21 เม.ย. 2022 เวลา 12:14 • ความคิดเห็น
- การข่มขืนกระทำชำเรา มันมีอะไรที่มากกว่าแค่อำนาจ และบางครั้งการมีอำนาจก็ได้แปลว่าคนคนนั้นจะไปข่มขืนกระทำชำเราใครได้
- สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลกับตาตัวเอง หรือไม่รู้จักคนร้าย ไม่เคยตกเป็นเหยื่อ ก็อาจจะมองภาพได้ไม่ชัด
- ในชีวิตที่เคยรู้จักการข่มขืนหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่คนร้ายให้กำลังบังคับ ทั้งพวกที่มอมยา ทั้งเด็งจัญไรที่แอบลังหลับผู้ใหญ่ (เด็กจริง ๆ เด็กห้าขวบเอง) ผู้ชายที่เป็นเหยื่อก็ไม่มีแต่ผู้ใต้บังคับบัญชา
- ในสมัยก่อน เวลาทำสงคราม สิ่งที่จะเอามาจูงใจทหารได้ดีที่สุดก็คือรางวัลพวกนี้นี่แหละ แต่สำหรับกองทัพ ถ้าเปลี่ยนแม่ทัพ การกระทำของทหารก็เปลี่ยน แต่มันก็มีความแตกต่างกันไม่มาก ถ้าหากว่ารางเง่าของสังคมพืนฐานของคนมันไม่ได้เป็นไปตามแนวคิดของผู้นำแต่แรก หรืออาจจะเรียกว่าผู้นำคนนั้นแหกค่านิยมเก่าออกมา
- เช่น โจรสลัดหญิงจากจีน ching shin ความสำเร็จตามคำเล่าลือของนางนี่ น่าจะยิ่งใหญ่กว่าเคราดำหลายเท่า แล้วการปฏิบัตต่อผู้หญิงที่เป็นเชลยหรือลูกเรือของนาง ก็ได้บการคุ้มครองไม่ให้กลายเป็นทาสกามหรือถูกข่มขืน และหากโจรสลัดชายคนไหนอยากได้ผู้หญิงเป็นเมีย ก็ไปคุยตกลงกัน ถ้ายินยอมกันทั้งสองฝ่าย ผู้หญิงก็จะได้เป็นเมียโจรสลัด แล้วก็ได้รับความนับถือในฐานะของเมียโจรสลัดคนนึง
- แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นว่า ใครก็ตามรวมถึงผู้หญิงด้วยนั้น ถ้าพ้นจากสถานะของเชลยออกไปโดยไม่มีข้อผู้มันใด ๆ ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากกฏของนาง ก็มีโอกาสที่จะถูกฆ่าข่มขืนเช่นกัน
- เรื่องของ Ching Shin มันมีรายละเอียดที่ทำให้เราคิดได้หลายด้าน และไม่ว่าจะหยิบประเด็นไหนขึ้นมาส่อง มันก็ดูมีอะไรให้น่าคิดตามมาก ๆ เช่นการแหกทุกความเชื่อและความน่าจะเป็นในสมัยนั้น เช่นอะไร กฏที่คุ้มครองผู้น้อย และความเผด็จกรที่โหดจริง ชนิดที่เรียกว่าใครฝ่าฝืนก็ฆ่าทิ้งแบบไม่สอบสวนกันเลย
- เรามีคำถามมากมายผุดขึ้นตลอดในตอนที่ลองหาข้อมูลเรื่องนี้ ทั้งสงสัยว่านางจะรู้สึกยังไงที่กลายเป็นราชนีโจรสลัดที่คุมกองทัพที่ยิ่งใหญ่มาก ใหญ่สุดในทะเล ณ เวลานั้นเลยก็ว่าได้ ...
- แต่ว่า เรื่องของนางก็เป็นเรื่องในอดีต มันมีอะไรให้คิดตามได้ก็จริง แต่มันก็เป็นข้อมูลที่เอามาอ้างอิงกับเหตุการณ์ปัจจุบันได้ไม่มาก เพราะในปัจจุบันมันมีอะไรอีกเยอะมากที่ต้องคิดตาม และหลายคดีก็มีความแตกต่ากันออกไป
- ถ้าจัดลำดับความร้ายแรงและชั่วร้ายที่สุดของการล่วงละเมิดทางเพศ นั้นคือการแอบข่มขืน เลวร้ายสุดก็คนในครอบครัว เครือญาติ เพราะคดีพวกนี้ ทำร้ายเหยือมากที่สุด เพราะมันโอกาสน้อยที่จะมีการดำเนินคดี ครอบครัวเป็นทุกสาหัสแน่นอน แต่... ถ้าครอบครัวเสือกเข้าข้างคนร้าย ชีวิตเหยือคือจบกัน เพราะเหยื่อจะกลายเป็นคนผิดทันที อนาคตเหยื่อนี่แทบดับไปเลย ต่อให้เก่งเทพแค่ไหน เจอครอบครังจัญไรแบบนี้ก็ไม่เกิด ...
- เรื่องร้ายแรงต่อมา ก็คือการข่มขืนคนนอก ทุกรูปแบบคือเหี้ยทั้งนั้น แต่สังคมคนนอกมันก็มีขอบเขตการมากดทับเหยื่ออยู่ในระดับหนึ่ง เช่น นักการเมือคนนั้นน่ะ ที่ใหญ่โตฉิบหายเลย และมีแนวโน้มว่าจะพ้นทุกประการด้วย
- ถามว่ามันมั้ย คนอยากให้คนใหญ่คนโตคนนั้นน่ะ ตายห่าไปซะ เราก็บอกเลยว่ามี และคงไม่ใช่แค่เหยื่อหรอกที่อยากให้เขาตายซะ
- การอยากเห็นความฉิบหายหรือแม้แต่ความตายของคนที่เราเกลียดมาก ๆ มันเป็นสิ่งที่มนุษย์ก็เป็นกันทั้งนั้น มันมีใครที่อยากเห็นคนที่เราเกียดแบบสุดใจได้ดิบได้ดีมั้ยละ ? .. แล้วอะไรจะทำให้คนเกลียดและโกรธแค้นได้มากเท่ากับการข่มขืนกระทำชำเรา ..? เพราะฉะนั้น มันเลยไม่น่าแปลกใจที่มีคนออกมาเรียกร้องการประหาร หรือให้ตัดหำมันซะ หรือฉีดให้ฟ่อ ... มันคือความโกรธแค้น
- หลายคนก็ถามว่า ประหารคนที่ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นไปแล้วเนี่ย ชีวิตเหยื่อจะดีขึ้นมั้ย เราก็บอกเลยว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะดีขึ้น เพราะคนร้ายแม่งก็มักจะไปรวบรวมพรรคพวกมากดชีวิตเหยื่อ ถ้าคนร้ายตาย สังคมที่กดทับเหยื่ออยู่ก็มีโอกาสพังทลาย แล้วมันจะเป็นการตัดต้นตอของคนที่จะไปแพร่ค่านิยมเน่า ๆ ได้ด้วย ... อันนี้เป็นเพียงแค่มุมมองหนึ่งเท่านั้นนะ
- อีกมุมมองหนึ่งที่โลกสวยหน่อย คือ ให้อภัยกันนะ ... ถามเฉพาะเหยื่อเลยว่า ได้มั้ย.? แต่การจะให้อภัยแบบสมบูรณ์ได้ มันก็ต้องมีสองอย่าง 1 คนร้ายสำนึกผิดจริง 2 ขอโทษขอขมาจากใจจริง ไม่ไปบอกให้เหยื่อต้องให้อภัยอย่างเดียว มันข้ามขันตอนไป มันไม่ควรที่จะไปชี้หน้าเหยื่อว่ามึงต้องให้อภัยเขา แต่มันต้องชี้หน้าคนร้ายว่ามึงทำผิด !!
- การขอโทษ เป็นสิทธิ์ของคนร้ายที่สำนึกผิดสามารถทำได้ แต่การให้อภัยเป็นเรื่องของเหยื่อ ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น ไม่ใช่เรื่องของใครอื่นทั้งนั้น มันเป็นสิทธิ์ของเหยื่อเท่านั้นที่จะได้เลือกว่าจะให้อภัยหรือไม่ ....
- ที่สำคัญอีกอย่าง แค่ทำท่าสำนึกผิดอย่างเดียวไม่ได้นะ เพราะแค่นั้นมันตอแหล มันจะเป็นการแสดงที่บอกว่า ฉันสำนึกผิดแล้ว แล้วมันก็กลับเข้าสังคมไปหาทางกดชีวิตเหยื่อด้วยวิธีอื่น แบบไม่ให้ใครรู้ และดูไม่น่าเกลียด มันจะทำให้เหยื่อดูแย่ที่สุด เลวที่สุด โง่ที่สุด เพื่อที่ตัวมันเองจะได้ดูดีขึ้น ให้สังคมช่วยกันกดชีวิตเหยื่อ แล้วพื้นที่ในสังคมของตัวมันก็จะมากขึ้น ... รูปแบบนี้คือกระบวนการล้างตัวที่ชั่วร้ายที่สุดที่เราเคยเห็น
- แรก ๆ ที่เรามาขุดคุ้ยเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ เราก็ยังเคยคิดว่าการประหารมันแรงไปรึเปล่า แต่พอเวลาผ่านไป แล้วได้รู้จักทั้งเหยื่อและทั้งไอ้พวกคนร้ายเหี้ยนี่เยอะเข้า ... เราเองก็ ... นะ พวกห่านี่ ... ตายซะ ...
- เพราะว่า คนร้ายข่มขืน มันมักจะมีการเข้าพวก ถ้าจับได้คนนึงแล้วตั้งใจตามต่อ มึงจะเจออีกเป็นร้อย แล้วมึงก็จะเจอคนดีหัวอ่อนที่ถูกดึงมาเป็นเกราะให้คนพวกนี้ด้วย ปล่อยไว้นานเข้าก็อาจจะโดนปั่นเข้าพวก โดนโยนขี้ใส่ให้กลายเป็นแพะ ... อะไรอีกมากมาย มันเป็นปัญหาทับซ้อนกันเยอะ
ก็...แบบนี้แหละ
- ไอ้เป้าหมายสวย ๆ ที่เหยื่อทั้งหลายต้องการ สิ่งที่ทำให้เหยื่อพอใจมากที่สุดและดีที่สุดก็คือ ชีวิตเหยื่อต้องดี
- หลายครั้งที่แนวคิดนี้ของเรา มันพาให้เราคิดว่า ถ้าจะให้เกิดความยุติธรรมขึ้นในโลกของเหยื่อได้ดีที่สุด อำนาจตรงนั้นมันต้องเป็นของผู้หญิง ... เพราะในประวัติศาสตร์ที่ชายมีอำนาจ ส่วนมากก็... แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ต้องไม่ได้มาจากการสนับสนุนของผู้ชายที่มีอำนาจ
- แต่ลองมาคิดดูอีกที ผู้หญิงที่จะขึ้นมมารับภาระตรงนี้ ถ้ามาในลักษณะนี้ล่ะก็ ... คงมาแบกภาระแบบเต็มตัว ไม่น่าจะมีใครอยากมาหรอก เพราะมันคงไม่มีค่าตอบแทนอะไรที่คุ้มค่า จะโดนคนมีอำนาจเล่นงานเอาอีก แล้วก็คงโดนด่าเละเทะ แล้วก็คงจะเจอปัญหาอีกมหาศาล แค่คิดตามก็เหนือยแล้ว ...
- แล้วนอกจากนี้ก็ ... ยังมีเรื่องของการทำให้ชีวิตคนดีขึ้นอีก (ไม่ใช่แค่ชีวิตเหยื่อ) แล้วปัญหาในประเทศนี้มันก็ไม่ได้น้อย จิ้มไปที่เรื่องการศึกษาก็มีปัญหาให้เขียนออกมาได้เป็นเล่มแล้ว ปัญหาแรงงานอีกเล่มนึง ปัญหาโครงสร้างทางเศษฐกิจอีก ปัญหาระบบข้าราชการ แล้วก็เรื่ององค์กรทั้งหลาย แค่นี้ก็ได้ 5 เล่มแล้ว
- เอาล่ะ จบก่อนดีกว่า ขีเกียจตรวจทำผิดด้วยสิ ... เอาเป็นว่าก็อ่านแล้วทำความเข้าใจเอาเองแล้วกันค่ะ ไปละ
โฆษณา