21 เม.ย. 2022 เวลา 16:34 • หนังสือ
เมื่อมองย้อนกลับไป และนับไล่เรียงรีวิวที่ผมเขียนถึงนิยายเรื่องนั้นเรื่องนี้แล้ว ภาคินัย น่าจะเป็นนักเขียนไม่กี่คนที่ผมหยิบนิยายของเขามารีวิวบ่อยกว่านักเขียนท่านอื่น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะผมมีนิสัยชอบอ่านเรื่องสยองขวัญ และนักเขียนนิยายแนวสยองขวัญในบ้านเรานั้น มีไม่มากเท่าไรนัก
Helliday ศพสันต์วันหยุด ไม่ใช่นิยายใหม่ของภาคินัย หากแต่เป็นนิยายเก่าที่ผมไปหาซื้อมาช่วงงานหนังสือที่จัดที่สถานีกลางบางซื่อเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาด้วยเพราะเห็นว่าชื่อเรื่องน่าจะโยงใยกับวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ และเผื่อถ้าไม่ขาดตกบกพร่องอะไร อาจจะมีรีวิวที่เข้ากันกับเทศกาลพอดิบพอดี (ซึ่งก็ไม่แน่ใจนักหรอกครับว่าจะสามารถผลิตรีวิวออกมาทันเวลาไหม ฮ่าๆๆ)
Helliday ศพสันต์วันหยุด เล่าเรื่องของแพทริเซีย ที่เดินทางกลับบ้านเกิดของวิลล์ แฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหากันได้ไม่นาน ในช่วงวันหยุด ทว่าบรรยากาศในเมือง ปฏิสัมพันธ์ของผู้คนรอบตัวของวิลล์ที่เหมือนไม่ยินดียินร้ายที่หล่อนเดินทางมากับเขา บางคนยังพูดคำแปลกๆ ที่ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดอีกต่างหาก โดยเฉพาะป้าซู เพื่อนบ้านที่วันดีคืนดีก็ลุกขึ้นมาเชือดคอไก่ กินเลือดสดๆ อีกทั้งป่าสนระโยงระยางที่ให้อารมณ์ทั้งสวยงามและน่ากลัวในคราวเดียวกัน แพทริเซียไม่แน่ใจว่าหล่อนคิดผิดไหมที่ตามชายหนุ่มที่เพิ่งรู้จักกันมา แต่จะถูกหรือผิด สิ่งเดียวที่หล่อนทำได้ก็คือการเอาตัวรอดจากที่นี่ ก่อนที่วันหยุดนี้ของหล่อนจะจบลงด้วยความตาย
เห็นโปรยปกบอกเล่าเก้าสิบว่าภาคินัยตั้งใจเขียนนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องฝรั่ง มีตัวละครที่เป็นฝรั่ง และโลเกขั่นอยู่ในต่างประเทศเพื่อให้อารมณ์และรูปรอยของความสยองที่แปลกไปจากเดิม และดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ ภาคินัยจะเคยเขียนนิยายในรูปรอยเดียวกันนี้และได้ผลตอบรับที่ดี
แต่คำว่าดี อาจใช้ไม่ได้สำหรับทุกคน
สำหรับผม ผมกลับรู้สึกว่าการเปลี่ยนโลเกชั่น เปลี่ยนชื่อตัวละคร เปลี่ยนเซ็ตติ้งให้ไปอยู่ในต่างประเทศนั้น ควรเปลี่ยนให้หมดจดไปเลย แต่เท่าที่ได้อ่านและสัมผัสได้นั้น Helliday ศพสันต์วันหยุด เปลี่ยนแค่เท่าที่เปลี่ยนเพื่อให้ได้เรื่องราวใหม่ที่เป็นเรื่องฝรั่ง แต่กลิ่นไอทั้งหมดในเรื่อง วิธีการเล่า และแม้กระทั่งบทสนทนาต่างๆ นั้น ยังเป็นรูปรอยเดิม ไม่มีกลิ่นนมเนยให้ได้รู้สึกเลย พูดให้ง่ายกว่านั้น หากเปลี่ยนชื่อตัวละครทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แพทริเซีย วิลล์ ซู ลีเดีย ฯลฯ ให้เป็นชื่อไทย เปลี่ยนป่าสนในบรรยากาศแบบบ้านป่าเมืองเถื่อนของฝรั่งเป็นต่างจังหวัดแบบไกลปืนเที่ยงนั้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างกัน
ฉากที่ผมหัวเราะก๊ากออกมาเลยคือฉากที่ป้าซูฆ่าไก่ และกินเลือด ทำให้ผมอดนึกถึงผีปอบไม่ได้ อย่างที่บอกว่าหากเปลี่ยนโลเกชั่นไปเป็นต่างจังหวัด เรื่องนี้จะเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่บูชาผีปอบก็ยังได้
การอ่านนิยายของภาคินัยมาหลายเรื่องทำให้ผมจับแนวทางการเขียนของนักเขียนคนนี้ได้ ข้อดีของภาคินัยคือการบรรยายเรื่องที่ดึงให้คนอ่านเข้าไปมีส่วนร่วมอยู่อย่างสม่ำเสมอ และการหักมุมที่เป็นพรสวรรค์ของนักเขียนโดยเฉพาะ งานของภาคินัยมักจะหักมุมแล้วหักมุมอีกจนคนอ่านหัวหมุน ซึ่งจะว่าไปแล้ว ข้อดีนี้ก็เป็นข้อเสียไปได้ด้วยเช่นกันเมื่ออ่านงานของเขามากๆ เข้า
สำหรับผม การบรรยายแบบดึงให้คนอ่านเข้าไปมีส่วนร่วมนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่หากบรรยายแล้วเกริ่นนำถึงสิ่งที่คนอ่านอาจได้เจอบ่อยเช้า ความสนุก ลุ้น และตื่นเต้นจะลดลง ผมสังเกตว่าช่วงของการบรรยายของภาคินัยมักจะจบด้วยการทิ้ง hint หรือลู่ทางบางอย่างให้คนอ่านเกาะติดกับเรื่อง เช่น “พักผ่อนให้มาก เพราะต่อไปนี้เวลาพักผ่อนอาจคือเวลาในนรก” (หน้า 42) เป็นต้น ซึ่งพออ่านแบบนี้บ่อยเข้า อารมณ์ที่จะลุ้นก็จะหายไปเพราะเหมือนแอบรู้ไปแล้วว่าจะเกิดอะไรกับตัวละคร เช่นเดียวกันกับการหักมุมที่ผมรู้สึกว่าพอมันหักมุมบ่อยเกินไป เรื่องมันเลยวิ่งวนไม่หยุดหย่อน ความสะใจสาสมใจที่ได้อ่าน ที่ได้รับรู้ชะตากรรมของตัวละครเลยจืดจางตามไปด้วย
ถึงจะรู้สึกว่าไม่เป็นฝรั่ง และเรื่องมันซ้ำๆ ใช้วิธีการเดิมๆ (ที่สุดท้ายก็จะถูกเรียกว่าลายเซ็นของคนเขียน) บ่อยเกินไป แต่ Helliday ศพสันต์วันหยุดก็มีประเด็นที่พูดถึงเรื่องปีศาจในคราบของคนใกล้ตัว ที่สุดท้ายแล้วน่ากลัวกว่าปีศาจที่เป็นเรื่องเล่าในตำนานที่ได้ยินได้ฟังกันมาเสียอีก ทำให้ผมอดนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Fresh ที่เพิ่งได้ดูไม่นานนี้ ที่เล่าถึงหญิงสาวซึ่งตกหลุมรักชายหนุ่มที่รู้จักกันได้ไม่นาน ก่อนจะพบว่าเขาเป็นคนโรคจิตที่จับผู้หญิงไปกักขัง และจับพวกหล่อนแล่ชิ้นเนื้อไว้ขาย และไว้กินเอง ก็เหมือนที่เพลงๆ หนึ่งว่าไว้น่ะแหละครับ ‘สุดท้ายคนที่ไว้ใจ ร้ายที่สุด’
#ReadingRoom # Hellidayศพสันต์วันหยุด #ภาคินัย #Freshmovie
โฆษณา