เอกลักษณ์ เสน่ห์ของ Spider man🕷️🕸️🕷️🕸️ทั้ง 3 เวอร์ชั่น
คุณชอบเวอร์ชั่นไหน?
รู้ไหมว่าแท้จริงแล้วซูเปอร์ฮีโร่ Spider-man ที่แต่งโดย Stan Lee นั้นถูกตั้งความหวังไว้เป็นเพียงแค่การ์ตูนคอมมิกคั่นเวลาที่นำเสนอแบบจบในตอนเฉยๆ แต่แล้วกลับผิดคาดเมื่อเสียงตอบรับดีเกินที่หวังเอาไว้ ทำให้ซูเปอร์ฮีโร่วัยทีนที่มาพร้อมกับชะตากรรมสุดรันทดอย่างการสูญเสียลุงและใช้ชีวิตจนๆ อยู่กับป้า กลายเป็นขวัญใจคนยุคนั้นสืบเนื่องเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ไอ้แมงมุมจึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งคาแร็กเตอร์ในจักรวาล Marvel ที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน จนกระทั่งเดินทางมาถึงรูปแบบของภาพยนตร์ Live Action ที่ทำมาแล้วหลายเวอร์ชั่นคนเล่น เสน่ห์ของสไปเดอร์แมนแต่ละภาคจึงมีความแตกต่างตามที่นักแสดงตีความคาแร็กเตอร์ ในแต่ละเวอร์ชั่นคับนั้นเราไปเริ่มโหนไยไปด้วยกันเลยคับ
เริ่มกันที่พี่ใหญ่ก่อนเลย
Tobey Maguire (2002, 2004, 2007, 2021)
แก่แต่เก๋า
โทบี้ แม็กไกวร์ เปิดจักรวาลสไปดี้เป็นคนที่สอง (คนแรกคือ Nicholas Hammond ในยุค 70 ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก เพราะคนยุคนั้นยังไม่อินกับการใส่ชุดฮีโร่จึงกลายเป็นเรื่องน่าขันไปแทน) โดยได้ Sam Raimi นั่งเก้าอี้ผู้กำกับ ตัวละคร ปีเตอร์ พาร์กเกอร์ ในเวอร์ชั่นนี้หยิบยืมมาจากยุคคอมมิกที่มีกลิ่นอายดราม่าชีวิตค่อนข้างเข้มข้นทั้งเรื่องทางบ้าน การเรียน ชีวิตรัก เพื่อน และการทำตัวเป็นฮีโร่ แม้ว่าคาแร็กเตอร์ของโทบี้จะไม่ได้ตรงตามคอมมิกเป๊ะๆ เพราะตั้งแต่เขามารับเล่นโทบี้เองก็อายุเกินเด็กมัธยมปลายไปมากโขแล้ว สำหรับไอ้หนุ่มแมงมุมเวอร์ชั่นนี้จะออกแนวทึ่มๆ ที่ชีวิตบังคับให้เขาต้องโตเร็วกว่าเด็กมัธยมปลายทั่วไป สีสันในหนังจึงดูเป็นแนวผู้ใหญ่มากกว่าวัยรุ่นกำลังใสๆ
ฉากในตำนาน
เราได้เห็นการเติบโตของปีเตอร์ผ่านทั้ง 3 ภาคในเวอร์ชั่นนี้ เขาเรียนรู้เรื่องการยอมรับตัวเองและความรับผิดชอบ เวอร์ชั่นนี้จึงถือเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของสไปดี้ที่แฟนๆ ทุกคนยอมรับในตัวตนมากที่สุด แม้ว่าจะไม่ค่อยตรงตามเนื้อเรื่องจริงเท่าไหร่ก็ตาม
Andrew Garfield (2012, 2014, 2021)
ใสๆวัยรุ่นชอบ
สไปดี้เวอร์ชั่นของแอนดรูว์นับว่าได้เสียงตอบรับค่อนข้างน้อยที่สุด เหตุเพราะสคริปต์ของหนังดันเอนเอียงความสนใจไปในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ มากกว่าเส้นเรื่องจริง แม้ผู้กำกับ Marc Webb จะโด่งดังเพราะส่งภาพยนตร์รักเรื่อง (500) Days of Summer เข้าดวงใจคอหนังไปหลายคน แต่พอมาจับทางภาพยนตร์แอ็กชั่นเข้าหน่อยกลายเป็นว่าพากันเกือบลงปากเหวที่ผลิตออกมาได้ 2 ภาคก็ต้องโบกมือลา ปีเตอร์ในเวอร์ชั่นนี้มีความกล้ามากกว่าคาแร็กเตอร์ในฉบับคอมมิก เขาออกแนวเนิร์ดมากกว่าทึ่ม เล่นสเกตบอร์ดอย่างกับพวกเด็กคูลๆ ออกโรงปกป้องเพื่อนยามโดนบูลลี่ และหยอดคำหวานใส่นางเอกเป็นว่าเล่น ซึ่งอย่างหลังมันทำให้ปีเตอร์ในภาคนี้ถูกป้ายห้อยคอให้เขากลายเป็นไอ้ต้าวที่คลั่งรัก Gwen Stacy ตลอดทั้งเรื่อง
หนังเลยไม่เป็นที่ถูกใจนัก นอกจากแฟนคลับที่จิ้นคู่พระนางที่ดันเกิดขึ้นนอกจอไปพร้อมกันในตอนนั้น
Tom Holland (2016 - 2021)
ร้ายเหมือนกันน่ะน้อง ทอม
เมื่อแฟรนไชส์สไปเดอร์แมนได้กลับมาสู่อ้อมอก Marvel อีกครั้งแม้เพียงชั่วครู่ แต่ก็นับว่าค่ายดึงซูเปอร์ฮีโร่ตัวนี้ให้กลับมาโลดแล่นในแสงสปอต์ไลต์ได้อีกรอบ และนับเป็นครั้งแรกที่ผู้ที่มารับบทปีเตอร์นั้นตรงตามคอมมิกแบบใกล้เคียงที่สุด เพราะทอมในช่วงวัยทีนสร้างเสน่ห์และถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ได้อย่างสมจริงสมจัง สไปดี้ในเวอร์ชั่นนี้คือความเป็นวัยรุ่นงกเงิ่นในแบบเด็กที่ยังไม่ประสาโลกมากนัก เพราะประสบการณ์ยังน้อย ความเดียงสาในการใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นธรรมดาไม่ได้โดดเด่น ชอบต่อเลโก้ ไม่ได้เนิร์ดจ๋าที่เรียนแต่หนังสือ แต่หัวดีและมีไหวพริบ ที่สำคัญคือเซนส์ของความว่องไวไม่อยู่กับที่ ความไม่หยุดนิ่งที่พล่ามพูดนั่นพูดนี่ไปเรื่อยราวกับเด็กได้ของเล่นใหม่อย่างไรอย่างนั้น
เป็นยังไงคับกับสไปเดอแมนทั้ง
3 รุ่น
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเวอชั่นไหน
ก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ของแต่ละสไปดี้ เราเชื่อว่าแต่ละคนต่างนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อแฟนทุกคนยุแล้ว
สุดท้าย คุณชอบเวอชั่นไหน?
ชอบกดไลค์กดติดตามเป็นกำลังใจให้ผมด้วยน่ะคับ
สามารค้อมเม้นติชมกันได้คับ
อยากให้ทำบล็อกเรื่องอะไรก็บอกใาได้คับขอกำลังใจจากเพื่อนๆน่ะคับ
จะได้มีบล็อกเกี่ยวกับหนังเพลงต่างประเทศมาให้ได้ติดตามคับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
