Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลือชัย พิศจำรูญ
•
ติดตาม
5 เม.ย. 2022 เวลา 02:52 • นิยาย เรื่องสั้น
ตำนานโค้งยิ้มวัดโยธา จ. อุดรธานี
เคยได้ยินเรื่องราวของโค้งยิ้มอุดรบ้างไหม ? หุหุหุ
เรื่องโค้งยิ้ม จัดเป็นสถานที่แห่งนึงในจังหวัดอุดรธานี ที่เขาลือกันมาตั้งแต่สมัยก่อนว่าน่ากลัว..มาก..หลอนวิญญานสุดๆ คนขับมอเตอร์ไซด์เคยเจอดีโดนผีหลอกจนถึงตายมาแล้วหลายคน ใบหน้าคนตายเหล่านั้นเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัว แม้จะได้ตัวตายตัวแทนไปแล้วหลายคนแต่วิญญานผีสาวก็ไม่อาจหลุดพ้นจากโค้งผีสิงนี้ไปได้
ความเชื่อเรื่องโค้งยิ้มถูกแบ่งเป็น 2 ตำนาน ตำนานแรกคือทางโค้งดังกล่าวเป็นจุดที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อย และว่ากันว่าใครก็ตามที่สัญจรผ่านทางโค้งนี้จะเจอวิญญาณผู้หญิง ที่มักจะออกมาปรากฎในสภาพที่อ้าปากฉีกยิ้มจนแทบจะถึงใบหู..วิ่งไล่กระชากจนรถล้ม..บางครั้งก็แอบขึ้นซ้อนท้ายให้หลอนเล่นคนขับมอเตอร์ไซด์กว่าจะรู้ตัวก็ตอนมองกระจกมองหลังหลายคนสละรถวิ่งหนีอย่างว่องไว...
กับอีกตำนานเล่ากันว่า เพราะทางโค้งดังกล่าวเคยมีคนเอารูปถ่ายผู้หญิงกำลังยิ้มไปวางไว้ตรงทางโค้งพอดี ลือกันว่ารูปนี้มีวิญญาณ และเธอมักจะออกมาหลอกหลอนชาวบ้านอยูเป็นประจำ ก็เลยเรียกติดปากกันว่าทางโค้งยิ้ม..
วัดโยธามีถนนอ้อมวัดไว้อยู่และทำให้วัดนั้นมีหลายโค้งโค้งยิ้มวัดโยธา ตามที่เขา
#ขอบคุณข้อมูลจาก"พันทิป" #ถ่ายทอดขัดเกลาและเรียบเรียงโดยลุงเชิงโกดังหลอน
ร่ำลือกันว่าตลอดทางศาลเก่าๆหักๆถูกทิ้งตามรายทางเต็มเลย แถมตามทางมักมีกลิ่นเน่าลอยมาตามลม คนที่ขวัญอ่อนเจอสาวฉีกยิ้ม..มักประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตบริเวณนี้
ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ตำนานโค้งยิ้ม อันไหนจะถูกต้องกันแน่ แต่ที่แน่ๆ มันก็หลอนเหมือนกันหมด..
โดยเรื่องราวที่จะเก็บมาเล่าให้ฟังในตอนนี้ เป็นอีกประสบการณ์หลอนที่เด็กวัยรุ่นไปเจอกันมา จะหลอนยังไงไปติดตามอ่านเลยดีกว่าครับ
.
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้าเรา (คนเล่า) สมัยยังเป็นวัยรุ่น ช่วงนั้นรู้สึกว่าจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สุด ชอบขี่รถมอเตอไซต์ไปดูหมอลำ หรือไปร้านเหล้า กลับมาอีกทีคือเช้าของอีกวัน มันเป็นเเบบนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเหตุการณ์ที่ทำให้น้าของเราหยุดเที่ยวไปพักใหญ่เลย..
น้าเล่าว่าในหมู่บ้านจะมีโค้งอยู่โค้งนึง ที่เด็กวัยรุ่นเเถวนั้นตั้งฉายาให้ว่า "โค้งยิ้ม" เหตุเพราะมันเป็นโค้งหักศอก เเบบที่ว่าถ้าใครไม่ชินทางเเล้วขับมาด้วยความเร็ว ก็เป็นเหตุให้เเหกโค้งกันไปเกือบทุกราย..!
บางรายหนักขนาดว่าเสียชีวิตเลย หรือบางรายก็เเขนขาหัก สาหัสมากบ้างน้อยบ้าง แต่รับประกันว่าเกิดขึ้นเป็นประจำ..
และด้วยเหตุนี้ ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเลยหาศาลมาตั้งให้ เข้าใจว่าคงเพื่อให้เหล่าสัมภเวสีที่อยู่ตรงนั้นได้อยู่เป็นที่เป็นทาง ใครมาก็เอาของไปเซ่นไหว้ ไม่ไปเกะกะระราน หรือทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก..
ธรรมเนียมอย่างนึงเวลาที่ต้องขับผ่านโค้งนี้คือ ต้องบีบแตรแสดงความเคารพ จนมีคำพูดติดปากกันว่า
"ถ้าบีบไม่เจอ แต่ถ้าไม่บีบเจอแน่ๆ.."
แต่ก็ยังมีพวกเด็กเเว้นซ์ หรือเด็กบ้านอื่น ที่คงไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับโค้งนี้ มักจะขับรถเเหกโค้งอยู่เป็นประจำอยู่ดี
น้าของเราเล่าว่า..วันนั้นมีหมอลำที่หมู่บ้านใกล้ๆ ซึ่งก็ต้องขับผ่านโค้งยิ้มเนี่ยเเหละ ตอนนั้นก็ไม่ได้นึกกลัวอะไร เพราะว่าไปกันหลายคน เเละรถเเต่ละคันบ้างก็ซ้อน 2 ซ้อน 3 ไม่ได้ขับผ่านไปคนเดียวโดดๆ
รถคันของน้าเรามีเพื่อนผู้หญิงซ้อนไปด้วยกัน 2 คน คือคนขับกับเพื่อนอีกคนเเละน้าเรานั่งรั้งท้าย
ตอนขาไปพอรถผ่านโค้งยิ้ม ทุกคนก็บีบเเตรรถเพื่อขอทาง รถก็ผ่านไปเเบบปกติ บวกกับขับรถไม่ได้เร็วมาก ก็เลยไม่มีอะไรให้น่ากลัว
ซึ่งปกติเวลานั่งรถไปไหนมาไหน น้าเราจะเป็นคนติดมองกระจกหลังอยู่บ่อยๆ แทบจะตลอดเวลาเลยด้วยซ้ำ ถึงจะไม่ได้เป็นคนขับเองก็ตาม
.
