18 เม.ย. 2022 เวลา 04:23 • ประวัติศาสตร์
#ผู้นำในสามก๊กเลือกคบคนแบบไหน
การหาทีมงานหรือหาที่ปรึกษามาร่วมงาน
ของผู้นำในสามก๊กอาจจะไม่เกณฑ์ตายตัว
ทว่าเหล่าผู้นำใช้หลักอะไร
ในการพิจารณาคนที่จะมาเป็นทีมงาน
#ซุนกวนชื่นชมบู๊มากกว่าบุ๋น
ซุนกวนลูกชายของซุนเกี๋ยน
น้องชายซุนเซ็กผู้วางรากฐานง่อก๊ก
เขาคือหนึ่งในฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ในยุคสามก๊ก
หลายคนอาจจะมองว่า เขาขึ้นสืบอำนาจต่อจากซุนเซ็กในวัยเพียง 19 ปีย่อมไม่มีประสบการณ์อะไรในด้านการปกครอง
แต่ลองตรองให้ดีก่อนนะครับ
ก่อนซุนเซ็กจะสิ้นลมได้พูดว่าอะไร
“ในการรบพุ่งขยายอาณาจักร เจ้าสู้พี่มิได้
แต่การปกครองผู้คนสร้างความสงบร่มเย็น
พี่สู้เจ้ามิได้”
ประเด็นคือซุนเซ็กทราบได้อย่างไร
ว่าซุนกวนคือนักปกครองที่ยอดเยี่ยม
คำตอบคือซุนเซ็กได้เคยให้ซุนกวนเป็นนายอำเภอตั้งแต่อายุ 17 ปี
จึงทำให้รู้ว่าน้องชายคนนี้ไม่ธรรมดา
เพราะเป็นคนประนีประนอม
เข้ากับคนอื่นได้ง่ายเป็นที่รักของประชาชน
ซุนเซ็กจึงมอบอนาคตของกังตั๋งให้ซุนกวนดูแล
สำหรับซุนกวนแล้วอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ไปสักหน่อยแต่ก็ไม่เกินความสามารถของเขา จิวยี่และเตียวเจียวในการบริหารราชการแผ่นดิน
จนกระทั่งโจโฉยกทัพลงใต้ด้วยไพร่พลหลายสิบหมื่นสามารถยึดเกงจิ๋วได้อย่างง่ายดาย
เตียวเจียวผู้มากบารมีประเมินสถานการณ์แล้วจึงขอให้ซุนกวนยอมจำนนต่อโจโฉเพื่อบ้านเมืองและประชาชน
คำว่ายอมจำนนไม่ได้หลุดจากปากเตียวเจียวแค่ครั้งเดียวแต่มันมีอีกหลายครั้ง ในทุกครั้งที่มีการประชุมในสภากังตั๋ง
ไม่เพียงแต่เตียวเจียว บรรดาขุนนางฝ่ายบุ๋นหรือฝ่ายพลเรือนก็ออกมากดดันซุนกวน
เพื่อให้ซุนกวนยอมจำนน
พฤติกรรมเหล่านี้สร้างความผิดหวังให้กับซุนกวนเป็นอย่างมากและจะถูกจดจำไปอีกนาน
ด้านขุนทหารแม้อยากจะรบ ปกป้องบ้านเมือง
แต่ก็ไม่มีแผนการอะไรมาเสนอให้มั่นใจว่า
รบแล้วจะชนะหรืออย่างน้อยก็ทำลายทัพศัตรู
ทุกคนมีแต่คำพูดว่ายอมตายเพื่อบ้านเมือง
ซึ่งฟังแล้วน่าประทับใจ
ที่เหล่าขุนทหารไม่ทิ้งสกุลซุนในยามวิกฤต
แต่ก็ดูแล้วยากจะพึ่งพาได้เพราะปราศจากแผนการในการทำศึก
โชคดีที่มีจิวยี่และโลซกมาช่วย
โน้มน้าวให้ทุกคนเห็นว่าศึกนี้อย่างไรก็ชนะ
มีการวิเคราะห์จุดตายของโจโฉอย่างชัดเจน
แสดงความองอาจและชัดเจนที่จะปกป้องอาณาจักรอย่างสุดกำลัง
ทำให้ซุนกวนและเหล่าขุนทหารรู้สึกฮึกเหิมและมั่นใจในการรบยุทธการเซ็กเพ็ก
จนกระทั่งสามารถชนะโจโได้สำเร็จ
ทำให้ซุนกวนมองเห็นความสำคัญของนักรบ
มากกว่าที่จะฟังคำพูดของเหล่าบัณฑิต
เพราะนักรบคือบุคลากรสำคัญที่จะทำให้ชาติพ้นภัยในยามวิกฤต
ไม่ใช่พวกบัณฑิตที่เอะอะอะไรก็ยอมจำนน
ซุนกวนจึงมีวีรกรรมมากมายในการยกย่องให้เกียรติทหารเช่น คารวะจิวท่ายด้วยจอกสุรา
การตามหาหมอที่เก่งกาจมาดูแลจิวยี่
การปรบรางวัลให้กำเหลง
การลงมาเป็นมือประสานความขัดแย้งให้กับเล่งทองและกำเหลง
การแต่งตั้งลิบอง ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
เขาไม่สนใจพวกฝ่ายบุ๋นหรือนักปราชญ์บัณฑิต
หากแต่ว่าซุนกวนลงไปให้รายละเอียดกับฝ่ายขุนทหารมากกว่า
เรื่องราวตอนนี้สอนเราว่า
1.ก่อนจะเลือกใครมาสานงานต่อควรจะฝึกฝนเขาให้มีความสามารถเสียก่อน
เหมือนที่ซุนเซ็กมอบหมายให้ซุนกวนปกครองอำเภอ
2.อยากให้ประชาชนรักผู้นำต้องทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข ไม่เบียดเบียนและเที่ยงธรรมนี่คือสิ่งที่ซุนเซ็กเห็นในตัวซุนกวน
3. วิกฤตจะทำให้เรารู้ว่าใครเป็นเช่นไรและใครที่จะไม่ทอดทิ้งเรา
4.ทุกวิกฤตจะทำให้เราเข้มแข็งและแข็งแกร่งมากขึ้น
5.อย่าทำให้เจ้านายผิดหวัง
เหมือนที่เตียวเจียวและขุนนางฝ่ายบุ๋นกดดันให้ซุนกวนยอมจำนน
6.ผู้นำที่ชาญฉลาดจะรู้จักบริหารคนอย่างเหมาะสม
แม้จะไม่พอใจพวกฝ่ายบุ๋นแต่ซุนกวนก็ไม่ได้ปลดใครออก ทุกคนยังทำงานตามหน้าที่
แต่ซุนกวนหันมาฟังฝ่ายบู๊มากกว่า
7.ผู้นำจำเป็นต้องเรียนรู้ศิลปในการผูกใจลูกน้องเหมือนที่ซุนกวนทำกับเหล่านายทหาร
#คิดถึงสามก๊กนึกถึงเปี่ยมศักดิ์
#เครดิตภาพ
ซีรีย์สามก๊ก 2010
โฆษณา