8 เม.ย. 2022 เวลา 08:39 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ปั้นพอตอย่างไรให้โต (แนวคิด)
การปั้นพอต คือ การเพิ่มเงินเข้าไปในพอตให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากทุนเดิมของเรา
แต่การเพิ่มเงินเข้าพอตของเรานั้นก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด เท่าที่ดำเนินการล้างพอตมา ผมเชื่อว่าความรู้นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเทรดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะใครก็ตามที่ต้องการเดินทางในสายการปั้นพอตจากพอตเล็กไปเป็นพอตใหญ่
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะคิดแบบเดียวกับผมในเรื่องของการปั้นพอตว่าจะต้องดำเนินการรักษาพอตให้มั่นคงก่อนถึงจะสามารถขยายเงินได้
ซึ่งผมมีความคิดเห็นว่า ปัจจัยดังต่อไปนี้น่าจะส่งผลต่อการก่อร่างสร้างพอตให้ใหญ่ขึ้นได้
1. พอตจะใหญ่ไปตามความรู้
2. เติมเงินเข้าในพอตตามจังหวะการเข้า Order
3. เพิ่มเงินในพอตจากการพักตัวของราคาก่อนเดินทางต่อ
4. เป็นเศรษฐีได้ด้วยการเกิดขึ้นของ Trend
จากที่กล่าวมาทั้ง 4 ข้อนั้นมีความสัมพันธ์กันในเรื่องของการเพิ่มเงินเข้าพอตได้อย่างไร
ซึ่งในข้อที่ 1 นั้น การที่จะปั้นพอตได้นั้น เราต้องมีความรู้อยู่ในระดับที่สามารถคาดการณ์ทิศทางของกราฟได้ว่า การเดินทางของกราฟโดยรวมจะเดินทางไปยังทิศทางไหน ขึ้นหรือลง เดินทางไปถึงระยะเท่าไหร่ พอถึงระยะที่กำหนดแล้วกราฟจะไปยังไงต่อ ต่อมา คือ ความรู้ของการย่อของการเดินทางว่าจุดไหนที่ควรย่อ แล้วย่อเท่าไหร่ การเดินทางจะเดินทางในลักษณะใด วิ่งขึ้นได้กี่แท่งเทียน หรือวิ่งลงได้กี่แท่งเทียน แล้วลักษณะของแท่งเทียนที่เกิดขึ้นควรเป็นอย่างไรก่อนที่ราคาจะเดินทางสวนหรือตามทิศทางที่เราคาดการณ์ไว้นั้น เป็นอย่างไร
ซึ่งความรู้ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น Price action หรือ Indicator ใดๆ ควรที่จะตั้งต้นของความรู้ไว้ว่า Trend จะเดินทางไปยังไง Trend เดินทางต่อยังไง Trend จะทำการพักตัวแบบไหน และ Trend จะกลับตัวอย่างไร
ซึ่งการเห็นภาพการเดินทางของ Trend ได้นั้น การมองด้วยมุมมองที่ใหญ่ขึ้น (กรอบเวลาในการเทรด) จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรามองเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น เมื่อเราเห็นแนวรับในกรอบเวลา M15 แล้ว แล้วทำไมราคามันรับไม่อยู่ อาจจะเป็นเพราะว่าในกรอบเวลา H1 อาจจะเป็นช่วงของราคาที่เป็นแนวรับที่ไม่เกิดการ Block ของราคาที่เป็นตัวระบุความแข็งแรงของแนวรับหรือแนวต้านใดๆ
ดังนั้นหากเรายิ่งมีความรู้ที่เอาไว้ใช้ในการพิจารณาลักษณะของการเดินทางของราคามากเท่าไหร่ ยิ่งดี แต่ปัจจัยนี้ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอไปเพราะในบางความรู้อาจจะตีกันได้ (ดังนั้นเมื่อความรู้ตีกัน = การพักตัวของราคา ไม่ควรเข้า Order) แต่ถ้าเมื่อไหร่เมื่อความรู้ไม่ตีกันแล้ว แม้แต่ราคาอยู่ในช่วงของการพักตัวของราคาก็ไม่หวั่นแม้จะนานไปหน่อย
ต่อมาเป็นเรื่องของจังหวะการเข้า Order ถึงแม้เราจะคาดการณ์ได้ถูกต้อง แต่ที่ล้างพอตมาเรื่อยๆ น่าจะเป็นจุดเข้าของเรามากกว่า ซึ่งมีคำถามหนึ่งที่ผมใช้ถามก่อนเข้า Order เสมอว่า จังหวะไหนเข้าแล้วได้ Order สวย กับเข้าแล้วได้เป็นเศรษฐี ซึ่งก็คือถามตัวเองว่า เข้าแล้ว คือ ต้องได้กำไรเลย หรือว่าต้องรอย่อก่อนถึงจะวิ่งต่อได้
ข้อดีของ Order สวย คือ อวดเพื่อนได้ แต่ข้อเสีย คือ อาจจะมาย้ำที่จุดเดิม (ทรังเคต) หรือ New low/high ได้อีก หรือเจอกับแรงสวิงเยอะๆ นั้นเอง
ส่วน Order เศรษฐี คือ เข้าแล้ววิ่งขึ้นไปเลย อันนี้ถือว่าเป็น Order ที่ไม่ต้องมาพะวงว่าจะมาย้ำที่เดิมอีกหรือเปล่า หรือเป้น Order ที่เรียกได้ว่าไร้แรงสวิงนั้นเอง
ดังนั้นจากจังหวะการเข้าข้างต้น จะเห็นได้ว่าต้องมีความรู้ในเรื่องของจังหวะการเข้าแบบเศรษฐีก่อน ซึ่งมันก็ คือ ข้อที่ 1 นั้นเอง ที่เราต้องมาหาจากตำราต่าง ๆ ว่าทำยังไงถึงจะได้จังหวะนั้นมาครอบครองให้ได้
ดังนั้นเป้าหมายแรกของเรา คือ ความรู้ของจังหวะเศรษฐี
ต่อมา คือ การเพิ่มเงินในพอตขณะที่ราคากำลังพักตัว เนื่องจากการพักตัวของราคานั้นหมายถึงการที่ราคากำลังเดินทางในทิศทางหนึ่งอยู่ แล้วเกิดทิศทางที่กลับกัน แต่ยังไม่สามารถที่จะหลุดจุดเริ่มต้นของทิศทางนั้นได้ มันก็คือการพักตัวของราคา ซึ่งการเพิ่มเงินดังกว่าวจะเป็นการเข้า Order ของเราตามที่เรามีความรู้ เพราะว่าการพักตัวของราคามีอยู่ปัจจัยหนึ่งที่สามาระทำให้เราสามารถเพิ่มเงินในกระเป๋าได้ ก็คือ เมื่อถึงระยะ Same low/high แล้วราคามักจะเกิดการสวนการพักตัวของราคาแล้วอาจจะกลับมายังจุดเดิมก่อนที่จะเกิดการพักตัวของราคาได้ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นความสามารถในการมองเห็นโอกาสของนักลงทุนแล้วว่าจะสามารถเพิ่มเงินจากการกระทำของราคาที่เกิดขึ้นในการพักตัวของราคาได้หรือไม่ ยิ่งหาเกิดการพักตัวที่นานๆ การเกิดจังหวะการสวน Trend ของราคาเมื่อถึงระยะ Same low/high ก็จะมีเพิ่มมากขึ้นนั้นเอง
และสุดท้ายก็คือ การเป็นเศรษฐีได้ด้วยการเกิดขึ้นของ Trend นั้นเอง
ในข้อนี้ขอเพิ่มเติมในส่วนของข้อ 3 ที่ต้องใช้ช้อที่ 1 เพิ่มเข้ามาด้วย คือ เมื่อเราสามารถคาดการณ์ได้แล้วว่าราคาจะเดินไปในทิศทางใด และจะย่อแบบใด ก็จะทำให้เรารู้ว่าจังหวะในการเข้า Order แต่ละครั้งนั้น เราอาจจะต้องทำการเก็บ Order ในขานั้นๆ เอาไว้แต่จะทำกำไรจาก Order ที่สวนลงมาเพื่อเป็นทิศทางของการพักตัวของราคา เช่น คาดการณ์ว่าเงินสกุล USD จะขึ้นแต่ตอนนี้พักตัวอยู่ในช่วงของ wave b ที่กำลังจะจบ แล้วลง wave c แต่ทิศทางของกราฟทั้งหมดคือเป็นขาขึ้น ดังนั้นจังหวะของ Order ในขาขึ้นนั้นอาจจะถือเอาไว้เพราะว่ากราฟของ wave c ที่ลงไปนั้นอาจจะลงไปไม่ถึง Order ที่เราถือมาก็ได้ เป็นต้น
ดังนั้นการถือ Order ในจังหวะเศรษฐี แล้วสามารถถือได้ยาว ๆ จนกว่าจะจบ Trend ในขานั้น ๆ ก็ถือว่าเราเป้นเศรษฐีได้แล้ว เพราะส่วนต่างของกำไรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการเล่นในการพักตัวของราคานั้นเอง
กลยุทธ >> ราคาอยู่ในการพักตัว ให้ถือครอง Order ระยะสั้น จนกว่าจะจบการพักตัวของราคา หรือการเกิดขึ้นราคาที่เป็น Trend เราก็เปลี่ยนกลยุทธ์การเข้า Order เป็นการถือครองระยะยาว หรือการนั่งมองให้ราคาวิ่งไปเรื่อย ๆด้วยความสุขใจ
โฆษณา