พอรถวิ่งมาถึงงานทุกคนก็เริ่มสนุกสนานกันไปตามเรื่อง ในวงก็มีการดื่มเเอลกอฮอล์กันเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อต่างคนต่างเริ่มเมาก็ไม่ค่อยจะเกรงใจกัน และด้วยความที่พวกกลุ่มผู้ชายที่เป็นเพื่อนน้าเรา เหมือนจะมีเรื่องกับคนต่างถิ่น จึงพาลมาถึงพวกผู้หญิงด้วย โดยพวกผู้หญิงในกลุ่มคนนึงโดนด่า หาว่าไปเเย่งผัวเเย่งเเฟนชาวบ้าน
พอเหลืออดก็เลยเกิดการตะลุมบอนตีกันยกใหญ่ สุดท้ายกลุ่มของน้าเราสู้ไม่ไหว เพราะฝั่งนั้นมีคนเยอะกว่า เรียกได้ว่าไปมีเรื่องในถิ่นเขา เลยต้องพากันหนีตายออกมา
ทุกคนวิ่งหนีมากระโดดคร่อมรถมอเตอไซต์ที่จอดไว้ แล้วรีบขับออกมาอย่างรวดเร็ว และก็เหมือนตอนมาที่น้าเรานั่งรั้งท้ายกับเพื่อนผู้หญิงคนเดิมอีก
ระหว่างที่รถขี่หนีออกมา น้าเราก็หันไปดูพวกคู่อริเป็นพักๆ เห็นพวกนั้นขี่รถไล่ตามมาด้วยความเร็ว
จังหวะนั้นเพื่อนที่ขี่รถก็เร่งความเร็วมาเรื่อยๆ จนรถวิ่งมาใกล้วัดโยธา ซึ่งตรงนั้นมีทางโค้งอยู่ ก่อนที่รถจะเข้าโค้งน้าเราก็เหลือบไปมองกระจกส่องหลังอีกครั้งนึง
ปรากฎเที่ยวนี้เห็นเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนนึง ที่สำคัญคือเธอมานั่งอยู่ข้างหลังน้าเราได้ยังไง..!
ตอนนั้นน้าเราตกใจมาก งงก็งงว่าที่เห็นนั่นคือใคร แต่ก็พยายามควบคุมสติ ไม่พูดอะไรทั้งนั้น รู้สึกขนหัวลุกจนแทบจะอยากตะโกน..
พอรถขี่หนีไปอีกสักระยะ น้าเราก็ไม่แคล้วส่องไปที่กระจกอีกทีนึง ทีนี้เห็นชัดเลยว่าผู้หญิงคนนั้นยังนั่งอยู่ แถมค่อยๆ ยิ้มกว้าง จนปากฉีกไปถึงรูหู แล้วเธอก็หัวเราะเป็นเสียงเล็กๆ แต่แสบแก้วหู..!!!
ตอนนั้นน้าเรากลัวมาก จนมาสะดุังอีกที เพราะได้ยินเสียงด้ง โครม.. ตามด้วยเเรงกระเเทกจากด้านหน้า..
น้าเราบอกว่าเหมือนกำลังฝัน ร่างของน้าลอยมากระเเทกกับพื้นถนนอย่างเเรง จนตอนนั้นคิดว่าตายเเน่ๆ แล้ว..
พอน้าเริ่มได้สติ ก็เอามือลูบตามตัว ปรากฎเลือดไหลอาบเต็มใบหน้าไปหมด พอมองไปรอบๆ ถึงได้รู้ว่า รถคันที่น้าเรานั่งมากับเพื่อน ขี่ไปชนกันเองกับเพื่อนคันหน้า..
น้าค่อยๆ ลุกยืนขึ้น แล้วมองไปรอบๆ เพื่อหาเพื่อนที่กำลังนอนบาดเจ็บอยู่
และน้าเราก็เห็นผู้หญิงที่แต่งตัวสกปรกมอมแมมคนนึง มายืนอยู่ใกล้ๆ รถที่ล้ม ในสภาพยิ้มปากฉีกไปจนถึงรูหู ไม่แค่นั้นตาเธอยังจ้องเขม็งมาที่กลุ่มน้าเราที่นอนกองกันอยู่ด้วย..!
ผู้หญิงคนนั้นยังชี้หน้าน้าเรา แล้วมองน้าเราอย่างโกรธๆ ก่อนจะค่อยๆ หันหลังและเดินหายเข้าไปในป่าข้างทาง..!
คือตอนนั้นทุกคนในกลุ่มเห็นกันหมด มันเป็นภาพที่น่ากลัวมาก และนับจากนั้นทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างเชื่อกันหมด ว่าตรงเส้นทางนั้นมีผีจริงๆ มันน่ากลัวมาก ไม่มีใครกล้าผ่านทางโค้งนั้นอีกเลยแม้แต่ตอนกลางวัน หุหุหุ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย