รู้จักกับ Boeing 777-200LR กับฉายา “Worldliner” ผู้เคยบินจาก ฮ่องกง-ลอนดอน แบบ “ผิดทาง” ใช้เวลาบินเกือบ 1 วันเต็ม
Boeing 777 ถือเป็นหนึ่งในรุ่นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมที่สุดในประวัติศาสตร์ กับการส่งมอบทุกรุ่นย่อยนับตั้งแต่เริ่มส่งมอบในปี 1995 จนถึงปัจจุบันเกือบ 1,700 ลำ รวมถึงยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยอดคำสั่งซื้อรอส่งมอบอีกกว่า 400 ลำด้วยกัน
📌รุ่นย่อยต่างๆของ Boeing 777 รวมถึงยอดส่งมอบนับถึงปัจจุบัน มีดังนี้
- Boeing 777-200 ส่งมอบทั้งสิ้น 88 ลำ
- Boeing 777-200ER ส่งมอบทั้งสิ้น 422 ลำ
- Boeing 777-200LR ส่งมอบทั้งสิ้น 61 ลำ
- Boeing 777-300 ส่งมอบทั้งสิ้น 60 ลำ
- Boeing 777-300ER ส่งมอบทั้งสิ้น 829 ลำ
- Boeing 777F ส่งมอบทั้งสิ้น 220 ลำ
- Boeing 777X อยู่ระหว่างการพัฒนา
- Boeing 777XF อยู่ระหว่างการพัฒนา
สำหรับรุ่นย่อย Boeing 777-200LR แม้จะมีการส่งมอบไปแค่ 61 ลำ สูสีกับรุ่นย่อยที่มีการส่งมอบน้อยที่สุดอย่าง 777-300 แต่ก็มีความน่าสนใจหลายประการด้วยกันที่เราอยากจะนำมาฝากกัน
📌Boeing 777-200LR (Long Range) นั้น ผลิตมาเพื่อทำการบินในเส้นทางไกลพิเศษ มีพิสัยการบินสูงสุดที่ระบุโดยผู้ผลิตคือ 15,844 กิโลเมตร มีการออกแบบเคียงคู่มากับรุ่นย่อย 777-300ER โดยใช้เครื่องยนต์ GE90 รุ่นเดียวกัน แต่มีความยาวลำตัวเท่ากับรุ่น 777-200 และมีการเพิ่มน้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด (MTOW) และติดตั้งถังน้ำมันเพิ่มเติมบริเวณกลางลำตัว…ถ้านึกภาพง่ายๆคือ 777-200 แบบเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้นและบินได้ไกลขึ้นกว่า 50% นั่นเอง โดยคู่แข่งหลักของเครื่องบินรุ่นนี้ในช่วงนั้นคือ Airbus A340-500 แต่ Boeing มักยกความได้เปรียบจากจำนวนเครื่องยนต์ที่น้อยกว่ามาเป็นจุดแข็งในการทำตลาด
777-200LR ส่งมอบให้กับสายการบินลูกค้ารายแรกอย่าง PIA หรือ Pakistan International Airlines ในปี 2006 หรือ 11 ปีให้หลังการส่งมอบ Boeing 777 ลำแรก หลังจากนั้นมีการส่งมอบให้กับสายการบินลูกค้า 12 ราย รวม 61 ลำเท่านั้น โดย Emirates และ Delta เคยเป็นสายการบินที่มีเครื่องบินรุ่นนี้ในