22 เม.ย. 2022 เวลา 11:01 • ประวัติศาสตร์
“อิชิคาวะ โกเอมง (Ishikawa Goemon)” จอมโจรญี่ปุ่นผู้ถูกประหารด้วยการ “ต้มทั้งเป็น”
1
ภาพที่เห็นในต้นโพสต์ คือภาพของชายผู้หนึ่ง กำลังชูลูกชายของตนเหนือศีรษะ ในขณะที่ตนกำลังถูกต้มทั้งเป็น
ภาพนี้เป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวของจอมโจรญี่ปุ่นที่มีนามว่า “อิชิคาวะ โกเอมง (Ishikawa Goemon)” ผู้เป็นจอมโจรในญี่ปุ่นเมื่อศตวรรษที่ 16
อิชิคาวะได้ชื่อว่าเป็นเหมือน “โรบิน ฮูด (Robin Hood)” แห่งประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เนื่องจากเขามักจะปล้นสมบัติของคนรวย และนำมาแจกจ่ายให้คนยากจน
อิชิคาวะ โกเอมง (Ishikawa Goemon)
แต่ภายหลังจากความพยายามลอบสังหาร “โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi)” ขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของญี่ปุ่น เกิดล้มเหลว ทำให้อิชิคาวะถูกทางการจับกุม และถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการต้มในน้ำเดือด โดยสองพ่อลูกก็ขาดใจตายจากการถูกต้มทั้งเป็น
2
เรื่องราวของอิชิคาวะนั้นมีการบันทึกไว้หลากหลาย โดยบันทึกฉบับหนึ่ง กล่าวว่าเขาเกิดในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยในเวลานั้น ญี่ปุ่นอยู่ใต้อำนาจของรัฐบาลโชกุนอาชิคางะ
บันทึกบางฉบับ กล่าวว่าเขาเกิดมาในตระกูลซามูไร ทำหน้าที่รับใช้ตระกูลมิโยชิ (Miyoshi) ซึ่งเป็นใหญ่ในแถบอิงะ
ต่อมาเมื่อมีอายุได้ 15 ปี พ่อของอิชิคาวะก็ได้ถูกคนของรัฐบาลอาชิคางะสังหาร ทำให้อิชิคาวะสาบานว่าจะต้องแก้แค้นแทนผู้เป็นพ่อ และได้เข้าฝึกฝนวิชานินจาของอิงะ ภายใต้การสั่งสอนของ “โมโมจิ ซันดายุ (Momochi Sandayu)” ผู้นำสำนักนินจาในอิงะ
1
โมโมจิ ซันดายุ (Momochi Sandayu)
แต่ในระหว่างเรียนวิชานินจา เขาดันไปลักลอบมีความสัมพันธ์กับเมียน้อยของอาจารย์ และเมื่ออาจารย์ทราบเรื่อง เขาจึงต้องหนีออกจากสำนัก โดยได้ขโมยดาบที่มีค่าของอาจารย์ไปด้วย
1
จากนั้น อิชิคาวะก็ไปยังเกียวโต และได้ตั้งตัวเป็นโจร สร้างขุมโจรของตน ออกปล้นเมือง
ขุมโจรของอิชิคาวะจะทำการปล้นในยามค่ำคืน และปลอมตัวเป็นพ่อค้าในเวลากลางวัน เพื่อไม่ให้คนสงสัยและเล็งเหยื่อรายต่อไป
ขุมโจรของอิชิคาวะจะปล้นเหยื่อที่มีฐานะร่ำรวย และเพื่อไม่ให้ถูกทางการจับได้ ก็จะนำของที่ปล้นได้ไปให้ผู้คน เพื่อให้ทางการสับสน และตามจับพวกตนได้ยาก
1
การที่อิชิคาวะนำของที่ปล้นได้บางส่วนไปให้ผู้คน ทำให้เหล่าคนยากจนยกย่องเขา และทำให้เขาเป็นเหมือนโรบิน ฮูด
สำหรับจุดจบของอิชิคาวะนั้น ก็มีบันทึกไว้หลายแบบ โดยบันทึกฉบับหนึ่ง กล่าวว่าผู้ติดตามอิชิคาวะได้ถูกจับ และยอมสารภาพ เปิดเผยชื่อหัวหน้าของตน
เมื่อทางการทราบ อิชิคาวะจึงถูกจับ
บันทึกบางฉบับก็กล่าวว่าอิชิคาวะได้บุกเข้าไปในบ้านของ “โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi)” ซึ่งมีอิทธิพลกว้างขวาง โดยเขาอาจจะต้องการขโมยของ หรืออาจจะต้องการสังหารโทโยโตมิ
มีเรื่องเล่าว่าโทโยโตมินั้นมีกระถางธูปวิเศษ สามารถจับได้ว่าใครแอบเข้ามาในห้อง
1
โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi)
เมื่ออิชิคาวะบุกเข้ามาในห้องของโทโยโตมิ กระถางธูปก็ได้ส่งสัญญาณเตือนทหารยาม ทำให้อิชิคาวะถูกจับได้ในที่สุด
1
อิชิคาวะถูกตัดสินให้ประหารด้วยการต้มทั้งเป็นในหม้อขนาดใหญ่ ส่วนผู้ติดตามคนอื่นๆ ก็ถูกประหารเช่นกัน
อิชิคาวะถูกจับใส่หม้อพร้อมกับบุตรชาย โดยชะตากรรมของบุตรชายก็ไม่แน่ชัด บางบันทึกก็ว่าตาย บางบันทึกก็ว่ารอด
บันทึกฉบับหนึ่งกล่าวว่าอิชิคาวะได้กดบุตรชายลงใต้ก้นหม้อเพื่อจะให้บุตรชายเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว จากนั้น เขาก็ยกร่างบุตรชายขึ้นเหนือศีรษะ จนกระทั่งทั้งคู่เสียชีวิต
3
สำหรับการประหารด้วยการต้มทั้งเป็นนั้น ก็ไม่ได้มีแค่ที่ญี่ปุ่น
ในรัชสมัยของ “พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII)” ในศตวรรษที่ 16 การวางยาพิษถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง มีโทษหนัก
โทษสำหรับผู้ที่วางยาพิษ ก็คือต้มทั้งเป็น
การประหารด้วยการต้มทั้งเป็นนั้น คือการนำนักโทษไปต้มด้วยน้ำร้อน ซึ่งน้ำร้อนนั้น ก็อาจจะเป็นน้ำ น้ำมันดิน หรือแม้กระทั่งเหล้า
1
พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ (Henry VIII)
การประหารวิธีการนี้แพร่หลายไปทั่วยุโรปและเอเชีย และได้ชื่อว่าเป็นการประหารที่โหดร้ายที่สุดวิธีการหนึ่ง
สำหรับความรู้สึกของการถูกต้มทั้งเป็นนั้น ย่อมต้องทรมานมากแน่นอน
จากบันทึก ได้กล่าวว่ากระบวนการประหารนี้ใช้เวลายาวนาน โดยผู้ที่ถูกต้ม จะรู้สึกได้ว่าแขนขาของตนกำลังไหม้ เมื่อน้ำร้อนจัดสัมผัสกับร่างกาย แขนขาจะเป็นอวัยวะแรกๆ ที่เผาไหม้ โดยเฉพาะนิ้ว ซึ่งมีปลายประสาทมากกว่าอวัยวะอื่นๆ
1
ภายหลังจากที่อวัยวะภายนอกถูกเผาไหม้ไปหมดแล้ว อวัยวะภายในก็จะได้รับความร้อน ประสาทต่างๆ จะเดือดไปด้วยความร้อน
ที่แย่ที่สุดก็คือ นักโทษจะไม่ตายในทันที นักโทษต้องทนรับความทรมานจนกว่าจะเกิดอาการช็อก และหากไม่เสียชีวิตจากอาการช็อก ก็ต้องทรมานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตาย
2
โฆษณา