15 เม.ย. 2022 เวลา 07:56 • ปรัชญา
รู้จักพระเยซูคริสต์ แต่ไม่เคยมีประสบการณ์กับ พระวิญญาณ และ พระบิดา
คอยแต่ตั้ง คำถามกับตัวเอง เมื่อมองย้อนกลับไปหลายๆ ปี ตอนนั้นยังงง กับคำว่า ตรีเอกานุภาพ ที่เรียนเป็น ทฤษฏี ที่ว่า ONE GOD Three Persons
1.พระบิดา Person 2.พระเยซู Person 3.พระวิญญาณบริสุทธิ์
คิดว่า เพียงรู้จักหรือว่าสัมผัส 1 ในสามก็พอแล้ว แต่ลืมตระหนักว่าในพระวจนะคำ
ที่ว่า
(ยน. 14:6 [ThaiKJV])
พระเยซูตรัสกับเขาว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา
ก็นมัสการพระเจ้าจดจ่อที่พระเยูซู แต่ไม่เคยพบหรือสัมผัส การทรงนำโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือความรักพระบิดา คิดตลอดว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ก็สงสัยเรื่อยมากกับพระวจนะ
แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะว่าเราถูกสอนให้เชื่อ จึงไม่กล้าถาม ณ เวลา ขณะนั้น แค่พัฒนาความเชื่อ แต่พระคำก็มีชัดเจน มีเอ่ยถึง ว่าถ้ารู้จักพระเยซู ก็จะรู้จักพระบิดาด้วย แต่ทำไมเรายังไม่มีประสบการณ์กับความรักพระบิดานะ ก็ได้แต่โทษแต่ตัวเอง ว่าตัวเองคงไม่ดีพอ ต้องทำกิจกรรมอีก รับใช้อีก รับใช้มากอีก และมากอีก
ยน. 14: 7 ถ้าท่านทั้งหลายรู้จักเราแล้ว ท่านก็จะรู้จักพระบิดาของเราด้วย และตั้งแต่นี้ไปท่านก็รู้จักพระองค์และได้เห็นพระองค์"
แต่ทำไมเราถึงไม่รู้จักพระองค์พระบิดานะ แล้วถ้าย้อนกลับไปที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ละ ว่าเราเคยมีประสบการณ์ไหม ?
ยน. 14:16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะทรงประทานผู้ปลอบประโลมใจอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อพระองค์จะได้อยู่กับท่านตลอดไป
แล้ววันหนึ่งก็เหนื่อยล้า ร้องไห้ บอกกับพระเจ้าว่าไม่ไหวแล้ว ลูกทำด้วยตัวเองไม่ได้การรับใช้ของลูกเหนื่อยมาก ทำไมแอกของลูกที่แบกนั้นหนักมาก และต้องอย่างทำให้พี่น้องหรือใครๆ สะดุด ทำไมเงื่อนไขมันเต็มไปหมดในชีวิตที่ว่า อย่าทำให้ใครสะดุด ลูกเหนื่อยเหลือเกิน
คำอธิฐานสุดท้ายของเราก่อนเราพบ การทรงนำโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
ลูกไม่ไหวขอให้อย่าเป็นไปตามความปรารถณาของลูกเลย แต่ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยพระเจ้า เอเมน เพราะลูกเหนื่อยเหลือเกิน ไม่สามารถเป็นคนดีได้ สมบูรณ์ได้
และแล้ววันหนึ่งเรามีประสบการณ์กับพระวิญญาณบริสุทธิ์ จริงๆ เราตื่นเต้นมาก
มันเป็นสิ่งที่ดูเหมือนเพี้ยน เหมือนเกินธรรมชาติ แต่เรามีสันติสุขอย่างบอกไม่ถูก
และ พระวิญญาณบริสุทธิ์นี้ แหละ นำเราให้พบกับความรักของพระบิดา
เราจึงรู้ว่า การรู้จักพระเยซู กับ การที่ได้รู้จักพระบิดาไม่เหมือนกันจริงๆ
มันเรื่องเรื่องของความกระหาย ความสัมพันธ์ มิใช่ความรู้ หรือว่าปัญญามนุษย์ เราขอเรียกตรงนี้ว่า มันคือ พระคุณของพระเจ้า ที่มอบให้คนบาปอย่างเรารอดและชอบธรรมผ่านทางความเชื่อของพระเยซูคริสต์
และเมื่อเราเชื่อการงานที่พระเยซูคริสต์ทำให้เราจนมันเป็นสัจจะแห่งความจริงและมีประสบการณ์กับพระวิญญาณบริสุทธิ์
พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่คอยช่วยเหลือเราจะทำเรา กลับบ้านสู่บ้านพระบิดาทำให้เรารู้จัก น้ำพระทัยพระบิดา
เราจึงเข้าใจแล้วว่า พระเจ้า ไม่ใช่เรื่องของศาสนาจริงๆ ที่เป็นเรื่องของความรัก
ที่พระผู้สร้างรักโลก รักมนุษย์อย่างเราๆ ที่เสื่อมจากพระสิริ และอยากให้เราคืนดี
กลับคืนพระองค์โดยได้ส่งพระบุตร และ พระวิญญาณบริสุทธิ์นำเราคืนกลับบ้านให้พบกับพระองค์พระบิดาอีกครั้ง เสมือนวิญญาณติดสนิทกับพระวิญญาณของพระองค์
(ยน. 14:6 [ThaiKJV])
พระเยซูตรัสกับเขาว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา
(ยน. 3:16 [ThaiKJV])
เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ที่บังเกิดมา เพื่อผู้ใดที่เชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์
โฆษณา