Blockdit Logo (Mobile)
UBE
•
22 เม.ย. 2022 เวลา 13:00 • ธุรกิจ
กระบวนการผลิตเอทานอลของ UBE
1
บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE มีโรงงานผลิตเอทานอลที่มีขีดความสามารถในการผลิตเอทานอลได้จากวัตถุดิบหลายประเภท ได้แก่ มันสำปะหลังเส้น มันสำปะหลังสด กากน้ำตาล น้ำตาลทรายดิบ และข้าว อย่างไรก็ตาม
เนื่องด้วยทำเลที่ตั้งของ UBE อยู่ในแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลัง UBE จึงใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเอทานอล โดยหลักการที่สำคัญในการผลิตเอทานอล คือ การเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลโดยใช้เอนไซม์
จากนั้นใช้ยีสต์หมักเพื่อเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นแอลกอฮอล์ในรูปน้ำหมัก ซึ่งน้ำหมักจะถูกส่งไปยังหอกลั่นเพื่อกลั่นเอทานอลให้ได้คุณสมบัติตามที่กำหนด
UBE จึงได้ออกแบบกระบวนการผลิตให้เป็นระบบปิดแบบกึ่งต่อเนื่อง (Semi-Continuous Operation) เพื่อช่วยประหยัดพลังงานและลดการสูญเสียเอทานอล
เพื่อให้สามารถผลิตเอทานอลได้ปริมาณสูงสุด โดยการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังแบ่งออกได้เป็น 5 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
1
กระบวนการผลิตเอทานอล
  • ★
    การเตรียมแป้ง
นำมันสำปะหลังเส้น และมันสำปะหลังสดบดให้เป็นผง แยกทรายและสิ่งสกปรกออก จากนั้นนำผงแป้งที่ได้ผสมกับน้ำ ได้เป็นน้ำแป้ง
  • ★
    การเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล
เติมเอนไซม์ Alpha-amylase ลงในน้ำแป้งเพื่อเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ โดยกำหนดช่วงอุณหภูมิในกระบวนการผลิตอยู่ระหว่าง 80.0 – 90.0 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงอุณหภูมิที่เอนไซม์ทำงานได้ดีที่สุด
จะทำให้ได้ผลผลิตดีที่สุด โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้น เติมเอนไซม์ Glucoamylase เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลโมเลกุลคู่ให้เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว เพื่อให้ยีสต์ใช้เป็นอาหารในการเจริญเติบโตในขั้นตอนการหมักต่อไป
1
  • ★
    การหมัก
ยีสต์ที่ถูกนำมาใช้ในกระบวนการหมักเพื่อเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์เป็นยีสต์สดและยีสต์แห้ง ซึ่งผ่านการเลี้ยงโดยเติมสารอาหาร และอากาศจนได้สภาวะที่เหมาะสมก่อนจะถูกส่งเข้าถังหมัก (Fermenters)
1
ซึ่งเป็นกระบวนการหมักแบบกึ่งต่อเนื่อง ทำให้ประหยัดปริมาณการใช้ยีสต์และได้ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์มากขึ้น โดยน้ำตาลที่ได้จากขั้นตอนที่ 2 จะถูกส่งผ่านถังหมัก 3 ถัง ถังละ 12 ชั่วโมง
ในแต่ละถังจะมีระบบน้ำหล่อเย็นเพื่อควบคุมอุณหภูมิถังหมักให้คงที่ โดยใช้เวลาในการหมักรวมทั้งสิ้น 36 ชั่วโมง เพื่อให้ยีสต์เปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์
โดยผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการนี้ คือ น้ำหมัก ซึ่งจะถูกส่งต่อไปยังถังพัก ซึ่งมีทั้งหมด 5 ถัง โดยน้ำหมักจะถูกหมักจนครบ 72 ชั่วโมงก่อนจะถูกส่งไปยังหอกลั่น
  • ★
    การกลั่น
น้ำหมักจะถูกส่งไปยังหอกลั่นที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่แยกแอลกอฮอล์ออกจากน้ำหมัก โดยการกลั่นที่อุณหภูมิ 120 - 125 องศาเซลเซียส จากนั้นจะเกิดไอแอลกอฮอล์ ซึ่งจะเคลื่อนตัวออกจากยอดหอกลั่นที่ 1 ผ่านชุดหล่อเย็น
โดยไอแอลกอฮอล์บริสุทธิ์จะควบแน่นเป็นแอลกอฮอล์เหลวจากนั้นแอลกอฮอล์เหลวจะถูกส่งต่อไปยังหอกลั่นที่ 2 และ 3 เพื่อกลั่นให้แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ร้อยละ 95.0
ทั้งนี้ UBE มีหอกลั่นทั้งหมด 4 หอ โดยหอที่ 4 มีหน้าที่ในการแยกสารเจือปนจำพวก เมทานอล (Methanol) แอลดีไฮด์ (Aldehyde) เพื่อให้แอลกอฮอล์มีความบริสุทธิ์ตามมาตรฐานเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ในกระบวนการกลั่นจะเกิดผลพลอยได้คือ น้ำกากส่า ซึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตก๊าซชีวภาพ เพื่อนำกลับมาใช้เป็นพลังงานหมุนเวียนสำหรับหม้อต้มน้ำในกระบวนการกลั่นอีกครั้ง
  • ★
    การดูดซับน้ำ
แอลกอฮอล์ที่ได้จากการกระบวนการกลั่นสำหรับเอทานอลเกรดเชื้อเพลิง จะถูกดูดซับน้ำออกที่ระบบ Dehydration เพื่อแยกน้ำออกจากแอลกอฮอล์
1
ทำให้มีความบริสุทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ร้อยละ 99.8 โดยไอระเหยของแอลกอฮอล์จะเคลื่อนผ่านหอสำหรับดูดซับน้ำ
1
ซึ่งไอระเหยของแอลกอฮอล์จะถูกควบแน่นและทำให้เย็นลง (Cool Down) จากนั้นจะถูกส่งไปยัง Day Tank และถูกส่งต่อไปยังถังเก็บเอทานอล (Storage Tank)
1
สำหรับกระบวนการผลิตเอทานอลโดยใช้กากน้ำตาล จะมีขั้นตอนที่แตกต่างจากการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังเล็กน้อย
กล่าวคือ จะต้องนำกากน้ำตาลเจือจางและปรับคุณภาพให้เหมาะสม จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการหมัก กลั่น และดูดซับน้ำออกเช่นเดียวกับการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง
ติดตามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ UBE ได้ที่
โฆษณา