Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
nothing but movie
•
ติดตาม
17 เม.ย. 2022 เวลา 09:42 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
FANTASTIC BEASTS: THE SECRETS OF DUMBLEDORE
สัตว์ยังมหัศจรรย์ แต่หนังเสื่อมมนต์
ในหนังตัวอย่าง FANTASTIC BEASTS: THE SECRETS OF DUMBLEDORE ทำให้เกิดความรู้สึกทะแม่งๆ เมื่อไม่มีจอห์นนี่ เด็ปป์ และที่น่าตกใจคือแคทรีน วอเตอร์สตันผู้รับบทบททีน่ามือปราบมารจากอเมริกาไม่ปรากฏกายในหนังตัวอย่าง มีข่าวออกมาว่าหนังภาคนี้เน้นไปที่ความสัมพันธ์ของดัมเบลดอร์และกรินเดลวัลด์จนไม่มีที่ว่างให้นิวท์และทีน่า ขณะเดียวกันปัญหานอกจอของจอห์นนี่ เด็ปป์ก็เผ็ดร้อน รวมถึงตารางการถ่ายทำและกองถ่ายถูกเล่นงานจากโควิด 19 จนเกิดปัญหา และอีกสารพัดปัญหาที่ 2 ภาคแรกไม่เคยมีมาก่อน
FANTASTIC BEASTS สร้างขึ้นมาบนความตั้งใจที่ว่าสัตว์มหัศจรรย์จะมีทั้งหมดจำนวน 5 ภาคด้วยกัน ซึ่งหลังจากภาคที่ 1 เป็นการเกริ่นนำเรื่องที่เหมือนกับพยายามจับทางระหว่างเรื่องราวการต่อสู้ในโลกของเวทมนตร์ ที่มีกรินเดลวัลด์เป็นผู้นำพ่อมดฝั่งชั่วร้ายซึ่ง เจ เค โรว์ลิ่ง ได้เขียนถึงกรินเดลวัลด์ไว้ในหนังสือแฮรี พอตเตอร์อยู่แล้ว พอมาในภาคที่ 2 Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ตัวหนังเพิ่มระดับความตื่นเต้นสร้างความรู้สึกเหมือนเป็นหนังระทึกขวัญสยองขวัญตึงเครียด แล้วตัวหนังก็สร้างเงื่อนงำต่างๆของเนื้อเรื่องออกมาได้ดีมากๆ จนนำไปสู่บทสรุปที่ค่อนข้างเข้มข้นและชวนติดตาม
พอมาถึงภาค 3 FANTASTIC BEASTS: THE SECRETS OF DUMBLEDORE ซึ่งเป็นกลางเรื่องแล้วความรู้สึกที่ภาค 2 ไต่ระดับความน่าติดตามทำได้ดี กลับตกฮวบลงมาในภาคนี้ เหมือนกับว่าภาคนี้ดึงเรื่องราวลงมาให้ปูพื้นถึงพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างกรินเดลวัลด์และดัมเบลดอร์รวมไปถึงความสัมพันธ์ของสองพี่น้องตระกูลดัมเบลดอร์ ในขณะที่ตัวละครหลักจากภาคแรกอย่างนิวท์ สคาแมนเดอร์ ถูกลดบทบาทลงมาพอสมควร ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วเรื่องราวในภาคนี้มันคือเรื่องราวระหว่างดัมเบิลดอร์กับกรินเดลวัลด์จ มันจึงไม่มีที่ว่างมากนักให้ความสัมพันธ์ระหว่างนิวท์ สคาแมนเดอร์กับทีน่ามือปราบจากสหรัฐฯ ให้เล่นมากนัก แต่คู่ความสัมพันธ์ระหว่างเจคอป โควัลสกี้และควินนี โกลด์สไตน์ ชายช่างอบขนมปังกับสาวแม่มดผู้มีความสามารถอ่านจิตใจก็สามารถกลับมาทดแทนในฝั่งด้านที่เป็นด้านของโรแมนติกได้
จากภาคแรกเป็นต้นมา ผมคิดว่าเจ เค โรว์ลิ่ง สร้าง นิวท์ เจคอป และทีน่า ให้เป็นเหมือนภาคอวตารกลายๆของแฮร์รี รอน และเฮอร์ไมโอนี พอมาถูกลดความสำคัญแบบละทิ้งตัวละครที่มีบทบาทจากภาคแรกๆ ลงไปจากปัญหาในการถ่ายทำ ทำให้หนังภาคนี้มันอ่อนยวบลงมาบ้าง และปัญหาหลักๆ เลยคือการขาดจอนนี่ เด็ปป์ในบทกรินเดลวัลด์ หลังจากเขามีปัญหาครอบครัวเมื่อแพ้คดีการเสนอข่าจอห์นนี่ เด็ปป์ทำร้ายร่างกายภรรยา และสื่อมวลชนนำเสนอทำให้วอเนอร์ บราเธอร์สตัดสินใจเจรจาให้เขายอมลาออกจากหนังที่เริ่มถ่ายทำหนังไปบ้างแล้ว จอห์นนี่ เด็ปป์ยอมรับการลาออกและได้เงินชดเชยเป็นจำนวนตัวเลขในระดับ 8 หลัก
แมดส์ มิกเคลเซนถูกดึงมารับบทกรินเลวัลด์แทนมันจึงทำให้ตัวละครตัวนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จอห์นนี่ เด็ปป์ทำให้กรินเดลวัลด์เป็นเหมือนตัวร้ายผู้บ้าคลั่ง แต่มีจิตใจยากหยั่งลึกที่จะคาดเดา มีเสน่ห์ และเสริมตัวละครดัมเบลดอร์ที่จู๊ด ลอว์แสดงให้เข้าใจได้ว่าทำไมสองคนนี้จึงกลายมาเป็นเพื่อนที่รักกันมากๆ แต่พอเป็นแมดส์ มิกเคลเซนแล้ว เขาตีความบทกรินเดลวัลด์ไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งดีสำหรับแนวทางของเขาเองโดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับจอห์นนี่ เด็ปป์มากเกินไป ขาทำให้กรินเดลวัลด์ เป็นผู้ร้ายที่เราสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิต มีความเย็นเฉียบในจิตใจ ดูแล้วเป็นตัวร้ายที่น่ารังเกียจอย่างแท้จริง ในขณะที่จอห์นนี่ เด็ปป์จะไม่มีภาพในลักษณะนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชมจะยอมรับกันในแบบไหน แต่ผู้มาก่อนย่อมได้เปรียบอยู่แล้ว
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ตัวบทมีการแก้ไขบทสนทนาเดิมของดัมเบลดอร์และกรินเดลวัลด์ต่างไปจากเดิมที่แสดงความหมายแบบรักร่วมเพศแล้วทำให้ตัวละครทั้งคู่มีน้ำหนักที่น่าเชื่อถือ แต่พอเปลี่ยนมาเป็นแมดส์แล้ว บทที่แสดงความหมายรักร่วมเพศยังมีอยู่บ้าง แต่กลับไม่รู้สึกสนิทใจหากไม่ใช่จอห์นนี่ เด็ปป์ และจู๊ด ลอว์ ซึ่งจริงๆแล้วตอนแรกตัวเลือกสำหรับบทกรินเดลวัลด์นั้นคือโคลิน ฟาร์เรลที่เคยรับบทนี้จากภาคแรก แต่พอดีติดถ่ายทำหนัง The Batman
หนังภาค 3 นี้เหมือนพักเรื่องราวเอาไว้ก่อน แล้วมาปรับฐานเพื่อต่อยอดไปที่ภาค 4 และภาค 5 ในหนังภาคนี้มันจึงเหมือนเรื่องราวดำเนินไปไม่มาก จำกัดวงอยู่แค่ว่าความพยายามของกรินเดลวัลด์ที่จะขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของสมาคมผู้มีเวทมนตร์นานาชาติ หรือไม่ก็เป็นจุดเปลี่ยนว่าในภาค 4-5 อาจจะเปลี่ยนแปลงตัวนำจากนิวท์มาสู่ดัมเบลดอร์อยางเต็มตัว เพราะบททีน่า โกลด์สไตน์ที่รับโดยแคทรีน วอเตอร์สตัน มีบทบาทน้อยไปในภาคนี้ แล้วสร้างตัวละครศาสตราจารย์ฮิกส์ ที่เจสสิก้า วิลเลี่ยมแสดงมามีบทบาทแทน ซึ่งจริงๆแล้วควรจะเป็นทีน่ามากกว่า
โดยรวมแล้วจาก 3 ภาคนี้เราจะเห็นว่าภาคแรกคือการเกริ่นนำที่สร้างความรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของสัตว์ในโลกเวทมนตร์ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ภาคที่ 2 พาเรื่องราวกับไปสู่ความตึงเครียดสูงสุด ส่วนภาคนี้ไม่สามารถต่อยอดจากภาค 2 ได้ จนเหมือนกลับต้องมาปรับเรื่องใหม่อีกครั้ง จนเดาไม่ถูกว่าภาคต่อไปจะออกมาทางไหน
จึงเปรียบเสมือนกับว่าภาคนี้เป็นนกฟีนิกซ์ที่กำลังเผาผลาญตนเอง แต่จะฟื้นคืนชีพเหมือนนกฟีนิกซ์จริงๆ ได้ไหมต้องรอดูกันต่อไป เชื่อว่ารายได้ก็น่าจะยังดีอยู่เพราะมีแฟนประจำอยู่หนาแน่น แต่การฟื้นคืนชีพของนกฟีนิกซ์นั่นคือจะสร้างความพึงพอใจให้กับเหล่าแฟนเดนตายโลกเวทมนตร์กับอีก 2 ภาคที่เหลือได้อย่างไร เป็นโจทย์ที่ยากมาก
6/10
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย