Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
no name
•
ติดตาม
11 เม.ย. 2022 เวลา 02:00 • กีฬา
" เมื่อ มูรินโญ่ เล่นซ่อนแอบ "
โชเซ่ มูรินโญ่ ในวัย 59 ปี คุมทีมโรม่า ยังคงแสดงตัวตนของเขาให้แฟนบอลเห็น
การโวยวาย ออกแอ็คชั่นข้างสนาม การให้สัมภาษณ์ที่เกินคาดเดา ทำหลายอย่างสุดโต่งแทบจะเป็นการโชว์ออฟ ซึ่งหลายครั้งการกระทำเหล่านี้ส่งผลให้เขาโดนลงโทษทางวินัย
แต่ มูรินโญ่ ร่างนี้ ณ ปี 2022 เทียบไม่ได้เลยกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ในวัยหนุ่ม
ช่วงปี 2004-2005 เป็นช่วงเวลาทองของเขา มูรินโญ่ วัยเพียง 41-42 ปี ผมยังดกดำ เปี่ยมด้วยความมั่นใจจนเลยเถิดเป็นความโอหัง
หลังจากปอร์โต้ คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็โดน เชลซี ดึงตัวมาคุมทีม พร้อมประเคนงบเสริมทัพเต็มพิกัด ชนิดไม่เคยมีทีมไหนทำมาก่อนในตอนนั้น
โค้ชหนุ่มที่ไหนบ้างจะวิ่งสับ 100 เมตรสะใจไปทั่วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังพาปอร์โต้ ผ่านเข้ารอบ ชปล. ต่อหน้า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
2
โค้ชที่ไหน มาถึงอังกฤษแล้วประกาศกร้าวว่าหมดยุคของ แมนฯ ยูไนเต็ด vs อาร์เซน่อลแล้ว และบอกว่าตัวเขาคือ The Special One พร้อมกับตอกหน้ากุนซือรุ่นเก่าในพรีเมียร์ ลีก ที่มากังขาในฟุตบอลของเขาว่า เคยได้แชมป์ยุโรปอย่างเขาหรือเปล่า
1
ไม่มีอีกแล้ว โค้ชที่จะโอหัง เปี่ยมด้วยความมั่นใจจนน่าหมั่นไส้แบบนี้ ณ ปี 2004
1
สิ่งที่น่ากลัวก็คือ มูรินโญ่ ไม่ใช่คนที่ดีแต่ปาก แต่เขาทำได้จริง เขาเป็นจอมแท็คติกที่เก็บรายละเอียดทุกเม็ด รู้จักวิธีเอาชนะคู่แข่ง ด้วยทุกวิถีทางที่มี
1
เชลซี 2004/05 เป็นทีมที่แทบจะไร้พ่าย ในลีก แพ้แค่นัดเดียว เป็นแชมป์แบบเหนือชั้น
ทว่าเส้นทางที่เขามุ่งมั่นอยากพาทีมเดินไปให้ถึงปลายทางคือใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เรื่องราวมันอยู่ตรงนั้น
เชลซี ผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาแบบสบายๆ มีไปแพ้ให้ ปอร์โต้ ทีมเก่าของ มูรินโญ่ ในนัดส่งท้าย ที่ไม่ได้มีความหมายอะไรแล้ว
พอรอบ 16 ทีมสุดท้าย เขาต้องเจอกับ บาร์เซโลน่า ในยุคที่มี โรนัลดินโญ่ ในวัยพีค เป็นตัวชูโรง และมี ซามูแอล เอโต้ เป็นจอมถล่มประตู
ศาสตร์มืดของ มูรินโญ่ เริ่มขึ้นตรงนั้น
ในเลกแรกเล่นกันที่ คัมป์ นู ทีมของ มูรินโญ่ ออกนำไปก่อน 1-0 ในครึ่งแรก แต่พอครึ่งหลังนาทีที่ 55 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา โดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนาม
มันเป็นการตัดสินที่ มูรินโญ่ ไม่พอใจอย่างมาก กระทั่งต่อมา บาร์ซ่า มายิง 2 ประตูแซงชนะ 2-1 จากมักซี่ โลเปซ และ เอโต้
หลังจบเกม มูรินโญ่ ไม่พอใจผู้ตัดสินใจเกมนั้นอย่าง อันเดอร์ส ฟริสค์ สุดๆ
เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาเห็น แฟรงค์ ไรจ์การ์ด เข้าไปหา ฟริสค์ ในห้องพักผู้ตัดสิน ในช่วงพักครึ่ง
มูรินโญ่ กำลังสื่อว่า มันอาจมีการ "เตี๊ยม" อะไรกันบางอย่างที่ส่งผลให้ในครึ่งหลัง อันเดอร์ส ฟริสค์ ไล่นักเตะของเขาออก เพื่อให้บาร์ซ่าได้เปรียบ
1
ทั้ง ไรจ์การ์ด และ ฟริสค์ ไม่ทันได้ชี้แจงอะไร ปรากฎว่ามีจดหมายขู่ฆ่าส่งไปยังบ้านและครอบครัวของผู้ตัดสินชาวสวีเดน รายนี้มากมาย มันมาจากแฟนบอลเชลซี ที่คิดว่า ฟริสค์ "รับงาน" เพื่อจงใจให้เชลซีเสียเปรียบ
วันที่ 8 มีนาคม เกมเลกสอง เตะกันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ บ้าง หนนี้ ยูฟ่า คงไม่อยากให้เกิดเรื่องบ้าๆ บอๆ เกี่ยวกับการกล่าวหาผู้ตัดสินอีก เลยจัด "กระบี่มือ 1" อย่าง ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า ลงมาทำหน้าที่ซะเลย
มันเป็นเกมที่สนุกมาก เราได้เห็นเชลซี โหมดที่เปิดเกมรุกและเห็นความมหัศจรรย์ของ โรนัลดินโญ่ ทว่าสุดท้ายแล้ว เชลซี เป็นฝ่ายชนะไป 4-2 รวมผลสองนัด มูรินโญ่ พาทีมผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 5-4
แต่เหตุการณ์มารุนแรงเอาหลังจากนั้นเพียง 4 วัน ผู้ตัดสินอันเดอร์ส ฟริสค์ ประกาศแขวนนกหวีด เลิกเป็นผู้ตัดสินอย่างถาวรขณะอายุเพียง 42 ปี เนื่องจากการโดนขู่ฆ่านั่นเอง
สายตาพุ่งกลับมาที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ทันที เพราะต้นตอมันมาจากการให้สัมภาษณ์กล่าวหาของ มูรินโญ่
แม้ภายหลังจะพบว่า ไรจ์การ์ด ไม่เคยเข้าไปในห้องพักของผู้ตัดสินอย่างว่า แต่ มูรินโญ่ ยังยืนยันว่าเขาเห็นเหตุการณ์นี้จริงๆ
1
ยูฟ่า ลงมาดำเนินการ เพราะเรื่องราวมันบานปลาย จนมีบทลงโทษพฤติกรรมไม่เหมาะสมของ มูรินโญ่
1
บทลงโทษคือ โชเซ่ มูรินโญ่ โดนแบนจากการคุมทีมในฟุตบอลยุโรป 2 นัด ห้ามมีส่วนเกี่ยวข้องก่อนเกมและตอนพักครึ่ง ต้องไม่ให้เห็นตัวในสนาม เพราะอาจส่งซิก กันได้ และปรับเงิน 90,000 ปอนด์ ส่วนทางสโมสรเชลซีโดนปรับไป 33,000 ปอนด์
1
เรื่องการปรับเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เรื่องใหญ่คือการห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเกมการแข่งขัน 2 นัด เพราะรอบต่อไป เชลซี ต้องเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค
เลกสองไปเยือนที่เยอรมัน คงทำอะไรไม่ได้มากนัก แต่เกมเลกแรกในบ้าน เตะที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ แท้ๆ ถ้าไม่สามารถช่วยทีมให้ได้ผลการแข่งขันที่ดี คงจะแย่
ตอนนั้นสื่ออังกฤษอย่าง The Gaurdian ลงข่าวการโดนแบนนี้ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า
"เช่นเดียวกับสถานการณ์ส่วนใหญ่ แน่ใจเลยว่ามูรินโญ่จะหาทางจนได้"
The Gaurdian พูดถูก เพราะ มูรินโญ่หาทางเพื่อติดต่อกับทีมและนักเตะของเขาได้จริงๆ
ด้วยการห้ามเข้ามาดูในสนามเลย มูรินโญ่ ควรต้องไปนั่งดูอยู่ที่เลชเชอร์ เซนเตอร์ หรือสโมสร ที่อยู่ด้านหลังสนาม แต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น
สิ่งที่เราเห็นจากการถ่ายทอดสดทางทีวีคือ รุย ฟาเรีย ใส่หมวกไหมพรมปิดหูมิดชิด และทำท่าสัมผัสบริเวณหูบ่อยครั้ง ยังกับได้รับคำสั่งผ่านอุปกรณ์สื่อสารอะไรสักอย่าง
ยิ่งไปกว่านั้น ซิลวินโญ่ ลูโร่ โค้ชผู้รักษาประตู ยังทำบางอย่างน่าสงสัย เพราะเขาแว้บหายเข้าไปในอุโมงค์ทางเดิน 3 ครั้ง และแต่ละครั้งจะกลับออกมาพร้อมกระดาษในมือ แล้วทั้ง 3 ครั้ง เชลซี มีการเปลี่ยนตัวในจังหวะนั้นพอดี
ราวกับว่า ทั้ง ฟาเรีย กับ ลูโร่ กำลังรับฟังคำสั่งจากใครบางคนที่อยู่ใกล้ๆ นั่นเอง
1
มีข่าวออกมาในช่วงปีหลังๆ ว่า มูรินโญ่ แอบเข้าไปในห้องแต่งตัวในเกมวันนั้นแต่ไม่มีใครรู้ เจ้าหน้าที่จาก ยูฟ่า ก็ไม่รู้
สุดท้าย คนที่ออกมาเฉลยเรื่องราวทั้งหมดก็คือตัวของ มูรินโญ่ เอง ซึ่งเขาเล่าเอาไว้แบบนี้
1
"ผมเข้าไปในห้องแต่งตัวระหว่างวัน คือผมเข้าไปในนั้นตั้งแต่ช่วงเที่ยง แล้วเกมมันเตะตอน 1 ทุ่ม ผมอยากเข้าไปอยู่ในห้องแต่งตัวให้เรียบร้อยตอนที่พวกนักเตะมาถึง"
"ผมเข้าไปในที่นั่นและไม่มีใครเห็นผม ปัญหาคือตอนออกมานี่แหละ แล้วสจ๊วร์ต แบนนิสเตอร์ คนดูแลชุดแข่ง เอาผมใส่เข้าไปในตระกร้าผ้า ฝามันเปิดอยู่นิดหน่อยเพื่อให้ผมหายใจได้"
"แต่ตอนที่เขาเข็นตระกร้าออกมานอกห้องแต่งตัว เจ้าหน้าที่จากยูฟ่า ก็เดินตามมาและอยากจะหาตัวผมให้ได้ ดังนั้นเขาเลยปิดฝา ทำให้ผมแทบหายใจไม่ออกเลย! ตอนที่เขาเปิดฝาออก ผมเกือบตาย! ผมพูดจริงๆ ผมอึดอัดสุดๆ ผมสาบานเลย นี่เรื่องจริง!"
เกมนั้นเชลซี อัดใส่ บาเยิร์น มิวนิค 4-2 ทั้งที่ไม่มี มูรินโญ่ "นั่งข้างสนาม"
2
เลกสอง เชลซี ที่ไร้เงามูรินโญ่ จริงๆ บินไปมิวนิค แพ้ให้เจ้าถิ่น 2-3 แต่ผลรวมก็ยังดีพอให้พวกเขาเข้ารอบรองชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 6-5
1
น่าเสียดายที่ เชลซี ไปโดนทีเด็ดของ ลิเวอร์พูล เตะกันสองนัดแพ้ 0-1 จากประตูชัย ประตูโทน ที่ยังทำให้ มูรินโญ่ ฝังใจมาจนถึงตอนนี้ นั่นคือ "ประตูผี - Ghost goal" ของ หลุยส์ การ์เซีย
1
ร่วมรับชมคลิปเพิ่มความแสบของ มูรินโญ่ ได้ที่ :
http://ow.ly/YPqF30sgXGm
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
www.cheerball.com/news/talk
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line :
https://line.me/R/ti/p/@cheerballth
Facebook :
www.facebook.com/cheerball
Twitter :
www.twitter.com/cheerballth
Website :
www.cheerball.com
Youtube :
www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
2
5 บันทึก
19
5
19
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย