5 เม.ย. 2022 เวลา 13:00 • ไลฟ์สไตล์
ขึ้นชื่อว่า “ความสุข” เชื่อว่าใครๆ ก็อยากจะมี
ซึ่งความสุขก็มีอยู่หลายระดับ หลายรูปแบบ ตามเป้าหมายของแต่ละคน
บางคนอาจอยากมีเงินพันล้าน
บางคนต้องการสุขภาพที่แข็งแรง
แต่บางคนอาจจะยินดีและพอใจในสิ่งที่มีอยู่แล้ว
แม้เป้าหมายจะต่างกัน แต่สุดท้ายปลายทางคือ “ความสุข”
1
ถ้าอยากมีเงินล้าน ต้องขยันทำงาน จัดสรรการเงิน
ถ้าอยากสุขภาพดี ต้องดูแลอาหาร หมั่นออกกำลังกาย
และถ้าอยากที่จะมีชีวิตในแบบที่ต้องการ ก็ต้องรู้ใจตัวเอง
เมื่อมีเป้าหมาย มีวิธีการ การจะมีความสุข ก็อาจดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เคยสงสัยไหมว่าทำไมทุกวันนี้บางคน หรือแม้แต่ตัวเราในบางวันยังใช้ชีวิตจมอยู่กับความทุกข์ หาความสุขไม่เจอสักที?
โดยคำตอบอาจเป็นได้ทั้งอุปสรรคระหว่างทาง ปัจจัยภายนอก และอีกหนึ่งส่วนสำคัญอย่างปัจจัยภายใน เช่น “พฤติกรรม ทัศนคติ และนิสัย” ซึ่งอาจฉุดรั้งให้เรารู้สึก “ไม่มีความสุขสักที”
ไม่ก็อาจเกิดจาก “4 นิสัยจอมทำลายความสุข” มาลองสังเกตกันดูว่า ทุกวันนี้ เราแอบคิดแบบนี้อยู่บ้างไหม?
ข้อที่ 1 #ชอบเปรียบเทียบ
“Comparison Is the Thief of Joy” (การเปรียบเทียบคือโจรขโมยความสุข)
จริงอยู่ที่การเปรียบเทียบสามารถเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาตัวเอง แต่การเปรียบเทียบที่มากเกินไป ก็ฉุดรั้งไม่ให้เรามีความสุขได้สักที
1
ตั้งแต่เด็กเรามักจะเคยถูกเปรียบเทียบกับคนอื่น เช่น “ทำไมไม่เก่งเหมือนลูกข้างบ้าน” และอีกสารพัด “ทำไม” ที่ถาโถมมาตั้งคำถามต่อตัวเราและทำให้เสียใจไม่น้อย
พอโตขึ้นมาหน่อย เราก็ต้องกดดันตัวเองให้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ จนอาจนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่หน้าตาดีกว่า ฐานะดีกว่า รูปร่างดีกว่า การเก็บมาคิดว่าทำไมเราไม่เป็นอย่างเขาบ้าง ก็พาให้เป็นทุกข์ได้เช่นเดียวกัน
2
“ทำไมเขาชีวิตดีจัง มีเงินไปกินของแพงๆ ตลอดเลย” “ทำไมเขาซื้อรถหรูได้ทุกปีกันนะ” “คนนี้ได้ไปเที่ยวอีกแล้ว แต่ทำไมเราได้แต่อยู่ที่เดิม?”
หลายคนมักนำชีวิตของตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนรอบข้าง โดยเฉพาะ “ด้านดี” ที่ถูกแสดงออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่ Social Media เข้ามามีบทบาทในชีวิต ยิ่งง่ายต่อการถูกยัดเยียดความสำเร็จเข้าสู่ความคิด ไม่ว่าจะอายุน้อยร้อยล้าน, รถคันใหม่, เลื่อนขั้น หรือเงินเดือนสูงลิ่ว
แต่เราอาจลืมคิดไปว่ากว่าที่เขาจะมีชีวิตแบบนี้ได้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เราไม่รู้ว่ากว่าเขาจะได้ไปเที่ยวสนุกสนาน ต้องอดหลับอดนอนทำงานหนักขนาดไหน บางคนกว่าจะลงทุนเป็น มีเงินซื้อรถทุกปี ก่อนหน้านี้อาจขาดทุนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
เมื่อรู้ว่าชีวิตไม่ได้มีเพียงแค่ “ความสำเร็จ” แล้วเราจะหยุดนิสัยชอบเปรียบเทียบนี้อย่างไรดี?
