" บาเลนเซีย vs อินเตอร์ งานนี้มีไล่ต่อย "
ความวุ่นวายชุลมุนท้ายเกมระหว่าง แอตเลติโก้ มาดริด กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นที่ฮือฮาเพราะมันเกิดขึ้นในฟุตบอลระดับสูงอย่างรอบน็อคเอาท์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ทุกวันนี้กล้องถ่ายทอดสดจับภาพได้ทุกมุม ซูเปอร์สโลว์โมชั่น และเผยแพร่กันไวมาก หาย้อนดูในอินเทอร์เน็ตได้แบบแทบจะเรียลไทม์
ไหนจะมีการนำ VAR มาใช้ เพื่อตรวจเช็กการทำฟาวล์ หรือการเล่นนอกเกมในจังหวะต่างๆ
องค์กรฟุตบอลต่างโดยเฉพาะ ฟีฟ่า และยูฟ่า ก็มีมาตรการเข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของความรุนแรงในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะระหว่างเกมหรือก่อน-หลังเกม
ผิดกับก่อนหน้านี้ ที่ย้อนไปเพียง 10 กว่าปี ยังมีเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายให้เห็นบ่อยครั้งกว่า และหนึ่งในเกมที่ถูกพูดถึง กลายเป็นข่าวใหญ่อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว ก็คือเกมระดับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบนี้แหละ
เกมนั้นเป็นเลกสองของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2006/07 ระหว่าง บาเลนเซีย กับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2007
อินเตอร์ ถูกยกให้เป็นต่อ ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ เป็นทีมที่มีเกมรุกอันตราย มีตัวพิเศษมากมายทัง หลุยส์ ฟิโก้, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ฮูลิโอ ครูซ, เอร์นาน เครสโป, อัลบาโร่ เรโคบา (น่าเสียดายที่ อาเดรียโน่ อยู่ในช่วงจิตใจย่ำแย่)
เลกแรกเล่นกันที่ ซาน ชิโร่ ผลออกมาเสมอ 2-2 โดยมาโดน ดาบิด ซิลบา ตีเสมอในนาทีที่ 86
ดังนั้นเลกสอง อินเตอร์ ควรต้องเล่นเพื่อชนะ เนื่องจาก บาเลนเซีย ได้เปรียบอเวย์โกล์ถึง 2 ประตู
กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส กุนซือบาเลนเซีย ในขณะนั้น อาศัยประสบการณ์ของนักเตะอย่าง โรแบร์โต้ อยาล่า, มิเกล อังกูโล่, การ์ลอส มาร์เชน่า, เฟร์นานโด มอริเอนเตส โดยมี ดาบิด บีย่า และ ดาบิด ซิลบา รวมถึง ราอูล อัลบิโอล เป็นพวกพลังหนุ่ม
น่าเสียดายที่ มันชินี่ ดูจะคิดมากไปสักหน่อย เพราะแม้จะมีแบ็กที่ขึ้นเกมรุกได้ดีอย่าง แม็กซ์เวลล์ และ ไมค่อน และข้างหน้าใช้ อิบราฮิโมวิช กับ เครสโป แต่แดนกลาง เขาเลือกความชัวร์มากเกินไป
โอลิวิเย่ร์ ดากูต์ โดนส่งลงมาเล่นร่วมกับ นิโกลัส บูร์ดิสโซ่ และ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ โดยให้ เดยัน สแตนโควิช เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกคนเดียว เขาดร็อป หลุยส์ ฟิโก้ ไว้เป็นสำรอง
เกมดำเนินไปโดยที่ทั้งสองฝ่ายทำประตูกันไม่ได้ พอเข้าท้ายเกมสถานการณ์ก็เริ่มเดือด นาทีที่ 90+2 เหลืออีก 30 วินาที ไมค่อน สาดยาวขึ้นมา ฮูลิโอ ครูซ กับ มาร์โก มาเตรัซซี่ แท็กทีมขึ้นโหม่งบอลกระแทกใส่ โรแบร์โต้ อยาล่า จนกระเด็น แถม มาเตรัซซี่ ยังตกลงมาทับใส่ การ์ลอส มาร์เชน่า เต็มๆ ผู้ตัดสินเป่าให้ฟาวล์แก่ บาเลนเซีย
มันเริ่มเดือดตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว และพอบาเลนเซีย ทำท่าจะเตะฟรีคิกเปิดเกม ผู้ตัดสิน โวล์ฟกัง ชตาร์ค ชาวเยอรมันก็เป่านกหวีดจบเกมทันที ไฟนั่ลสกอร์ 0-0 บาเลนเซียผ่านเข้ารอบ
ท่ามกลางความสะใจและดีใจของนักเตะบาเลนเซีย แต่ระเบิดปะทุกลางสนามด้วยคู่ของ นิโกลัส บูร์ดิสโซ่ และ การ์ลอส มาเชน่า ที่งัดกัน มาร์เชน่า เตะใส่ไปดอกนึงแล้วถอยออกมาทำท่ายั่วยุ บูร์ดิสโซ่ พุ่งตามจะไปเอาเรื่อง
ก็พอดีนักเตะทั้งสองทีมวิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อพยายามแยกทั้งคู่ และระงับสถานการณ์ที่อาจบานปลาย
แน่นอนเมื่อมีนักเตะมารวมตัวกันมากๆ ทั้งสองฝ่ายย่อมมีการกระทบกระทั่งกันคนโน้นกับคนนี้ คนนี้กับคนโน้น
มิเกล มอนเตยโร่ แบ็กขวาบาเลนเซีย พยายามลากตัว บูร์ดิสโซ่ ออกมาเพื่อสงบสติอารมณ์ไม่ให้ปะทะกับ มาร์เชน่า เพื่อนของเขา
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช วิ่งเข้ากลางวงเพื่อไม่ให้ทั้งสองฝ่ายจ้วงกันอีก
เวลานั้นเองที่ตัวเปิดโผล่มาเข้างาน หมอนี่คือ ดาบิด นาบาร์โร่ ปราการหลังของบาเลนเซีย
นาบาร์โร่ มีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมนี้ เขาไม่ได้ลงสนาม ยังใส่ชุดวอร์มอยู่เลย แต่พอมีจังหวะชุลมุน หมอนี่วิ่งอ้อมกลุ่มคนเข้ามาหา นิโกลัส บูร์ดิสโซ่ แล้วจ้วงหมัดใส่เต็มๆ โดยไม่มีใครได้ทันตั้งตัว
จ้วงหมัดเสร็จแล้ว พี่แกไม่ได้ยืนสู้หน้าแบบลูกผู้ชาย แต่สับขา วิ่งหนีออกจากเหตุการณ์ทันที
นักเตะอินเตอร์ที่อยู่ตรงนั้นเมื่อเห็น บูร์ดิสโซ่ โดนแอบต่อยโดยไม่ตั้งตัวก็เลือดขึ้นหน้า พากันวิ่งไล่กวด นาบาร์โร่ ที่สับตีนแตกเพื่อหนีเข้าไปยังข้างสนาม
ฮูลิโอ ครูซ เข้าใกล้เป็นคนแรก พุ่งสไลด์กะว่ารวบให้ล้มแล้วค่อยกระทืบ แต่วืดไป
อิบัน กอร์โดบา ที่ตามมาติดๆ ก็กระโดดเตะที่ขาแต่ด้วยความที่ กอร์โดบา ตัวเล็ก เลยเตะไม่ถึง
จังหวะนั้น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช สปีดตามมาติดๆ อีกเพียงอึดใจเดียวรับรองว่าทันถึงตัว นาบาร์โร่ แน่นอน แล้วถ้าลองเป็น ซลาตัน จับตัวได้ ไม่ต้องสืบเลยว่าสภาพจะเป็นยังไง
ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรกันแน่ อาจมีใครตะโกน หรือร้องเรียกอะไรสักอย่าง เสี้ยววินาทีนั้น อิบรา ก็หยุดชะงักแล้วหันไปมองด้านหลัง ทำให้ ดาบิด นาบาร์โร่ รอดตัวไปได้หวุดหวิด
ไมค่อน เป็นด่านสุดท้ายพยายามยกขาเตะใส่ นาบาร์โร่ แต่หมอนี่ก็ไวทายาท กระโดดหลบลูกเตะได้แบบเส้นยาแดง เฉี่ยวขาไปนิดเดียว
ซลาตัน พอหันซ้ายหันขวาไม่มีอะไรก็ก้มหน้าวิ่งไล่ล่า นาบาร์โร่ อีกครั้งแต่ไม่ทันแล้วเพราะหมอนี่วิ่งมาถึงข้างสนามมีพรรคพวกรีบพาเข้าห้องแต่งตัวไปอย่างไว
บูร์ดิสโซ่ ที่โดนแอบต่อยถึงกับกุมหน้าต้องให้คนมาดูอาการ
เหตุการณ์นี้ทำให้แม้แต่คนที่สงบนิ่งและปกติมีความเป็นสุภาพบุรุษอย่าง ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ยังโมโหฮึดฮัดจะเอาเรื่องให้ได้ ตามไปชี้หน้าด่าใส่ มาร์เชน่า ที่รีบวิ่งเข้าห้องแต่วตัวเช่นกัน
ฟรานเชสโก้ ตอลโด้ วันนั้นเป็นนายด่านสำรองของ อินเตอร์ ไม่พอใจมากเช่นกัน จะแหวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปคุยกับนักเตะบาเลนเซียให้ได้ โดยมี หลุยส์ ฟิโก้ กับ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ที่ยื้อยุดอยู่กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเช่นกัน
หลังจากเหตุการณ์สงบ และผ่านพ้นไป ดาบิด นาบาร์โร่ ก็ออกมาขอโทษกับการกระทำของตัวเอง และเขาได้ส่งข้อความไปขอโทษ นิโกลัส บูร์ดิสโซ่ ด้วยตัวเอง
ฝั่งของ บูร์ดิสโซ่ ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาไม่ติดใจคิดแค้นเคืองอะไรอีก
"สำหรับผมคดีมันจบไปแล้ว ผมให้อภัยนาบาร์โร่"
"ผมไม่ได้คุยกับเขาส่วนตัวหรอก แต่ผมได้ข้อความจากเขาทางโทรศัพท์กับคำอธิบายของเขา และผมตอบเขาไปว่าผมไม่ได้โกรธเขาและสิ่งต่างๆ จบลงตรงนี้ ไม่มีความแค้นอะไรอีก"
บทสรุปของความห้าวและพฤติกรรมรุนแรงซึ่งน่าละอายแบบนี้ แน่นอนว่าต้องโดนลงโทษ
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่ยูฟ่า ได้ตรวจสอบเหตุการณ์อย่างละเอียด ก็ตัดสินใจปรับเงิน มาร์เชน่า, บูร์ดิสโซ่ 2 คนที่เป็นชนวนเหตุ และ อิบัน กอร์โดบา กับ ไมค่อน ในข้อหากระทำการน่าละอาย
ส่วนพระเอก หรือผู้ร้ายของงานอย่าง ดาบิด นาบาร์โร่ โดนสั่งแบนจากเกมฟุตบอลไปทั้งสิ้น 7เดือน ก่อนจะลดเหลือ 6 เดือนในเวลาต่อมา..
รับชมคลิปประกอบบทความสุดมันส์ได้ที่ : http://ow.ly/GNBY30shvXC
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Facebook : www.facebook.com/cheerball
Twitter : www.twitter.com/cheerballth
Website : www.cheerball.com
Youtube : www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
