15 เม.ย. 2022 เวลา 15:36 • ข่าว
ชื่อของเขาคือ​ ❛ฆาตกรจักรราศี​❜❌🌌
ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1960​ บริเวณตอนเหนือของรัฐ​แคลิฟอร์เนีย​ คาดว่ารวมเขตรัฐเนวาดา​ด้วย​ ได้เกิดเหตุมีฆาตกรต่อเนื่อง​ได้ฆ่าผู้คน😰แต่ทางการกลับไม่ทราบถึงตัวตนที่แท้จริง​ และแรงจูงใจ​ของเขา​ที่ได้ก่อเหตุ​ และไม่ทราบจนถึงปัจจุบัน.... ⁉️
ชื่อของเขามีต้นกำเนิดมาจากตัวเขาเองที่ประดิษฐ์​ขึ้นมาใช้​ เพราะเขามักจะใช้ชื่อนี้ในการส่งจดหมายถึงตำรวจ​📮ในซานฟรานซิสโก​ และยังถูกนำตีพิมพ์​ ทำให้​ประชาชน​ทั่วไปรู้จักเขาในนามนี้​ 'โซดิแอก'​ หรือ​ 'จักรราศี'​
ซึ่งในจดหมาย​นั้นมีรหัสลับ​ 4​ ชุด!! 😮 ซึ่งมีคนที่สามารถถอดรหัสได้เแล้ว​ 2​ ชุด(ในปี2020)​ แต่ยังเหลืออีก​ 2​ ชุด😔ที่ยังไม่มีใครถอดได้จนถึงปัจจุบัน..
ตำรวจได้สเก็ตช์ภาพตามคำบอกเล่าของเหยื่อ.. ✏️
เหยื่อรายแรกที่เขาได้ลงมือ​ เป็นวัยรุ่นที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย​ 🏫​ 'เดวิด อาร์เธอร์ ฟาราเดย์'​
อายุ 17 ปี และ 'เบตตี ลู เจนเซน'​ อายุ 16 ปี
20 ธันวาคม​ 1968 บนถนนเลคเฮอร์แมน​ ในเขตเมืองเบนิเซีย ทั้งคู่กำลังอยู่ในระหว่างการเดทครั้งแรก และมีแผนที่จะไปคอนเสิร์ตวันคริสต์มาส
ที่โฮแกนไฮ ซึ่งห่างจากบ้านของเบตตีประมาณ​ 2​-3 ช่วงตึก​🏡แทนที่ทั้งคู่จะขับรถไปบ้านเพื่อนและทานมื้อคํ่า​ แต่เดวิด​กลับขับรถตามถนนเลคเฮอร์แมน​ซึ่งเขาใช้รถยี่ห้อ​แรมเบลอร์ซึ่งเป็นของแม่เดวิด​🚗ในเวลาประมาณ​ 4ทุ่ม15นาที​ เขา​ก็ได้จอดบริเวณไหล่ทาง​ แต่ในหมู่วัยรุ่นจะรู้จักกันในชื่อ​ 'ไหล่ทางของคู่รัก'​ เมื่อเวลาล่วงเลยถึง​ 5ทุ่ม
1
มีรถยนต์อีกคันที่จอดข้างๆพวกเขา​ ได้ลงมาพร้อมปืนพกและออกคำสั่งในทั้ง2ออกมาจากรถ​ เบตตีเธอเดินออกมาคนแรก​ และขณะที่เดวิดเดินออกมาได้แค่ครึ่งทาง​ ชายแปลกหน้ากลับยิงหัวของเขา​🩸เบตตีเธอตกใจมากจนวิ่งหนีสุดชีวิต​ เธอถูกยิง​ 5​นัด​ เธอล้มลงกับพื้นที่ห่างจากตัวรถ​ 28ฟุต​ และชายแปลกหน้าก็ได้ขับรถออกไป​
และ​ ไม่กี่นาทีต่อมาศพทั้ง​ 2คน​🎗️ก็ถูกพบ
ถูกพบโดย สเตลลา บอร์จส์​ คนที่อาศัยในบริเวณ​นั้น​🏡ซึ่งสำนักงานที่ดูแลคดีนี้​ คือ​ สำนักงานนายอำเภอของโซลาโนเคาท์ตี​ แต่กลับไม่มีความคืบหน้าของการสืบสวนเลย📑🔎
เหยื่อรายที่สอง​ คือ​ 'ไมเคิล เรนัลต์ แมกกู'​ อายุ 19 ปี และ 'ดาร์ลีน เอลิซาเบท เฟอร์ริน'​ อายุ 22 ปี​ เวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่​ 4​ กรกฎาคม​
ย่างเข้า​ วันที่​ 5​ กรกฎาคม​ ปี1969​ ทั้ง​คู่ได้ขับรถไปยังสนามกอล์ฟบลูรอคสปริงส์​ ซึ่งห่าง​ 1​ เมตร​ จากการฆาตกรรมที่ถนนเลคเฮอร์แมน​🛣️ไมเคิล
ได้จอดรถแต่เป็นรถของดาร์ลีน​ ได้มีรถยนต์อีกคันขับมาจอดข้างๆ​ แต่กลับขับออกไป.... 🚘
และขับกลับมาอีกประมาณ​ 10นาที​ ที่ด้านหลังของรถทั้งคู่​ คนขับได้ลงมาจากรถ​ และเดินตรงมายังประตูคนขับ​ มือข้างหนึ่งของชายแปลหน้าได้ส่องไฟฉายเข้าตาทำให้มองไม่เห็น​🔦ก่อนจะยิงทั้งคู่​ คนละ​ 3ครั้ง​ และเขาก็เดินกลับรถทันที​ ทว่าเสียงร้องครํ่าครวญของไมเคิลดังขึ้น​ เขาจึงเกินกลับมายิงทั้งคู่ซํ้าอีกคนละ​ 2​ที​ และขับรถออกไป​ 🚘
วันต่อมาเวลา​ 12:40นาที​ มีชายคนหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาที่สถานีตำรวจวัลเลโฮ​☎️และได้อ้างถึงความรับผิดชอบของคดีล่าสุดและคดีของเดวิดกับเบตตี​ ที่เกิดเหตุฆาตกรรม​ก่อนหน้านี้​ 6เดือน​ ตำรวจได้แกะรอยของโทรศัพท์พบว่าเขาโทรมาจากตู้โทรศัพท์​ที่สถานีนํ้ามัน​ ถนนสปริงส์​ ตู้นี้ห่าง​ 3ส่วน​10ไมล์​ จากบ้านของดาร์ลีน​ และห่างจากสถานีตำรวจที่เขาโทรมาเพียงไม่กี่ช่วงตึก
ดาร์ลีนเธอได้เสียชีวิต😔🎗️แต่ไมเคิลรอดชีวิตแม้จะถูกยิงที่ใบหน้า, คอ, หน้าอก
เหยื่อราย​ที่สาม​ 'ไบรอัน แคลวิน ฮาร์ทเนล'​ อายุ 20 ปี และ 'เซซีเลีย แอนน์ เชพเพิร์ด'​ อายุ 22 ปี​
วันที่27​ กันยายน​ 1969​ ทั้งคู่มาปิคนิคบนเกาะกลางทะเลสาบ​🏜️ชายผู้หนึ่งได้จู่โจมทั้งคู่โดยสวมชุดสีดำแบบเพชฌฆาต​ หมวกสีดำคลุมใบหน้า​ สวมแว่นตากันแดด🕶️​ บนหน้ามีรูปวงกลมสีขาวมีกากบาทตรงกลาง✖️
สัญลักษณ์ประจำตัวฆาตกร😨
ในมือถือปืนพก​ซึ่งไบรอันเดาว่าน่าจะ​ ปืน0.45
เอซีพี​ เขาพยายามคุยกับชายคนนั้น​ ซึ่งชายคนนั้นบอกว่าตัวเอง​ เป็นนักโทษและ​ ได้ทำการฆ่าผู้คุมและขโมยรถออกมา​ เขาต้องการเงินจากทั้งคู่
เพื่อเดินทางต่อ​🚙เขานำเชือกที่พกมาให้เซซีเลียและสั่งให้มัดข้อมือไบรอัน​ เมื่อเขานอนหมอบ
ควํ่า​ ชายชุดดำสั่งให้เซซีเลียทำเช่นเดียวกัน​
และเธอก็โดนมัดข้อมือ​
ไบรอันคิดว่าเป็นการปล้นที่ประหลาด​ ทันใดนั้นชายชุดดำก็คว้ามีดแล้วแทงพวกเขาซํ้าไปมา 🔪จนทั้งคู่ร้องเสียงอวดครวญ​ ชายชุดดำเดินไปยังรถของทั้งคู่แล้วเขียนสิ่งนี้​
"Vallejo/12-20-68/7-4-69/Sept 27-69-6:30/by knife"​ บนประตูรถ​ ด้วยปากกาหมึกดำ​ 🖋️
ต่อมาชายคนนี้ก็ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ​☎️และตำรวจก็พบว่าโทรมาจากตู้​ ร้านทำความสะอาดรถบนถนนหลักของนาปาเคาท์ตี​ ตำรวจได้เก็บรอยนิ้วมือแต่กลับไม่สามารถหาผู้ต้องสงสัย
ได้สักรายเลย😨
ไบรอันและเซซีเลียถูกช่วยโดยชายที่ตกปลา🎣อยู่ใกล้ๆได้ยินเสียงทั้งคู่ขอความช่วยเหลือ​ เขาจึงโทรตามเจ้าหน้าที่อุทยาน​ เมื่อทั้งคู่ถูกส่งโรงพยาบาล​ เซซีเลียเธออยู่ในอาการโคม่าสองวัน
ต่อมาเธอได้เสียชีวิต​🎗️ แต่ไบรอันรอดชีวิตและมาเล่ารายละเอียดให้ตำรวจฟัง👨‍✈️
เหยื่อรายที่สี่​ วันที่​11​ ตุลาคม​ 1969 ชายคนหนึ่งใช้บริการรถแท็กซี่​ของ​ 'พอล ลี สไตน์'​อายุ 29 ปี​ ชายคนดังกล่าวขึ้นรถบนสี่แยกถนนเมสันตัดกับถนนเชอร์รี​🛣️ในตัวเมืองซานฟรานซิสโก​ เขาขอให้ไปส่งที่​ แยกวอชิงตันตัดกับถนนเมเปิล​ เมื่อถึงสถานที่จุดหมาย​ พอลกลับขับเลย​ถนนเมเปิลไป​ 1ช่วงตึก​ และหยุดที่ถนนวอชิงตันตัดกับถนน
เชอร์รี่​🛣️ไม่มีใครรู้เหตุผล​ จากนั้นชายที่โดยสารมาก็ยิงที่หัวของพอล🎗️ ซึ่งเวลาตอนนั้นคือ​ 3ทุ่ม​55นาที....
โดยไม่ทันรู้ตัว​ ชายดังกล่าวถูกจ้องโดยวัยรุ่น3คน​ 👀 จากฝั่งตรงข้าม​ ทั้ง3ได้โทรแจ้งตำรวจ☎️ ว่าคนร้ายได้เช็ดรอยเลือด🩸และเดิน🚶‍♂️ไปทางเหนือของเพรสซิดิโอ​
ทางอีกฟากเจ้าหน้าที่ตำรวจ​ ดอน​ ฟูค​👨‍✈️ ก็ได้รับแจ้งเช่นกัน​ เขาและคู่หู​ เอริค ซีล์ม👨‍✈️ ​เขาพบเห็นชายผิวขาวที่เดินทางเท้าและก้าวขึ้นบันไดบ้านหลังหนึ่ง​ แต่กลับไม่ได้เอะใจ​ ซึ่งวิทยุตำรวจ📼
สั่งการให้สังเกตุชายผิวดำ​ เลยทำให้ตำรวจขับรถเลยชายต้องสงสัยคนนั้นไป.... 🚔
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ🚓เจ้าหน้าที่เพลลิเซตติว่าที่จริงแล้วเรากำลังมองหาชายผิวขาวไม่ใช่ชายผิวดำ ดอนจึงรู้ทันที​💡ว่าพวกเขาได้คลาดกับคนร้าย
ไปเสียแล้ว
ภาพสเก็ตช์ใบหน้า และรหัส+สัญลักษณ์ของฆาตกร🤔
มีผู้ต้องสงสัยหลักคือ​ 'อาร์เธอร์ ลีห์ อัลเลน'​เขาไม่เคยได้รับการพิสูจน์​ว่าเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมใดโดยตรง​🔎ลายนิ้วมือเขาก็ไม่ตรงกับที่เกิดเหตุ​ แต่ต่อมาอาร์เธอร์ก็ได้เสียชีวิตเพราะทุกข์​ทรมานจากโรคเบาหวาน​⚰️แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่แน่ชัดว่าจะใช่เขาจริงๆหรือไม่.... 🤔
นี่เป็นเพียงแค่บางเคสที่เหยื่อถูกฆาตกรรมโดย 'ฆาตกร​จักรราศี'​ เพราะยังมีอีกหลายคดีที่ยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัดว่าเป็นฝีมือของเขา​😣
โฆษณา