16 เม.ย. 2022 เวลา 12:35 • สุขภาพ
กลากเกลื้อน
.
🤯กลาก (ringworm) เป็นชื่อเรียกกลุ่มโรคซึ่งรอยโรคมีลักษณะเป็นวง ขอบสีแดงชัดเจน อาจมีขุยหรือสะเก็ดที่ขอบ ตรงกลางมักเกลี้ยง และมีอาการคัน
TCo "tinea corporis” กลากที่ลำตัว แขนและขา
TCr “tinea cruris” กลากที่ขาหนีบ รอบอวัยวะเพศและทวารหนัก​
TP​ “tinea pedis” กลากที่เท้าหรือโรคน้ำกัดเท้า (athlete's foot)
TU “tinea unguium” กลากที่เล็บ
“tinea capitis” กลากที่หนังศีรษะและเส้นผม,
กลากติดต่อได้ด้วยการสัมผัสโดยตรงจากผู้ป่วยหรือสัตว์เลี้ยงที่มีเชื้อรา หรือติดต่อโดยได้รับสปอร์ราผ่านสิ่งของหรือเครื่องใช้ เช่น เครื่องนุ่งหุ่ม ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน ที่ใช้ร่วมกัน สปอร์เจริญได้ดีในสิ่งแวดล้อมที่ชื้นจึงอาจสัมผัสสปอร์ราจากสิ่งแวดล้อม
😻เกลื้อน (tinea versicolor) เกิดจากเชื้อราในรูปยีสต์ ที่อยู่ในสกุล Malassezia เป็นเชื้อที่อาศัยในหนังกำพร้าอยู่แล้ว เจริญเติบโตโดยอาศัยไขมันที่ผิวหนังและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเป็นอาหาร พบบริเวณผิวที่ชื้นและมีต่อมไขมันมาก ไม่ว่าจะเป็นที่หน้า คอหรือลำตัว เชื้อราในรูปยีสต์ที่เจริญเป็นเส้นใย (hyphae) จะทำให้เกิดรอยโรคมีลักษณะเป็นวง ผิวหนังมีขุยละเอียด มักมีสีจางกว่าที่อื่น (เห็นเป็นวงขาว) แต่อาจพบผิวหนังมีสีเข้มขึ้นก็ได้ วงที่เกิดขึ้นมีหลายขนาด อยู่แยกกันหรือติดกันเป็นปื้น และอาจมีอาการคัน
ทั้งกลากและเกลื้อนไม่ใช่โรคที่เป็นอันตราย แต่สร้างความรำคาญ รบกวนความปกติสุขและความสวยงาม
.
💅ยาทารักษากลากและเกลื้อนจะทาวันละ 1 หรือ 2 ครั้ง ขึ้นกับแต่ละผลิตภัณฑ์
ในการทายาควรทาบาง ๆ ทั่วรอยโรคและทากว้างออกไปโดยรอบอีกราว 2 เซนติเมตร ส่วนระยะเวลาในการใช้ยานอกจากขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้ว ยังขึ้นกับชนิดของโรค​ บริเวณที่เป็นโรคและความรุนแรง โดยทั่วไปยาที่นำมาใช้เป็นยาที่หยุดการเจริญเติบโตและการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา
ในการรักษากลากที่ลำตัว แขน ขาและขาหนีบ รวมทั้งเกลื้อนใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
ส่วนกลากที่เท้า (โรคน้ำกัดเท้า) จะใช้เวลานานกว่านี้คือประมาณ 4-6 สัปดาห์
และหลังจากรอยโรคหายไปแล้วให้ทายาต่อไปอีกราว 2 สัปดาห์หรือนานกว่านี้ (ขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้และความรุนแรงของโรค) เพื่อกำจัดเชื้อราให้หมดและลดการกลับมาเป็นซ้ำ
สำหรับยารุ่นใหม่และยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราได้จะใช้เวลาสั้นกว่า รวมถึงการใช้ภายหลังรอยโรคหายแล้วซึ่งอาจลดเหลือเพียง 1 สัปดาห์​
⚠️ผลไม่พึงประสงค์ของยาทารักษากลากและเกลื้อนพบได้น้อย ไม่รุนแรง และเกิดตรงบริเวณที่ทายา เช่น อาการระคายผิว ผิวแห้ง ผิวแดง แสบร้อน คัน
ส่วนอาการที่รุนแรง เช่น ผิวหนังอักเสบจากการแพ้ยา (allergic contact dermatitis) ผื่นขึ้น ลมพิษ เกิดตุ่มพอง พบได้ยาก หากเกิดอาการที่รุนแรงเหล่านี้ไม่ควรใช้ยาชนิดนั้นอีก
🙏สำหรับยาต้านเชื้อราผสมสเตียรอยด์ใช้เพื่อลดอาการคันและลดการอักเสบ​ ควรใช้นานที่สุดไม่เกิน 7 วัน ภายหลังการอักเสบทุเลาแล้วควรใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มียาต้านเชื้อราอย่างเดียว การใช้ตำรับที่ผสมสเตียรอยด์ชนิดที่มีความแรงสูงอย่างไม่เหมาะสมและใช้เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทายาตรงบริเวณที่ผิวมีรอยพับซึ่งจะทำให้มียาปริมาณมากสะสมอยู่นาน
💊โดยทั่วไปกลากและเกลื้อนให้การตอบสนองดีต่อการรักษาด้วยยาต้านเชื้อราชนิดทาภายนอก ยกเว้นรายที่เป็นรุนแรง ครอบคลุมร่างกายเป็นบริเวณกว้าง หรือดื้อต่อการรักษาด้วยยาทาภายนอก อาจพิจารณาใช้ยาชนิดรับประทาน
🤹‍♂️นอกเหนือจากการใช้ยา ควรรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ดูแลให้ผิวแห้งไม่อับชื้น ใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น เครื่องนุ่งหุ่ม ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน และล้างมือให้สะอาดภายหลังสัมผัสสัตว์เลี้ยง
.
.
💢
เนื้อหา
ยาทาภายนอกรักษาโรคเชื้อรา : ยารักษากลากและเกลื้อน
.
บทความอื่น
POSTED 2022.04.16
โฆษณา