20 เม.ย. 2022 เวลา 10:50 • ธุรกิจ
รู้จัก “มหาสาร” สเต๊กเฮาส์ที่เนื้อหอม จนต้องจองคิวกันข้ามเดือน
“มหาสาร (mahasan)” ร้านสเต๊กเฮาส์แบบไทย ๆ เป็นหนึ่งในร้านที่ขึ้นชื่อว่า จองยากที่สุดในเวลานี้
โดยทุกคนจะไม่สามารถวอล์กอิน แล้วไปนั่งทานในร้านได้แบบทันที และบางคนถึงกับต้องรอคิวกันข้ามเดือน ข้ามปีกันเลยทีเดียว
ทีนี้ หลายคนคงจะงง ๆ ว่า ร้านเนื้อก็มีอยู่มากมายทั่วประเทศ แต่ทำไมต้องแย่งกันจับจองร้านนี้กันด้วย
วันนี้ BrandCase จะสรุปเรื่องราวที่น่าสนใจของร้านนี้ให้ฟัง..
1
1. รับลูกค้าน้อย เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพได้คงที่
ร้านมหาสาร ก่อตั้งโดย คุณแบงค์-ณัฐพงศ์ ราชเล็ก ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ผู้ก่อตั้ง แต่ยังเป็นคนย่างเนื้อเองอีกด้วย
และร้านเนื้อสุดฮิตนี้ ก็เพิ่งเปิดมาได้เพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น
ในร้านจะมีโต๊ะประมาณ 12 โต๊ะ โดยรองรับลูกค้าได้รอบละ 50-70 คนต่อวันเท่านั้น
ซึ่งเหตุผลที่ร้านต้องการรับลูกค้าในจำนวนที่จำกัด ก็เพราะแต่ละเมนูล้วนต้องใช้กระบวนการเตรียมการที่ใช้เวลานาน และเพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพและรสชาติที่ดีได้
3
เช่น เมนูลิ้นวัวย่างจะต้องใช้กรรมวิธี Sous Vide ที่ใช้เวลานานถึง 24 ชั่วโมง
(Sous Vide หมายถึง วิธีการปรุงอาหารที่จะต้องนำวัตถุดิบไปใส่ในถุงสุญญากาศ แล้วนำไปผ่านความร้อนในอ่างน้ำหรืออุปกรณ์ไอน้ำที่อุณหภูมิคงที่ จนกว่าจะสุก)
1
ซึ่งเมนูลิ้นวัวย่าง ถือเป็นเมนูเรือธงของร้านมหาสารที่ทุกคนจะต้องสั่ง เพราะที่นี่สามารถเนรมิตลิ้นวัว เมนูสุดเหนียวเคี้ยวยาก ให้กลายเป็นของที่มีความนุ่มละมุนลิ้น ในทุกชิ้นที่ทาน
1
อีกทั้งการที่ร้านสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า ในแต่ละวัน แต่ละเดือน จะมีลูกค้าเข้ามาจำนวนเท่าไร ก็จะทำให้ทางร้าน สามารถเตรียมวัตถุดิบมาได้อย่างพอดี ซึ่งเป็นการลดต้นทุนของเสียที่อาจจะเกิดขึ้นอีกด้วย
ที่น่าสนใจก็คือ ทางร้านจะไม่รับจองโต๊ะจากช่องทางอื่น ๆ เลย เช่น ทักข้อความมาทางเพจเฟซบุ๊ก หรือโทรศัพท์ไปจอง
เพราะลูกค้าจะต้องจองผ่านเว็บไซต์เท่านั้น จากตอนแรกจะเปิดให้จองทุก ๆ 2-3 เดือน ต่อมาก็เริ่มทดลองเปิดให้จองแบบเดือนต่อเดือน
ซึ่งแน่นอนว่าการจองผ่านเว็บไซต์ จะเป็นการช่วยให้ร้านสามารถจัดตาราง และเก็บข้อมูลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น พูดง่าย ๆ ก็คือ ลดความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้น และทำให้ลูกค้าไม่ต้องเจอกับปัญหาการหลุดจองนั่นเอง
2. วางตำแหน่งตัวเองชัดเจนว่า มหาสารเป็นสเต๊กเนื้อไทย
หากพูดถึงสเต๊กเนื้อชั้นดี หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงร้านที่นำเข้าเนื้อจากฝั่งยุโรป หรือฝั่งสหรัฐอเมริกา แต่ร้านมหาสารกลับเลือกใช้เนื้อจากฟาร์มในประเทศไทยมาเสิร์ฟ
ซึ่งแน่นอนว่าการที่ร้านมหาสารไม่ใช้เนื้อนำเข้า ก็จะทำให้ทางร้านได้เนื้อในราคาที่ดีกว่า และฝั่งลูกค้าอย่างเรา ก็จะได้ทานเนื้อคุณภาพดี ในราคาที่เข้าถึงได้
และความเป็นไทยของร้านมหาสาร ก็ไม่ใช่แค่การใช้เนื้อจากฟาร์มในไทยเท่านั้น แต่ยังรังสรรค์เมนูให้มีความเป็นไทย เพื่อให้ถูกปากคนไทยด้วย
2
เช่น เมนูเนื้อขั้วตับ Hanger angus grass-fed ทางร้านจะหั่นมาเป็นชิ้นใหญ่ ให้เราทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว
หรือออกแบบเมนูเนื้อน่องแก้วลวกจิ้ม โดยจะมีน้ำจิ้มเป็นกระเทียมพริก ซึ่งเราก็มักจะไม่ค่อยได้เห็นร้านสเต๊กเฮาส์ที่ใช้เนื้อเทพ ๆ มาทานคู่กับน้ำจิ้มที่มีความแซ่บกันเท่าไรนัก
และการที่มหาสารนำเนื้อไทยมาทำสเต๊กแบบพรีเมียม ก็ทำให้ใครหลายคนได้เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเนื้อไทย โดยหลายคนที่ได้เข้ามาทานก็จะรู้สึกว่า เนื้อไทยอร่อยไม่แพ้เนื้อชาติอื่น ๆ เลย
2
ส่วนเรื่องการตกแต่งร้าน ก็จะมีกลิ่นอายความเป็นบ้านของคนไทย ที่ตกแต่งด้วยวัสดุ เฟอร์นิเจอร์แบบง่าย ๆ มีความสวยดูดี แต่ไม่ได้ดูแพงจนจับต้องยาก
1
ทำให้เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้าน ก็จะเกิดความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน หรือมาบ้านเพื่อน ทำให้ลูกค้ารู้สึกอบอุ่นมากขึ้น และอยากกลับมากับเพื่อน ๆ หรือครอบครัวบ่อย ๆ
ส่วนเรื่องกิมมิก “การจองยาก” ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่าทางร้านตั้งใจ หรือไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ อย่างไรก็ถือเป็นอีกหนึ่งการตลาดที่น่าสนใจ
เพราะเวลาที่เราได้ครอบครอง หรือได้เข้าถึงของที่ได้มายาก ๆ เราจะรู้สึกดีเป็นพิเศษ และสำหรับธุรกิจร้านอาหาร ยิ่งจองได้ยาก ก็ยิ่งกระตุ้นความอยากของหลาย ๆ คนได้
สุดท้ายนี้.. คำว่า “เนื้อหอม” อาจจะไม่ได้หมายความว่า ร้านเนื้อที่ชื่อว่ามหาสาร จะเป็นร้านเนื้อที่ดีที่สุดในประเทศไทย
แต่เพราะมหาสารเป็นร้านเนื้อที่มีคุณภาพ มีรสชาติที่ดี ในราคาที่เข้าถึงได้ จึงทำให้ร้านมหาสารกลายเป็นหนึ่งในร้านเนื้อ ที่เนื้อหอมที่สุดในเวลานี้..
References:
- กลุ่ม Facebook ชมรมคนรักเนื้อ
โฆษณา