7 เม.ย. 2022 เวลา 11:01 • ประวัติศาสตร์
“Bernard Loiseau” เชฟผู้ฆ่าตัวตายเนื่องจากไม่ต้องการจะเสีย “ดาวมิชลิน (Michelin Star)”
ความฝันของเชฟแทบทุกคน นั่นคือการได้ “ดาวมิชลิน (Michelin Star)” เป็นจำนวนสามดวง เนื่องจากนี่ถือเป็นรางวัลที่การันตีความยอดเยี่ยมที่อาจจะเรียกได้ว่าสูงสุดในวงการอาหารก็ว่าได้
แต่สิ่งที่ยากกว่าการได้ดาวมิชลินสามดวง นั่นคือการรักษาไว้
ทุกๆ ปี มิชลินไกด์จะคอยมาตรวจร้านอาหารที่มอบดาวให้ เช็คว่าร้านอาหารนั้นยังคงมีมาตรฐานที่ยอดเยี่ยม เหมาะกับดาวที่ให้ไปหรือไม่
กว่าจะประสบความสำเร็จได้ถึงจุดนั้น จำเป็นต้องทุ่มเทแรงกาย แรงใจอย่างมาก ต้องทำงานในครัวเป็นเวลาหลายปี ทำงานหนักไม่ได้หลับไม่ได้นอน
และนั่นคือสิ่งที่ “Bernard Loiseau” เคยทำและประสบความสำเร็จ ก่อนจะสูญเสียมันไป รวมทั้งชีวิตของตนเอง
Bernard Loiseau
Loiseau เป็นชาวฝรั่งเศสที่เกิดในปีค.ศ.1951 (พ.ศ.2494) และมีความใฝ่ฝันจะเป็นเชฟมาตั้งแต่ยังเด็ก
เมื่ออายุได้ 14 ปี เขาก็ได้เริ่มทำงานในครัว และไต่เต้าจนได้เป็นเชฟเต็มตัวในภัตตาคาร La Maison Troisgros อันโด่งดัง
ในปีค.ศ.1972 (พ.ศ.2515) Loiseau ได้เป็นหัวหน้าเชฟที่ภัตตาคาร Claude Verger และได้แสดงฝีมือที่โดดเด่น จนได้รับการจับตามองจากนิตยสารแนะนำร้านอาหารในฝรั่งเศส และทำให้มิชลินไกด์สนใจในตัวเขาในเวลาต่อมา
La Maison Troisgros
ในปีค.ศ.1982 (พ.ศ.2525) Loiseau ได้เข้าซื้อภัตตาคาร La Cote d’Or of Sailieu และตั้งเป้าว่าจะต้องคว้าดาวมิชลินจำนวนสามดวงให้ได้
และการที่จะไปให้ถึงจุดนั้น แค่คุณภาพอาหารและบริการอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะยังไม่พอ แต่ต้องมีทั้งสองอย่างควบคู่กันไป ต้องทำให้ลูกค้าประทับใจที่สุด
ภายในปีค.ศ.1991 (พ.ศ.2534) Loiseau ก็ทำได้สำเร็จ สามารถคว้าดาวมิชลินจำนวนสามดวงมาครองได้ โดยเขาได้ทำการควบคุมระบบในภัตตาคารของตนเสมือนกองทหาร ไม่ปล่อยผ่านแม้แต่เรื่องเล็กน้อย เน้นความสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทำให้ภัตตาคารของเขาได้รับคำชื่นชมและถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับแถวหน้า
La Cote d’Or of Sailieu
จนถึงทุกวันนี้ มีเชฟที่ได้รับดาวมิชลินสามดวงเพียงไม่ถึง 150 คนเท่านั้น แสดงถึงความยากในการจะได้มา และหนึ่งในจำนวนนั้น ก็มี Loiseau ด้วย
1
แต่การได้มาซึ่งดาวมิชลินสามดวงนี้ ก็เรียกได้ว่าต้องใช้ความทุ่มเทจนเรียกได้ว่าแทบจะกลืนกินบุคคลผู้นั้นเลยทีเดียว โดย Loiseau นั้นทำงานวันละ 17 ชั่วโมง บางครั้งถึงขั้นผลอยหลับไปในครัว
1
แต่หลังจากทำตามความฝันได้สำเร็จ ความยากลำบากที่แท้จริงจึงมาถึง
เชฟที่ได้รับดาวมิชลิน จำเป็นต้องตื่นตัวและต้องคิดค้นเมนูใหม่ๆ ตลอดเวลา ต้องรับแรงกดดันจากความคาดหวังของหลายๆ ฝ่าย
การได้ตำแหน่งแชมป์ จำเป็นที่จะต้องระวังตัว ต้องหาวิธีรักษาตำแหน่งให้ตน ต้องทำให้ตนอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการตลอดเวลา ต้องนำรสชาติใหม่ๆ และประสบการณ์แปลกใหม่มาให้ลูกค้า
ในเวลานั้น อุตสาหกรรมอาหารฝรั่งเศสกำลังถูกซัดด้วยคลื่นลูกใหม่ของวงการอาหาร นั่นคือ “อาหารฟิวชั่น (Fusion Cuisine)”
1
อาหารฟิวชั่นคือการนำองค์ประกอบของอาหารในแต่ละพื้นที่ นำมาทำให้เกิดอาหารจานใหม่ที่น่าสนใจและรสชาติดี
1
Loiseau ก็ทราบถึงกระแสที่กำลังมาแรงของอาหารฟิวชั่น หากแต่ก็ไม่ต้องการจะตามกระแส และคิดว่าอาหารฟิวชั่นไม่สามารถจะเอาชนะอาหารดั้งเดิมของฝรั่งเศสได้
1
นี่นับเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ Loiseau เนื่องจากเชฟนั้น จำเป็นที่จะต้องประยุกต์ ปรับตัวเพื่อให้เกิดรสชาติใหม่ๆ ส่งตรงถึงลูกค้า ถึงแม้ว่าเชฟอาจจะไม่ได้รู้สึกถูกใจหรือเห็นด้วยก็ตาม
แต่สำหรับเชฟใหญ่อย่าง Loiseau การทำอาหารตามแนวทางของตนคือชีวิต ซึ่งบางทีก็ไม่สามารถตอบสนองต่อลูกค้าที่เปลี่ยนไป
การไม่ยอมปรับตัวของ Loiseau ทำให้เขาต้องเสียหายทางธุรกิจ และทำให้เขาซึมเศร้า
ถึงแม้ว่าสื่อมวลชนพยายามจะช่วย หากแต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากคำวิจารณ์ของลูกค้าต่างก็บอกว่าไม่ชอบอาหารของเขา และคิดว่าเขาต้องสูญเสียดาวมิชลินที่เคยได้มาแน่นอน
ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2003 (พ.ศ.2546) มีคนพบศพของ Loiseau เสียชีวิตในห้องพัก โดยสาเหตุมาจากการฆ่าตัวตายด้วยการยิงเข้าที่ศีรษะตนเอง
สำหรับสาเหตุที่เขาจบชีวิตตนเอง ก็คาดว่าเป็นเพราะความเครียดจากการที่คิดว่าตนต้องสูญเสียดาวมิชลิน โดยในเวลานั้น มีข่าวลือว่ามิชลินไกด์จะขอยึดดาวคืนจากเขาหนึ่งดวง
บางที การรักษาตำแหน่งก็อาจจะยากกว่าการได้มาซึ่งตำแหน่ง และทำให้คนเก่งเช่น Loiseau ต้องจบชีวิตลง
1
โฆษณา