“วากิวโอลิมปิก” การประกวดเนื้อวัว ที่สร้างรายได้มหาศาล ให้กับคนญี่ปุ่น
เมื่อพูดถึงโอลิมปิก หลายคนคงนึกถึงการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก ที่มีนักกีฬาชั้นนำในแต่ละประเทศมารวมตัวกัน
ซึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีการจัดการแข่งขันโอลิมปิกภายในประเทศเป็นประจำคล้าย ๆ กัน แต่งานนี้ผู้เข้าแข่งขันกลับไม่ใช่ “คน” แต่เป็น “วัว”
เนื่องจากการแข่งขันนี้ ใช้ชื่องานว่า “วากิวโอลิมปิก”
แล้วสงสัยไหมคะว่า วากิวโอลิมปิก คืองานอะไร ?
ทำไมถึงต้องมีการจัดงานโอลิมปิกให้กับวัว ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ต้องเกริ่นก่อนว่า “เนื้อวัว” จากประเทศญี่ปุ่น โด่งดังในเรื่องความหลากหลายของสายพันธุ์ และความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์
ซึ่งเนื้อวัวสายพันธุ์ “วากิว” เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในประเทศญี่ปุ่น และอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก
ทำให้ชาวญี่ปุ่น พยายามผลิตเนื้อวากิวคุณภาพดีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดต่างประเทศ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยในปี 2019 เนื้อวากิวเป็นสินค้าที่ถูกส่งออกจากประเทศญี่ปุ่น เป็นอันดับต้น ๆ ในภาคเกษตรกรรมและปศุสัตว์ โดยมีมูลค่าการส่งออก กว่า 9,000 ล้านบาท
ซึ่งเรื่องนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากความต้องการบริโภคเนื้อวัวคุณภาพดี โดยเฉพาะจากประเทศแถบเอเชีย ที่กลุ่มชนชั้นกลางกำลังเติบโต
ส่งผลให้ มูลค่าการส่งออกเนื้อวากิวของญี่ปุ่น 6 ปีย้อนหลัง เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 6 เท่าตัว เลยทีเดียว
แล้วอะไร ที่ทำให้เนื้อวากิวจากญี่ปุ่น ถูกมองว่าเป็นเนื้อวัวคุณภาพ จนได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ ประเทศ ?
ส่วนหนึ่งก็มาจาก การที่รัฐบาลเข้ามาผลักดัน และสนับสนุนให้เกษตรกรมีความมุ่งมั่น และพิถีพิถัน เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีที่สุด
และนั่นก็เป็นที่มาของ การจัดประกวดวากิวโอลิมปิก เพื่อค้นหาวัวสายพันธุ์วากิวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น นั่นเอง
ปัจจุบันงานวากิวโอลิมปิกถูกจัดต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลากว่า 56 ปีแล้ว นับตั้งแต่ปี 1966 โดยสมาคมสำนักทะเบียนวากิว ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งงานนี้ถูกจัดขึ้นทุก ๆ 5 ปี โดยแต่ละครั้งก็จะเปลี่ยนสถานที่ไปตามเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น และใช้เวลาในการตัดสินประมาณ 4-7 วัน ต่อการประกวดแต่ละครั้ง
ซึ่งผู้ชนะเลิศในงานวากิวโอลิมปิก นอกจากจะได้รับการการันตีคุณภาพ และได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลแล้ว การแข่งขันนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย เพราะนักท่องเที่ยว จะพากันไปชิมเนื้อวากิวขึ้นชื่อของเมืองนั้น ๆ
ดังนั้นเกษตรกรที่เลี้ยงวัวทั่วประเทศญี่ปุ่น จึงพลาดไม่ได้ที่จะพาวัวของตัวเองมาเข้าประกวดเพื่อชิงรางวัลนี้ ทำให้ทุก ๆ การแข่งขัน มีการส่งวัวเข้าประกวดมากกว่า 500 ตัวเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการแข่งขันวากิวโอลิมปิก จะค้นหาวัวที่ดีที่สุดเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าของวัวที่เหลือจะต้องกลับบ้านไปมือเปล่า
เพราะการแข่งขันนี้ ยังมีการประกวดวัวในสาขาย่อยอีก 11 รายการ ดังนั้นเจ้าของวัวทั้งหมดก็มีโอกาสเป็นผู้ชนะในแต่ละรายการ
แล้วผู้ชนะเลิศในการประกวดวากิวโอลิมปิก ต้องผ่านเกณฑ์อะไรบ้าง ?
ในการประกวดแต่ละครั้ง รางวัลจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ สาขาการปรับปรุงสายพันธุ์ (Breed Improvement) และสาขาคุณภาพเนื้อวัว (Meat Quality)
ซึ่งสาขาการปรับปรุงสายพันธุ์ จะวัดจากความสมบูรณ์ของขนาด สัดส่วนในร่างกาย และภาวะเจริญพันธุ์ที่ดี ซึ่งสามารถพิจารณาได้จาก หัวไหล่วัว, ลักษณะขา และท็อปไลน์ หรือความเรียบของหลัง
ส่วนสาขาคุณภาพเนื้อวัว จะพิจารณาโดยให้คะแนนจากไขมันลายหินอ่อน ซึ่งชั้นไขมันลายหินอ่อน จะถูกแบ่งออกเป็นความสวยงามอีกหลายประเภท โดยใช้เกณฑ์การประเมินคุณภาพเนื้อ (Meat Grading System)
โดยจะวัดจากพื้นที่ส่วนริบอาย (Rib Eye), ความหนาของเนื้อซี่โครงส่วนปลาย และไขมันใต้ผิวหนัง จนได้ออกมาเป็นเกรดของเนื้อวัว A, B และ C ที่เรียงจากคุณภาพดีที่สุดตามลำดับ
รวมถึงมีการแบ่งเป็นระดับตั้งแต่ 1 ถึง 5 โดยพิจารณาจากคุณภาพของมันลายหินอ่อน, ความมันวาวของเนื้อ, ปริมาณไขมัน และเนื้อสัมผัส
ดังนั้น เนื้อวากิว A5 ที่หลายคนเคยได้ยิน คือเนื้อวากิวที่สมบูรณ์และรสชาติดีที่สุดนั่นเอง เพราะการที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวแทรกในเนื้อมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้ผู้ลิ้มลอง ได้รับรสสัมผัส และความนุ่มที่ละลายในปากมากเท่านั้น
ซึ่งหลังจากการแข่งขันจบลง วัวที่ชนะในแต่ละสาขาจะถูกนำเนื้อไปประมูลในงานโอลิมปิกทันที
โดยจากสถิติที่ผ่านมาถึงปี 2016 เนื้อวากิวที่มีราคาแพงที่สุด จากการแข่งขันวากิวโอลิมปิก จะถูกประมูลไปในราคา 54,001 เยน หรือเกือบ 15,000 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าราคากลางของเนื้อวากิวหลายเท่าตัว ที่มีราคาประมาณ 880 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น
นอกจากนั้น สำหรับวัวที่ชนะเลิศในการแข่งขันนี้ เจ้าของวัวจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อนำไปพัฒนา และเพาะพันธุ์วัวในฟาร์ม ในการแข่งขันครั้งต่อไป
ตัวอย่างของเนื้อที่ชนะในงานวากิวโอลิมปิก ก็คือ “เนื้อวัวมิยาซากิ” ซึ่งครองตำแหน่งแชมป์ด้านคุณภาพเนื้อถึง 3 สมัย ตั้งแต่ปี 2007, 2012 และในปีล่าสุด 2017
ทำให้เนื้อวัวมิยาซากิได้รับการยอมรับจากคนญี่ปุ่น ไปจนถึงกลุ่มคนรักเนื้อวัวทั่วโลก
อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสายพันธุ์วัว ที่เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวนิยมคัดเลือกเพื่อนำไปเลี้ยงในภูมิภาคอื่น ๆ เช่นกัน
รวมถึงยังเป็นเนื้อที่ได้เสิร์ฟใน Governors Ball หรืองานเลี้ยงหลังพิธีประกาศรางวัลออสการ์มา 2 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2018
แล้วอะไรคือเคล็ดลับ ที่ทำให้วัวเหล่านี้ มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ?
กว่าที่เหล่าเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวจะนำวัวแต่ละตัวมาเข้าประกวดได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะวัวเหล่านั้นจะต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องอาหาร, สภาพแวดล้อม และสภาพจิตใจ
ดังนั้นกลุ่มผู้เลี้ยงจึงต้องทุ่มเทอย่างมากในการเลือกอาหารที่มีคุณภาพ เช่น ข้าวสาลี, หญ้าแห้งเกรดดี หรือมีการคิดค้นอาหารเสริมอื่น ๆ ตามสูตรเฉพาะของฟาร์ม
นอกจากนั้น ที่อยู่อาศัยก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะวัวเหล่านั้นจะต้องอยู่ในพื้นที่สะอาด ถูกสุขอนามัย กว้างขวางให้วัวได้มีอิสระ ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่สมบูรณ์ แหล่งน้ำที่สะอาด และมีอากาศบริสุทธิ์
โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ เหล่าเกษตรกรเชื่อว่า ยิ่งวัวไม่มีความเครียด เนื้อของวัวเหล่านั้นก็ยิ่งมีความนุ่ม และมีชั้นไขมันดีเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ทำให้พวกเขาเอาใจใส่เรื่องสภาพจิตใจของวัวที่เข้าแข่งขันด้วยเช่นกัน โดยการเปิดเพลงให้ฟัง มีการนวดผ่อนคลาย รวมถึงให้วัวดื่มเบียร์อีกด้วย
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คงสรุปได้ว่า การที่เนื้อวากิวของประเทศญี่ปุ่นถือเป็นเนื้อวัวชั้นเลิศ
ก็มาจากการดูแลอย่างพิถีพิถัน และการเอาใจใส่ด้วยความรัก อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ที่เปรียบเสมือนแรงกระตุ้นให้เกษตรกรมีความทุ่มเทมากขึ้น ทำให้ประเทศญี่ปุ่น มีผลผลิตเป็นเนื้อวัวคุณภาพเยี่ยม ที่คนทั้งโลกยอมรับ
และในเดือนตุลาคม ปี 2022 นี้เอง ก็จะครบรอบ 5 ปี ในการจัดประกวดวากิวโอลิมปิกอีกครั้ง โดยในปีนี้จะจัดขึ้นที่ศาลากลางจังหวัด ที่เมืองคาโงชิมะ (Kagoshima)
ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า งานวากิวโอลิมปิกในปีนี้ เหล่านักเลี้ยงวัว จะมีการพัฒนาและคิดค้นวิธีอะไร ที่ทำให้เนื้อวากิวอร่อยขึ้นมากกว่าเดิมอีก..
References:
-https://wagyu-authentic.comhttps://wagyu-authentic.com/wagyu/what-is-wagyu-olympic//wagyu/what-is-wagyu-olympic/
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
