[ #สลับร่างสร้างกันใหม่ ]
ฤดูร้อน 1998 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รู้สึกไม่ค่อยไว้วางใจ ไบรอัน คิดด์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม เหมือนมีบางอย่างซ่อนเร้นปิดบังอยู่
มือขวาที่เคยภักดีมาตลอด เริ่มเห็นต่างในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการซื้อผู้เล่นเสริมทัพในตำแหน่งกองหน้า
เฟอร์กี้ ร้องขอ มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส์ ประธานสโมสรว่าต้องเป็น ดไวท์ ยอร์ค จากแอสตัน วิลล่าเท่านั้น เพื่อภารกิจสำคัญทวงบัลลังก์พรีเมียร์ลีกกลับคืนมาจากอาร์เซน่อล
ส่วน คิดด์ แจ้งกับทางท่านประธานในเชิงไม่เห็นด้วยนัก พร้อมให้เหตุผลว่า ยอร์ค เลี้ยงบอลไม่เก่ง คนที่เป็นคำตอบสุดท้ายของแมนฯยูไนเต็ดต้อง จอห์น ฮาร์ทสัน
พอได้ยินอย่างนี้ เฟอร์กูสัน ตกใจมาก ไม่อยากเชื่อเลยว่ามือขวาที่เคยร่วมงานกัน จะมีวิสัยทัศน์เรื่องผู้เล่นใหม่แบบขัดความรู้สึกมาก
อย่างไรก็ดีช่วงดังกล่าว คิดด์ ได้รับข้อเสนอจากบางสโมสรในพรีเมียร์ลีกให้ไปรับงานผู้จัดการทีม ด้วยเครดิตความสำเร็จและโปรไฟล์เป็นคนใกล้ชิด เฟอร์กี้ ย่อมเรียนรู้งานมามาก มีวิชาดีติดตัวแน่นอน
กระทั่งต้นปี 1999 คิดด์ ก็ยื่นใบลาออก โดยมีเป้าหมายไปคุมแบล็คเบิร์น โรเวอร์สที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้น
เฟอร์กี้่ ไม่ได้รั้งไว้เลย ปล่อยให้เดินจากไปอย่างสะดวก เพราะรู้แล้วว่าไม่มีใจให้ เก็บไว้ก็เปล่าประโยชน์
พอเสียมือขวาไปแล้ว ก็ต้องเร่งหามาแทน ช่วงนั้นได้รับคำแนะนำจาก จิม สมิธ ผู้จัดการทีมดาร์บี้ เคาน์ตี้ ซึ่งสนิทกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว
สมิธ บอกให้ดึง สตีฟ แม็คคลาเรน ผู้ช่วยของตนไปได้เลย คนนี้มีแววอนาคตไกล ควรได้ทำงานในสโมสรใหญ่ เพื่อโอกาสในการพัฒนาอัพเลเวลวันข้างหน้าด้วย
ดังนั้น เฟอร์กี้ จึงเรียกมาสัมภาษณ์ แค่เห็นแวบแรกก็รู้สึกประทับใจและเพิ่มมากขึ้นอีกเมื่อได้สนทนา แสดงความคิดเห็นต่างๆ
แม็คคลาเรน จึงถูกเลือกอย่างเร่งรีบให้มาช่วยงาน เฟอร์กี้ ซึ่งเวลานั้นปีศาจแดงมีลุ้นแชมป์แทบทุกรายการ
ตอนแรกที่มา เอ็ดเวิร์ดส์ ท่านประธานยังสับสน เรียกชื่อผิดเป็น สตีฟ แม็คคลาริดจ์ อยู่เลย เพราะไปคุ้นกับ สตีฟ คลาริดจ์ กองหน้าของเลสเตอร์ ซิตี้ในช่วงเวลานั้น
แม็คคลาเรน ทั้งเก่งและขยันขันแข็งจริง มีไอเดียมากมายในการแนะนำผู้เล่น รวมถึงฝึกซ้อมด้วยวิธีใหม่ๆ ทำให้ถูกยอมรับและนับถืออย่างรวดเร็ว
เขามีส่วนสำคัญกับทริปเปิ้ลแชมป์ประวัติศาสตร์อย่างไม่ต้องสงสัย เฟอร์กี้ เพิ่มความไว้วางใจมากขึ้นตามลำดับ
กระทั่งจบฤดูกาล 2000/01 แม็คคลาเรน เริ่มไม่มั่นใจอนาคตเท่าไรนัก เฟอร์กี้ มีแผนจะรีไทร์ด้วย เมื่อมีโอกาสก็ควรไปโตที่อื่น เป็นเบอร์หนึ่งได้คุมทัพอย่างเต็มตัว
เวสต์แฮม ยูไนเต็ดและเซาธ์แฮมป์ตันยื่นข้อเสนอมาให้ แต่เขากลับตัดสินใจเลือกมิดเดิ้ลส์โบรช์ หลังได้คุยกับ สตีฟ กิ๊บสัน เจ้าของสโมสร
แม็คคลาเรน สานงานต่อจาก ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกัปตันทีมแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งสละเก้าอี้ผู้จัดการทีมโบโร่เรียบร้อย
ปรากฏว่า "บิ๊กแม็ค" ทำผลงานกับโบโร่ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะไม่ใช่ทีมใหญ่ แต่ก็จบกลางตารางพรีเมียร์ลีกสบาย รวมทั้งเข้าถึงตัดเชือกเอฟเอคัพและครองแชมป์ลีกคัพสำเร็จด้วย
เขากลายเป็นกุนซือดาวรุ่งพุ่งแรง ตอบโจทย์ความต้องการของสมาคมฟุตบอลอังกฤษที่อยากได้ไปคุมทีมชาติ ด้วยไอเดียและแนวทางแบบสดใหม่ ส้มจึงหล่นใส่เท้าอย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า แม็คคลาเรน จะตื่นแต้นและปลาบปลื้มกับเก้าอี้อันทรงเกียรติ ด้วยวัยแค่ 40 เศษๆ แต่สามารถก้าวมาได้ไกลอย่างน่าทึ่ง
อย่างไรก็ตาม งานใหญ่มากแค่ไหน ขนาดความโหดหินก็ต้องมากเป็นเงาตามตัวด้วยเช่นกัน
แม็คคลาเรน ไม่อาจพาอังกฤษฝ่าฟันเข้าไปถึงรอบสุดท้ายยูโร 2008 ตกรอบอย่างเจ็บปวด เมื่อปราชัยให้โครเอเชียในนัดชี้ชะตา จึงต้องเซ่นสังเวยด้วยตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติ
มันน่าผิดหวังมาก เพราะเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่ถึง 18 เดือนด้วยซ้ำ ก็ต้องมีอันปิดฉากแล้ว
เขาจำใจสไลด์ลงจากหลังสิงโต ใช้เวลาพักกายพักใจมากกว่าครึ่งปีจนกระทั่งซัมเมอร์ 2008 ก็มีสายตรงมาจากฮอลแลนด์ งานที่ไม่คาดคิดคือไปคุมทเวนเต้สโมสรในเอเรดิวิซี่ ลีกสูงสุดดัตช์
แม้ความยิ่งใหญ่สำคัญจะดูห่างจากกุนซือทีมชาติอังกฤษ รวมทั้งทีมในพรีเมียร์ลีกเยอะพอสมควร แต่ถือว่าท้าทายและอาจช่วยเป็นบันไดไต่ขึ้นไปข้างบนได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ยังได้รับคำแนะนำจาก บ็อบบี้ ร็อบสัน ปรมาจารย์ผู้ล่วงลับ ซึ่งเคยคุมพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นมาก่อน ดังนั้นจึงไม่ปฏิเสธ
ปรากฎว่า แม็คคลาเรน ไปได้สวยกว่าที่คาด ซีซั่นแรกจบด้วยรองแชมป์เอเรดิวิซี่ เอาชนะทั้งอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมและพีเอสวี 2 มหาอำนาจได้ แต่ไปแพ้แค่อาแซด อัลค์มาร์ ซึ่งมี หลุยส์ ฟานกัล เป็นกุนซือแค่ทีมเดียว
จากนั้นในฤดูกาล 2009/10 น่าทึ่งยิ่งกว่า เพราะทเวนเต้ผงาดครองแชมป์ลีกสูงสุดฮอลแลนด์ชนิดหักปากกาเซียนทุกสำนัก "บิ๊กแม็ค" กู้ชื่อตัวเองกลับคืนมาอีกครั้งจนได้
"ผมโชคดีมากๆที่มีผู้ช่วยมากความสามารถคอยช่วยเหลือ" -- เขาเคยกล่าวไว้อย่างนี้
และผู้ช่วยคนดังกล่าวชื่อว่า เอริก เทนฮาก
สื่อแทบทุกสำนักโหมกำลังโหมข่าว เอริก เทนฮาก คือตัวเต็งผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งจะเริ่มงานบูรณาการในซีซั่นหน้า
เขาผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์ ได้โชว์วิสัยทัศน์และแผนงานกับผู้บริหารเรียบร้อย โดยหลายอย่างเป็นไปในทิศทางบวก
ล่าสุด ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ได้เปิดเผยผ่านทาง Podcast ว่าโอกาสเป็นไปได้มีสูงมาก จากนี้คอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ในขณะเดียวกันก็มีการพูดถึงล่วงหน้า หากกุนซือดัตช์มาแล้ว จะดึงใครมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม
น่าเหลือเชื่อตรงที่มีชื่อของ สตีฟ แม็คคลาเรน มาเอี่ยวด้วย จากรายงานของเดอะ การ์เดี้ยน สื่อที่น่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง
แล้วเมื่อย้อนไปในอดีต แม็คคลาเรน เคยกล่าวชื่นชม เทนฮาก โดยมองว่ามีแนวทางการทำงานคล้าย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลยถูกเรียกว่า "ลิตเติ้ลเป๊ป"
"เขาผ่านการพิสูจน์มาแล้ว เขาช่วยผมได้มากเลย ไม่อย่างนั้นคงไม่รอดสมัยอยู่ทเวนเต้"
ตัดภาพมาในปัจจุบัน แม็คคลาเรน วัย 60 ปีกำลังว่างงาน หลังแยกทางกับคิวพีอาร์มาตั้งแต่ปี 2019 ก็ไม่เคยเป็นกุนซืออีกเลย
แม้ว่าช่วงหลังจะล้มเหลวซะเยอะ แต่ประสบการณ์ทำงานในฟุตบอลอังกฤษ ชนิดน่าจะรู้ซึ้งลงลึก ย่อมเป็นประโยชน์กับ เทนฮาก ที่ไม่ค่อยคุ้นเคยอย่างแน่นอน
หากเป็นจริงขึ้นมา มันคงเป็นเรื่องแปลกเลยทีเดียว เมื่อ 14 ปีก่อน เทนฮาก เคยเป็นผู้ช่วยของ แม็คคลาเรน ร่วมกันทำงานจนสร้างประวัติศาสตร์ให้ทเวนเต้
มาวันนี้ แม็คคลาเรน อาจจะได้มาเป็นมือขวาของ เทนฮาก ที่แมนฯยูไนเต็ด ซึ่งต้องการรื้อระบบเก่า แล้วมาสร้างทีมกันใหม่
ที่สำคัญ "บิ๊กแม็ค" เริ่มมีชื่อเสียงมาจากการเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมปีศาจแดงนั่นแหล่ะ
โลกของฟุตบอลเหมือนบังเอิญหลายเคส แต่มันคือความจริงที่เกิดขึ้นมาแล้ว
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Facebook : www.facebook.com/cheerball
Twitter : www.twitter.com/cheerballth
Website : www.cheerball.com
Youtube : www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
