Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
TakeProfit
•
ติดตาม
17 เม.ย. 2022 เวลา 13:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
8 สิ่งที่ควรรู้ก่อนการเป็น "Trader"
1. ความรู้ทั่วไปเเละพื้นฐานของตลาด
ศึกษา "Facts" ทั่วๆไปของตลาดที่เราจะเข้าไปเทรดครับ ถ้าเราอยากเทรด "Forex" เราก็จำเป็นต้องรู้ว่าตลาด Forex นั้นเปิดให้เทรดได้ วันจันทร์-วันศุกร์ เเละตลาดของเเต่ละสกุลเงินก็มีเวลาเปิดต่างกันตาม Time-zone ของเเต่ละประเทศครับ
หรือถ้าเราอยากเทรดตลาด "Cryptocurrency" ซึ่งตลาดนี้เปิดให้เทรดได้ตลอด 24ชม. 7วันต่อสัปดาห์เลยครับ หรือเราอาจจะศึกษาลงลึกไปอีกถึงการพัฒนา Project ของเเต่ละเหรียญที่ Vision ของทีมนักพัฒนาเป็นยังไง
2. Fundamental Analysis VS Technical Analysis
การวิเคราะ์หรือการตัดสินใจในการเทรดใช้เเค่สองศาสตร์นี้เนี่ยเเหละครับ
Fundamental analysis คือการวิเคราะห์โดยใช้ปัจจัยพื้นฐานโดยไม่อิงกับราคา เช่น ตัวเลขเงินเฟ้อ หรือ กระทั่งสงครามจิตวิทยา ตอนที่ทรัมป์ตีกับจีน จนเทรดเดอร์หลายๆคนทำมีมออกมาว่า ทรัมป์ต้องแอบbuy ทองไว้เเน่ๆ
technical analysis คือการวิเคราะห์โดยfocus ไปที่ราคาเป็นหลักโดยใช้ข้อมูลในอดีตมาคาดการณ์ราคา มันก็ออกมาในรูปเเบบอย่าง กราฟ เเละอินดิเคเตอร์หลายๆตัวที่เราใช้ในการเทรดโดยไม่รู้ตัวครับ
3. Risk Management
ความเเน่นอนคือความไม่เเน่นอน โดยปกติเเล้วเรามองไปยังจุดทำกำไรเท่านั้น เเต่นักเทรดต้องวิเคราะห์ตอนที่ราคามันไม่ไปตามความคิดเราด้วย คิดง่ายๆ ถ้าเราสามารถทำกำไร 1000บาทต่อวันได้ ก็สามารถขาดทุน 1000บาทต่อวันได้เช่นกัน
4. สไตล์การเทรด
เราควรหาสไตล์การเทรดที่เราชอบเเละเหมาะกับตัวเราครับ
trend trading คือเทรดตามเทรน ได้กำไรเยอะ กินคำใหญ่ เเต่ต้องใช้เวลานาน อาจเป็นอาทิต หรือนักเทรดส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะเทรดเเบบ Day trading ครับ เพราะเหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่กดดัน สามารถทำกำไรให้เห็นได้ทุกๆวัน
หรือถ้าใครชอบความตื่นเต้นก็มีสาย Scalping ครับ คือการเทรดเเบบสั้นๆ ในหลักชั่วโมง
5. สร้างระบบการเทรด
พอเราเลือกสไตล์เทรดได้เเล้ว เราก็ต้องสร้างระบบเทรดที่สอดคล้องกับสไตล์เรา
โดยใช้ความรู้จาก fundamental เเละ technical เช่น ระบบการเทรดของtrend trading คือ ต้องใช้ moving averageในการหาทิศทางของเทรน เเละ volume เพื่อConfirm จุดกลับตัว
6. ฝึกฝนโดยทำ back test เเละเทรดบน demo
นักเทรดที่ทำกำไรได้บอกตรงกันว่า ใช้เวลา6-12 เดือนในการพัฒนาระบบของตัวเองจนทำกำไรได้โดยเราอาจจะ test ระบบบนback test ก่อน เเล้วอาจเทรด port demo ไปพร้อมๆกันครับ
7. ตลาดเเละจิตวิทยา
นักเทรดที่ดีต้องไม่ใช้อารมณ์ในการเทรดครับ อย่างสิ่งที่เราต้องเป็นเเน่ๆ ตอนพึ่งเริ่มเทรดใหม่ๆ ก็คือ นั่งดูกราฟทั้งวันไม่ไปไหน พอเทรดผิดทางก็ไม่กล้าcutlossเพราะไม่อยากขาดทุน หวังว่าราคามันจะกลับไปอีกทาง เเต่พอกำไรมาให้เห็นนิดหน่อย ก็กดTake profit เลยเพราะกลัวว่าเราจะเสียกำไรตรงนี้ไป
8. patience is key
ความอดทนเนี่ยเเหละครับ คือกุญเเจสู่ความสำเร็จ เคยได้ยินกฏ 90/10 ไหมครับ 90% คือ loser ส่วน 10% winner จากสถิติของโบรกเกอร์บอกไว้ว่ามีนักเทรดที่ขาดทุนถึง 80% ส่วนคนที่พอเทรดได้เเต่ไม่ได้กำไรมากนักอยู่ที่ 10% เเละนักเทรดที่สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องคือ 10% เช่นกันครับ ดูจากสถิติเเล้วยากมากจริงๆที่เราจะไปอยู่ในกลุ่ม 10% ทีทำกำไรได้ตลอด
การลงทุน
การเงิน
crypto
7 บันทึก
4
4
7
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย