นัดที่เหลือ ปิดฉากซีซั่นอย่างเข้าฝักเข้าฟอร์ม
เรอัล มาดริด ของ แบร์นด์ ชูสเตอร์ ยังป้องกันแชมป์ ลา ลีกา เอาไว้ได้สำเร็จ
ปีที่ 2 ของเขากับทีม ลงเล่นร่วมทุกรายการ 33 นัดเท่านั้น แต่ก็ทำได้ 20 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์ ทว่าสัญญานเตือนเรื่องอาการบาดเจ็บเริ่มมีให้เห็น
1
ก็พอดี ยูโร 2008 มาถึง เขายังเป็นหัวหอกตัวเลือกแรกของกุนซือ มาร์โก แวน บาสเท่น และทำประตูได้ทันทีในเกมถล่มอิตาลี 3-0
เวลานั้นทัพดัตช์มีกองหน้าหนุ่มที่พร้อมสอดแทรกอยู่แล้วอย่าง คลาส แยน ฮุนเตลาร์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่ รุด ในวัย 32 ปี ก็ยังเป็นตัวเลือกแรก
น่าเสียดายที่ฮอลแลนด์พลิกพ่ายจอมเซอร์ไพรส์แห่งทัวร์นาเมนต์อย่างรัสเซีย ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย 1-3 โดยที่ รุด เป็นคนยิงประตูโทนให้กับทีมในเกมนี้
ปีที่ 3 ของเขากับทีม ฟาน นิสเตลรอย กลับมาอย่างกระชุ่มกระชวยหลังเลียแผลใจจากยูโร เทรนเนอร์แบร์นด์ ชูสเตอร์ ยังเชื่อมั่นในการผลิตสกอร์ของเขา
น่าเสียดายที่เปิดมา มาดริด พลิกแพ้ให้กับ ลา กอรุนญ่า 1-2 แต่กระนั้น รุด ก็มีประตูมาฝาก
7 นัดแรกของซีซั่นใหม่ 2008/09 เขาลงสนามไป 6 นัด ทำไป 4 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ทุกอย่างยังไปได้สวย
โดยในนัดที่ 7 ของฤดูกาลเป็นการเจอกับ แอตเลติโก้ มาดริด อริร่วมเมือง ไม่มีใครรู้ว่านั่นจะเป็นนัดสุดท้ายใน ลา ลีกา ของเขาในฤดูกาลนี้
วันที่ 18 ตุลาคม 2008 ฟาน นิสเตลรอย กลับตัวยิงจากนอกกรอบตั้งแต่นาทีแรกของเกมให้ เรอัล ออกนำอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างราบรื่น จนกระทั่งนาทีที่ 38 รุด ไปพุ่งสกัดบอลตรงกลางสนาม แต่มันผิดจังหวะ เสียบโดนขา มานิเช่ กองกลางแอต มาดริด ทำให้เขาโดนไล่ออกทันที
ใบแดงนี้ทำให้เขาโดนแบน แต่ระหว่างช่วงนี้เองที่ รุด ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก หมอนรองกระดูกเข่าพัง เขาต้องเข้ารับการผ่าตัด และพักยาว 9 เดือน! ปิดฉากซีซั่นไปโดยปริยาย
น่าเสียดายที่มันเป็นปีที่เขาเริ่มต้นได้ยอดเยี่ยมมากแท้ๆ รวม 12 นัดทุกรายการ รุด ทำไป 10 ประตูกับ 2 แอสซิสต์
การขาด รุด ส่งผลอย่างมากต่อเรอัล มาดริด และแบร์นด์ ชูสเตอร์ เพราะภายใน 1 เดือนแรกที่ไม่มีเขา เรอัล มาดริด แพ้ 4 จาก 5 นัดในลา ลีกา
หนึ่งในนั้นคือการแพ้ บาร์เซโลน่า 0-2 เป็นปีแรกที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถูกดันขึ้นมาคุมบาร์ซ่า
ตลอด 2 ปีก่อนหน้านี้ที่ รุด ลงเล่นให้มาดริด พวกเขาไม่เคยแพ้ให้บาร์ซ่าเลย เจอกัน 4 นัดใน ลา ลีกา ชนะถึง 3 เสมอ 1 และรุด ยิงได้ 3 จาก 4 นัดดังกล่าวนี้
แบร์นด์ ชูสเตอร์ โดนปลดออกจากตำแหน่งเซ่นผลงานย่ำแย่ และ ฆวนเด้ รามอส อดีตกุนซือเซบีย่า ถูกดึงมาคุมทีมแทน
ฆวนเด้ รามอส เหมือนจะพลิกฟื้นสถานการณ์ของมาดริดได้ เพราะนับแต่นั้น เขาพาทีมชนะ 17 จาก 18 นัดต่อมา (เสมอ 1 นัด) ก่อนมาเจอกับบาร์เซโลน่า ในัดที่ 34 ของฤดูกาล
มันคือการตัดสินชะตา แต่หนนี้ บาร์ซ่า โหดกว่าเดิม เป๊ป พาทีมบุกถล่ม มาดริด 6-2 หลังจากนัดนี้ มาดริด ก็ทิ้งทุ่น พวกเขาแพ้รวด 4 นัดที่เหลือของฤดูกาล ปล่อยให้ บาร์ซ่า เข้าป้ายเป็นแชมป์แบบสบายๆ
หาก รุด ยังฟิตสมบูรณ์ อาจไม่ได้หมายความว่า มาดริด จะป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกสมัย แต่อย่างน้อย น่าจะมีอะไรสนุกและสูสีมากกว่านี้มาฝากแฟนๆ
ปี 2009/10 เรอัล มาดริด ก็ถึงความขยับครั้งใหญ่อีกรอบ มานูเอล เปเยกรินี่ ถูกดึงมาคุมทีมแทน ฆวนเด้ รามอส และมันเป็นปีที่ 4 แล้วสำหรับ รุด ฟาน นิสเตลรอย กับทีมชุดขาว
เขาฟื้นฟูร่างกายจนฟิตเต็มที่ ไม่ได้เล่นฟุตบอลมา 11 เดือนเต็มๆ
เปเยกรินี่ จับเขาเป็นสำรองก่อนในเกมแรกที่คัมแบ็กกลับมา และเมื่อปล่อยเขาลงสนามเป็นเกมแรก เป็นตัวสำรองเจอกับ เคเรซ ในช่วงท้ายเกม ด้วยเวลา 11 นาที ฟาน นิสเตลรอย ก็ทำประตูได้ทันที บวกกับอีก 1 แอสซิสต์ ช่วยทีมถล่มเคเรซ 5-0
1
แต่คราวนี้ โชคชะตาเล่นตลกอีกเหมือนเดิม จากคนที่ดูแลตัวเองอย่างดีมาตลอด ระมัดระวังไม่ให้อาการเจ็บเล่นงาน เพียงแค่ลงสำรองในนัดนั้น เขาก็เดี้ยงอีก
หนนี้เส้นใยกล้ามเนื้อฉีกขาด พักไปอีก 1 เดือน ก่อนจะกลับมาเป็นสำรองไม่ได้ใช้อยู่ 2 นัด ก็ปรากฏว่ามีปัญหาที่น่อง จนต้องพักยาวข้ามปีไปจนถึงตลาดหน้าหนาว มกราคม 2010
1
ตอนนั้นเองที่มันมาถึงจุดสิ้นสุด เรอัล มาดริด ตัดสินใจปล่อย รุด ฟาน นิสเตลรอย ในวัย 33 ปีเศษ ไปอยู่กับ ฮัมบูร์ก ในเยอรมัน ซึ่งภายหลังเขามีส่วนขัดเกลา ซน ฮึง มิน ในวัยกระทง ให้จบสกอร์ได้เฉียบขาดขึ้นด้วย
รุด อาจเป็นที่จดจำกับแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ในสีเสื้อ เรอัล มาดริด เขาก็ทำได้ยอดเยี่ยมทีเดียว
1
ตลอด 3 ฤดูกาลครึ่งในมาดริด รุด ลงเล่นทั้งสิ้น 96 นัด ทำไป 64 ประตูกับอีก 16 แอสซิสต์! คว้าแชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย และ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ อีก 1 รายการ
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
www.cheerball.com/news/talk
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line :
https://line.me/R/ti/p/@cheerballth
Facebook :
www.facebook.com/cheerball
Twitter :
www.twitter.com/cheerballth
Website :
www.cheerball.com
Youtube :
www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
4 บันทึก
8
1
4
8
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย