20 เม.ย. 2022 เวลา 00:56 • ยานยนต์
เรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า เมื่ออนาคตไล่ล่าคุณ
(บทความนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งทำนายอะไรไว้หลายอย่างมาก)
หลังจากที่จัดรายการ Auto Talk มาได้ปีกว่าๆ ที่ FM 96.5 MHz โดยในครั้งแรกที่รับคำเชิญจาก ผอ.คลื่น ก็บอกท่านไปว่า รายการรถยนต์ของผม คงจะไม่ค่อยเหมือนใคร เพราะผมจะเน้นไปที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ยานยนต์เทรนด์ใหม่ เน้นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในตอนนั้น ยังไม่มีใครเห็นชัดๆ ว่าจะมันจะเป็นจริงทางการตลาดในประเทศไทยได้เมื่อไหร่
ด้วยการที่ผมเองได้เคยทดสอบรถยนต์ไฟฟ้ามาหลายยี่ห้อแล้ว จึงค่อนข้างมีความมั่นใจว่า ด้วยเทคโนโลยีขณะนี้ และด้วยเทรนด์ของโลกในการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยมลพิษ ยังไงรถยนต์ไฟฟ้าต้องมาแน่นอน
ดร.เอกรินทร์ วาสนาส่ง 17 ก.ค. 2017
แต่ด้วยการที่ผมเองได้เคยทดสอบรถยนต์ไฟฟ้ามาหลายยี่ห้อแล้ว จึงค่อนข้างมีความมั่นใจว่า ด้วยเทคโนโลยีขณะนี้ และด้วยเทรนด์ของโลกในการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยมลพิษ ยังไงรถยนต์ไฟฟ้าต้องมาแน่นอน และคิดว่าน่าจะเร็วกว่าที่หลายๆคนคาด เมื่อสักสองสามปีที่แล้ว ผมเคยคุยเรื่งอรพยนต์ไฟฟ้ากับหลายๆคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันกว่า อีก 10 ปี ยังไม่รู้จะเป็นไปได้จริงไหม
ผมก็เลยยกตัวอย่าง การเปลี่ยนแปลงของกล้องฟิล์ม สู่กล้องดิจิตอลไป ว่าตอนนั้น ใครจะคิดว่าในไม่กี่ปี กล้องฟิล์มนี่แทบจะสูญพันธุ์ ไปจากตลาดกันเลยทีเดียว และช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านมันเร็วมาก จนหลายๆคนตั้งตัวไม่ทันด้วยซ้ำ มาถึงวันนี้ วันที่นโยบายหลายๆประเทศทั่วโลก ประกาศชัดแล้ว โดยเฉพาะในยุโรปหลายประเทศ ประกาศว่าจะเลิกใช้รถยนต์น้ำมัน ภายในปี 2030-2040 และจะไม่อนุญาตให้รถยนต์ใช้น้ำมันวิ่งในเมืองตั้งแต่ปี 2020 สิ่งเหล่านี้ น่าจะพอทำให้เราได้เห็นภาพชัดว่า โลกเขากำลังไปทางไหนกัน
ในประเทศเรา รัฐบาลโดยการนำของท่านนายกลุงตู่ ก็กล้าที่จะตบโต๊ะ ดันกฎหมายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าออกมา แม้จะทำได้ไม่เต็มสูบนัก เพราะคนที่ครองส่วนแบ่งการตลาดผลิตรถยนต์ของประเทศไทย ยังเป็นฐานการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์เป็นหลัก และภาษีแบตเตอรี่ก็ยังไม่ได้ลดมาเท่าที่ควรจะเป็น แต่สิ่งที่เห็นคือ มีบริษัทหลายบริษัท ทั้งยักษ์ใหญ่ อย่าง ปตท. ซึ่งใช้บริษัทลูก GPSC ลุยตลาดพลังงานทดแทนและ เตรียมตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ และยักษ์เล็ก อีกสองสามราย ที่ตอนนี้กำลังซุ่มก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ลิเทียม ในเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตลาดที่คาดหวังก็คือ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เริ่มจาก รถบัสไฟฟ้า ตามโครงการของรัฐบาลก่อน จากกนั้นก็คงก้าวไปสู่การผลิตแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้า ไฮบริดจ์ หรือ EV หลายๆแบรนด์ ที่ตอนนี้ก็มีแผนจะเข้ามาตั้งโรงงานผลิตในเมืองไทยแล้ว
แบรนด์น้องใหม่ อย่าง FOMM ประกาศเตรียมลงทุนตั้งโรงงานแล้ว หลังจากมีการแก้กฎหมายลดขนาดมอเตอร์ที่กำหนด ว่ารถยนต์ไฟฟ้ามอเตอร์ขนาดเล็กก็สามารถจดทะเบียนได้ ซึ่งก็คือเป็นการปลดล๊อก ให้ FOMM เกิดได้ในประเทศไทย และแว่วๆมา ว่า Nissan ก็เตรียมตั้งไลน์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และไฮบริดจ์ควบคู่กันไป (แต่ภาพยังไม่ชัด)​ เช่นกัน ค่าย Toyota ก็มีการประกาศชัดในระดับโลกกว่าเขาตั้งอีกแผนกมาเพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดย CEO มานั่งเป็นหัวโต๊ะให้ด้วย และแม้แต่ Honda ก็ประกาศร่วมมือกับ Hitachi ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และจะออกสู่ตลาดได้ปีหน้า! ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ Honda ก็ไปจับเอา Honda Clarity ที่เดิมเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Fuel Cell มาถอด Fuel Cell ออก แล้วขายเป็นรถไฟฟ้า โดยตัดราคาลงมาอีกเยอะ โดยจะขายภายในปีนี้! สำหรับ Honda Clarity EV
เป็นไงละครับ ตัดหน้ากันเห็นๆ ส่วนค่าย Nissan ก็ส่ง Nissan Leaf ตัวใหม่ 2018 ลงมาลุยตลาด กับระยะทางการวิ่งที่ไกลขึ้น แต่น่าแปลกใจที่ยังไม่มีแผนน้ำมาประกอบผลิตในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ราคาถูกลงเยอะ แต่ตามแผนจะผลิต Nissan Note e-power แทน
ค่าย Isuzu ก็ใช่เล่น จับมือกับ Fujitsu จะผลิตรถยนต์ และกระบะไฟฟ้าไฮบริดจ์ออกมาขายด้วย เอาละซิ ดูเหมือนค่ายญี่ปุ่นที่ตอนแรกดูเหมือนไม่ยอมขยับอะไร ปล่อยให้ ค่าย Tesla จากอเมริกาเดินหน้าลุย ตามมาด้วยยุโรป แต่ตอนนี้เหมือนยักษ์ตื่นแล้ว คงจำเป็นต้องตื่นถ้าไม่อยากตายแบบตอนที่ Kodak ล้มละลายเพราะเปลี่ยนจากกล้องฟิล์มเป็นกล้องดิจิตอล
Tesla จะส่ง Tesla Model 3 ออกขายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ส่วนค่าย เชฟวี่ ก็มีทั้ง Bolt, Volt ทำตลาดอยู่พักใหญ่และก็ได้การตอบรับทีดีเสียด้วย รัฐบาลสหรัฐเองก็มีเงินส่วนลดให้อีกต่างหาก ส่วนฝั่งยุโรป ไม่ว่าจะเป็น BMW , VW, Mercedes, Volvo, Renault, Citroen ต่างแปลงตัวเป็นไฮบริดจ์ปลั๊กอินมาพักใหญ่แล้ว และประกาศชัดว่าภายในปี 2018-2020 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าล้วนๆ ออกมาขายแน่นอน 100%
จากที่เคยพูดกันว่าอีก 10 ปี รถไฟฟ้าถึงจะทำตลาดได้จริงๆ ตอนนี้ผมว่า ท่านอาจคิดผิดไปแล้ว เพราะทุกวันนี้ ทุกคนหันมา Focus ที่ EV กันหมด ไม่เว้นแม้แต่ค่ายรถยนต์จากจีน หลายค่าย Geely, BYD, BAIC, Chery, Changan และอีกสารพัดค่าย ตอนนี้มีรถยนต์ไฟฟ้าออกมาขายวิ่งเกลือนถนนในประเทศจีนไปหมดแล้ว
แต่ใครที่อยู่เฉพาะในเมืองไทย และไม่ได้ศึกษาข้อมูล ก็เหมือนอยู่ใน Comfort Zone ของรถยนต์ใช้เครื่องยนต์กันอยู่ โดยไม่รู้ว่าโลกเขาไปไกลกันขนาดไหนแล้ว ยังไม่ห่วงเรื่องการจำกัดระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอนาคต ธุรกิจการทำ Battery Swop ก็น่าจะเข้ามาทดแทนการชาร์จ หรือปั๊มน้ำมัน เพราะแม้แต่ปตท.เองก็ยังประกาศจะตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ แบบ Quick Charge ให้ได้ภายในปีนี้ อย่างน้อย 20 แห่ง และจะกระจายต่อไป บริษัทมหาชนด้านไฟฟ้า พลังงานหลายแห่ง ก็เตรียมขาย Charging Station ให้กับคนทั่วไปเอาไปติดตั้งได้แล้ว แถมมีระบบเติมเงินแบบเดียวกับการเติมเงินโทรศัพท์มือถือด้วย
รู้กันรึยังครับเนี่ยะ พูดมาถึงตรงนี้ ผมว่า ปีกว่าๆ ที่ผมจัดรายการ Auto Talk มา ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เหมือนก้าวกระโดด ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก และได้เห็นก้าวเล็กๆ ของประเทศไทย ที่พึ่งเริ่ม แต่ก็ดีกว่าไม่เริ่มเสียเลย เพราะในหลายๆรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่เคยคิดหยิบเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาพูดเลย อาจเพราะหลายๆคนก็อยู่ในธุรกิจยานยนต์ที่เป็นเครื่องยนต์อยู่หรือไม่ อันนี้ไม่แน่ใจ แต่จากวันนี้ไปอีก 1 ปี ข้างหน้า ผมว่าเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นในโลก และอาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทยด้วย หวังอย่างนั้นนะครับ
ขอบคุณที่อ่านมาซะยืดยาว
ดร.เอกรินทร์ วาสนาส่ง
17 ก.ค. 2017
รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แข่งขันในรายการ Formular E
โฆษณา