6 เม.ย. 2022 เวลา 00:59 • หุ้น & เศรษฐกิจ
3 ข้อควรระวัง “ROE”
ROE เป็นอัตราส่วนที่สำคัญทางการเงินอย่างหนึ่ง ในการวัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และใช้เป็นตัวตัดสินใจอันหนึ่งว่า กิจการนั้นน่าลงทุนหรือเปล่า มารู้จักเรื่องของอัตราส่วนที่สำคัญทางการเงินตัวนี้กัน
ในการดูความสามารถการทำกำไรของกิจการ อัตราส่วนหนึ่งที่คุ้นเคยกันดี คือ อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity: ROE) โดย ROE บอกความสามารถในการทำกำไรเทียบกับส่วนของเจ้าของ (ทุน) ซึ่งทุนของกิจการก็คือ ส่วนของผู้ถือหุ้นนั่นเองนะ
ROE คิดมาจาก กำไรสุทธิ/ ส่วนผู้ถือหุ้น
แล้วนำมาทำให้เป็น % โดยการคูณ 100
ค่า ROE จะแปลความได้ว่าแบบนี้ ถ้า ROE = 10% หมายถึง บริษัททำกำไรได้ 10 บ. จากเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น 100 บ. (ส่วนของผู้ถือหุ้นนั้น ก็คือส่วนทุนของกิจการ)
ROE ยิ่งสูง ยิ่งดี แสดงว่าบริษัทมีความสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี เช่น กิจการหนึ่ง ROE 20% กับอีก กิจการหนึ่ง ROE 10% ก็จะเห็นว่ากิจการที่ทำ ROE ได้ 20% ก็จะน่าสนใจกว่า เพราะจากเงินของผู้ถือหุ้น 100 บ. ทำกำไรได้ 20 บ.
จากอัตราส่วนของ ROE ถ้าเราลองแยกย่อยดู จะเห็นส่วนประกอบที่มีผลกระทบต่อค่า ROE ได้ชัดเจนขึ้น
ROE = (กำไรสุทธิ/ ยอดขาย) x (ยอดขาย/ สินทรัพย์รวม) x (สินทรัพย์รวม/ ส่วนผู้ถือหุ้น)
จากข้างต้น
ROE = อัตรากำไรสุทธิ x อัตราการหมุนเวียนสินทรัพย์ x อัตราส่วนสินทรัพย์รวมต่อส่วนของเจ้าของ
เมื่อเราแยกส่วนประกอบของ ROE (return on equity) จะเห็นว่าค่า ROE จะขึ้นกับ 3 ปัจจัยนี้
1. อัตรากำไรสุทธิ (Net profit margin) อัตราส่วนนี้เป็นการดูว่า ทุกยอดขาย 100 บ. ทำกำไรได้กี่บาท จึงบอกถึงประสิทธิภาพในการขาย การควบคุมค่าใช้จ่าย ความสามรถในการแข่งขัน ยิ่งอัตราส่วนนี้สูง ก็ส่งผลให้ ค่า ROE สูงขึ้นด้วย
2. อัตราการหมุนเวียนสินทรัพย์ (Asset turnover) แสดงถึงความสามารถในการใช้สินทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ เป็นการบอกว่า ทรัพย์สินทุก 100 บ. สามารถนำไปสร้างยอดขายได้กี่บาท กิจการที่ยิ่งมีการหมุนเวียนของสินทรัพย์มาก ก็จะทำให้ อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นหรือ ROE มากไปด้วย
3. อัตราส่วนสินทรัพย์รวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity Multiplier) จะเห็นว่า ถ้าอัตราส่วนนี้สูง ก็จะทำให้ ROE สูง ซึ่งจากงบดุลที่ทราบกันดีว่า
สินทรัพย์รวม = หนี้สินรวม + ส่วนของผุ้ถือหุ้น
นั่นก็คือ มีการใช้พลัง leverage จากหนี้สินมาทำให้เกิดกำไรนั่นเอง แต่หนี้สินที่มาก ก็ทำให้กิจการมีความเสี่ยงมากถ้าเกิดมีวิกฤตเข้ามา ดังนั้นจุดนี้เป็นสิ่งที่ต้องระวัง
จากการที่เรารู้ส่วนประกอบของ ROE จะเห็นว่า ค่า ROE ยิ่งสูง ยิ่งดี และ ROE นั้นเป็นตัวสำคัญตัวหนึ่งที่บอกว่า กิจการนั้นน่าลงทุนไหม
แต่ให้ระวัง ROE สูงที่เกิดจากการที่มีหนี้สินมากไว้ด้วย เพราะกิจการจะมีความเสี่ยงทางด้านการเงินจากภาระหนี้สินได้ ดังนั้นเมื่อดู ROE ควรดูเรื่องหนี้สินประกอบด้วย
และนอกจากดูว่า ROE ยิ่งสูง ยิ่งดีแล้ว ต้องดูด้วยว่า ROE ที่สูงนั้นเป้นแค่เรื่องชั่วคราวจากการมีกำไรพิเศษหรือไม่ และความสามารถในการรักษา ROE ได้ดีสม่ำเสมอ ก็สำคัญ
#หมอยุ่งอยากมีเวลา
#งบการเงิน
#ROE
#อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น
#ส่วนประกอบROE
#อัตราส่วนทางการเงิน
#หุ้น
#ลงทุนหุ้น
โฆษณา