หากเราเปรียบเทียบจนรู้สึก “ด้อยกว่า” อยู่ตลอดเวลา จนไม่มีความสุข ลองพักการเล่น Social Media สักพัก งดรับรู้เรื่องของคนอื่น พักการวิ่งตามเป้าหมายที่อาจยังอยู่ไกลสักหน่อย เปลี่ยนมุมมองมาอยู่กับตัวเองมากขึ้น อยู่กับปัจจุบัน มองหาเรื่องดีๆ และมีความสุขกับตัวเอง ในสิ่งที่มีให้มากขึ้น
1
ข้อที่ 2 #โทษคนอื่น
1
เมื่อเกิดปัญหา แน่นอนว่าการจะโทษคนอื่น โทษฟ้าโทษฝน ย่อมง่ายกว่าการ “ตำหนิตัวเอง” แต่ถ้าเราไม่เคยย้อนกลับมามองที่ต้นเหตุ หรือมองไม่เห็นความผิดของตัวเลยสักครั้ง จะทำให้เราไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริงจมอยู่กับความทุกข์ และพลาดโอกาสที่จะพัฒนาตัวเอง แถมปัญหาก็ไม่ถูกแก้ไขอีกด้วย
ข้อที่ 3 #ไม่กล้าเผชิญความจริง
หลายครั้งที่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน คำถามแรกที่เข้ามาในความคิดอาจจะเริ่มด้วยคำว่า “ทำไม” ซึ่งการที่เราเอาแต่จมอยู่กับคำว่าทำไม แทนที่จะตั้งคำถามต่อว่า “ใคร อะไร อย่างไร” นั้นเป็นการเสียเวลา จมกับปัญหา ไม่มีความสุข และถ่วงไม่ให้เราก้าวไปข้างหน้าได้สักที
3
ยกตัวอย่างสถานการณ์ให้เห็นภาพง่ายๆ ว่า งานที่คุณกำลังดำเนินการอยู่ เกิดติดปัญหาและไม่สามารถแก้ได้ด้วยตัวคนเดียว
อย่ามัวแต่ตั้งคำถามว่า “ทำไมต้องเกิดเรื่องนี้กับเรา” แต่ลองเปลี่ยนทัศนคติต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และหาวิธีการแก้ไข โดยคิดว่า “ใครสามารถช่วยเราได้บ้าง” หรือ “เราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง” จะทำให้เราผ่านพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ง่ายขึ้น
ข้อที่ 4 #ความคิดฟุ้งซ่าน
ปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ เมื่อขาดการตั้งเป้าหมายคือการติดอยู่กับ “ความคิดที่ฟุ้งซ่าน” ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ สร้างความวิตกกังวล ทำให้เครียด และรู้สึกเหนื่อยล้า
แต่การเคร่งเครียดต่อการบรรลุเป้าหมายมากเกินไป ก็สามารถทำให้เราไม่มีความสุขได้เช่นกัน ดังนั้นไม่ควรตั้งเป้าหมายระยะยาวอย่างเดียว ควรจะมี “เป้าหมายระยะสั้น” ด้วย เพื่อให้เราได้มีความสุขกับความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทาง รวมถึงช่วงเวลาดีๆ ในปัจจุบัน
ลองสังเกตดูว่าทุกวันนี้เรายังทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่หรือเปล่า เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อสิ่งต่างๆ ใจดีกับตัวเองให้มาก รักตัวเองให้เยอะ ให้เวลาตัวเราในการเติบโต เก็บเกี่ยวความสุขเล็กๆ น้อยๆ และค่อยๆ เลิกนิสัยที่คอยฉุดรั้งความสุขของเราไว้ แล้วทำให้วันพรุ่งนี้ ดีกว่าวันนี้ในทุกๆ วัน
3
แปลและเรียบเรียงจาก :
อ้างอิงจาก :
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#psychology
โฆษณา