3 เม.ย. 2022 เวลา 14:45 • ปรัชญา
“เวลา … ไม่มีอยู่จริง”
“ … ความแตกต่างระหว่าง จิตประภัสสร กับ ผู้ที่สามารถรู้แจ้งอริยสัจ 4 แล้ว คือสิ่งใด ?
จิตประภัสสรที่หยาดลงมา ยังไม่ได้อบรมสติปัฏฐาน
ก็จะถูกอวิชชาเข้าบดบัง
จากนั้นก็จะเกิดการหลงยึดมั่น
เป็นสัตว์ขึ้นมา เกิดปฏิจจสมุปบาท เกิดวัฏฏะ
กิเลส ความปรุงแต่ง ก็จะทำให้เกิดหลงการทำกรรม
กรรม ก็จะทำให้เกิดวิบากกรรม
วิบากกรรม ก็จะทำให้เกิดกิเลส
กิเลส ก็จะทำให้เกิดกรรม
กรรม ก็จะทำให้เกิดวิบาก
เป็นวงรอบแห่งวัฏสงสาร
หลงติดอยู่ในวัฏสงสาร กี่ภพชาติไม่ถ้วน
1
แต่เมื่อได้มีโอกาส สะสมบารมีมาอย่างเพียงพอ
จนได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนา
ได้เดินในอริยมรรคมีองค์ ๘​
จนสามารถเกิดการรู้แจ้งอริยสัจ ๔
ชำระตนได้หมดจด หลุดพ้น
ก็จะสามารถกลับคืนสู่ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติได้
1
ที่พาเข้าถึงความบริสุทธิ์ แล้วถอยกลับมา นั่นคือความแตกต่าง
ถ้าผู้ที่รู้แจ้งอริยสัจ ๔ แล้ว
รู้แจ้งปฏิจจสมุปบาทแล้ว
เมื่ออวิชชาเข้ามาบดบัง ก็จะสามารถเพิกออกได้
แล้วเราสามารถเห็นวงจรของปฏิจจสมุปบาทตรงนี้ได้ตลอดสายเลย
จะซูมเข้า ซูมออกก็ได้
จะทำให้เร็ว ทำให้ช้าก็ได้
จะหยุดในสเต็ปใด สเต็ปหนึ่ง ก็ได้
1
ทำไมถึงทำได้อย่างนั้น ?
เพราะว่า เวลาไม่มีอยู่จริง
3
จริง ๆ วงปฏิจจสมุปบาท มันเกิดดับรวดเร็วมาก
แต่กาลเวลา มันเป็นสมมติของโลก
1
แต่เมื่อเราอยู่ในสิ่งที่มันพ้นโลกออกไปแล้ว
เวลาไม่มีอยู่จริง
2
เพราะฉะนั้นบางคนเดินวิปัสสนาญานละเอียด
จึงรู้สึกว่าทุกอย่างมันเหมือนสโลวโมชั่นมาก
จิตที่ว่าเกิดดับรวดเร็ว ก็รู้เท่าทันได้
2
เพราะว่า “เวลา” จริง ๆ แล้วไม่มีอยู่จริง
แต่จะเข้าถึงตรงนั้น ต้องอยู่ในวิปัสสนาญาน
ต้องเข้าถึงเนื้อที่มันพ้นจากโลกปรุงแต่งออกไป
เพราะฉะนั้นการพิจารณาปฏิจจสมุปบาทตลอดสาย
สายเกิด สายดับ
มันจะทำให้เรามีขีดความสามารถที่จะหยุดอวิชชา
เพิกอวิชชาออก ไม่หลงยึดติด
แม้ขณะที่เราอยู่ในวงจร ในเนื้ออวกาศได้
จะต่างจากจิตประภัสสร ที่เริ่มแรกที่หยาดลงมา ยังไม่รู้แจ้งตรงนี้
หยาดลงมาเท่าไหร่ก็ถูกหุ้ม มันเป็นธรรมชาติเลย
แต่เมื่อรู้แจ้งอริยสัจ ๔
ผ่านการอบรมสติปัฏฐาน ๔ แล้ว
อวิชชาเข้ามาห่อหุ้ม ก็เพิกออกได้ ละได้ ถอดถอนได้
นี่คือความแตกต่างระหว่างจิตประภัสสรที่ยังไม่ได้อบรมสติปัฏฐาน ๔
กับ จิตประภัสสรที่ผ่านการอบรมสติปัฏฐาน ๔ มาแล้ว
เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
แล้วเมื่อเราได้ปฏิบัติ เคยเข้าถึงความบริสุทธิ์ตรงนี้
มันจะมีร่องอยู่ ร่องนี้ ไม่หายไปไหน
เพียงแค่เคยได้สัมผัสแค่ครั้งหนึ่ง
มันเหมือนเรามีร่องแล้ว มีเข็มทิศแล้ว
เราจะมีโอกาสที่จะเข้าถึงสิ่งนี้ได้อีก
3
เพราะฉะนั้นการปฏิบัติเข้าถึงความบริสุทธิ์ในทุก ๆ วัน
จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
นอกจากการชำระตนแล้ว
มันจะมีร่องที่เข้าถึง ร่องที่เข้าถึง
แม้ว่าในชาติปัจจุบันเราอาจจะชำระตนไม่หมดจด
แต่มันมีร่องอยู่ มันมีวิถีอยู่
เพราะฉะนั้นมันจะเป็นสิ่งที่จะอยู่กับเรา
มันจะทำให้เรามีโอกาสที่จะเข้าถึงร่องนี้ได้โดยธรรมชาติเลย
1
เพราะฉะนั้นขวนขวายฝึกฝนในทุก ๆ วัน
ก็จะเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
เพื่อความสุขตลอดกาลนานได้ … “
1
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา