16 เม.ย. 2022 เวลา 05:59 • ความคิดเห็น
พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก บางพวกสอนได้ บางพวกสอนไม่ได้ เปรียบเสมือนบัว 4 เหล่า คือ พวกที่สติปัญญาเฉลียวฉลาด แถมยังเข้าใจในทางที่ถูกที่ควร, พวกที่สติปัญญาดี และเข้าใจในทางที่ถูกที่ควร, พวกที่สติปัญญาน้อย แต่เข้าใจในทางที่ถูกที่ควร และสุดท้ายคือ พวกที่ไร้สติปัญญา แถมยังเข้าใจในทางที่ไม่ถูกไม่ควร
 
เมื่อมองผ่านวรรณกรรมสามก๊กและกฎการแบ่งคน 4 ประเภทสำหรับผู้นำหรือผู้ปกครอง ในสมัยนาซีและฮิตเลอร์ ก็จะมีการแบ่งคน ออกเป็น 4 จำพวกด้วย คือ พวกที่ฉลาด แถมยังขยัน, พวกที่ฉลาด แต่ขี้เกียจ, พวกที่โง่เง่า แถมขี้เกียจ และสุดท้ายคือ พวกที่โง่เง่า แถมยังขยัน ซึ่งกลุ่มหลังสุดนี้องค์กรไม่ควรมอบหมายงาน เพราะรังแต่จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือ พวกที่ก้มหน้าก้มตาทำไปแบบโง่ๆ
1
เราคัดมาให้คุณได้ลองใคร่ครวญ และเราไม่ได้กำลังจะตัดสินใครนะคะ เพราะเราเองก็ไม่อาจทราบได้ว่า สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่คืออะไร ดังนั้นหากคุณอ่านแล้วรู้สึกไม่ถูกใจ คงต้องขออภัยนะคะ เราแค่อยากให้มุมมองตรงไปตรงมา ว่าไม่แปลกที่คนเรา มักคิดอะไรเข้าข้างตัวเองอยู่เสมอ หลายครั้งที่เรามักคิดว่า เรื่องที่เรากำลังทำอยู่เป็นเรื่องที่ดี ในขณะที่คนอื่นอาจตัดสินไปแล้วว่า "ทำไมจึงดันทุรัง โง่ดักดานได้ขนาดนั้น"
ตัวอย่างเช่น หากเราก้มหน้าก้มตาทำแต่งาน ได้เงินมา ก็ยอมให้เงินสามีเอาไปซื้อเหล้ากับแกล้มมากินที่บ้านทุกวัน โดยอ้างว่า สามีจะได้อยู่บ้านไม่ออกไปไหน ดีกว่าสามีจะออกนอกบ้านไปเที่ยวผู้หญิง และครอบครัวจะได้ไม่มีปัญหา ดูเป็นภรรยาที่แสนดีเหลือเกิน แต่เรากลับมองว่า การคิดแบบนี้คือการคิดแบบไม่ได้ใช้สติปัญญาเลยค่ะ และยังก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินเพื่อเอามาใช้อะไรแบบโง่ๆ อีกด้วย
โฆษณา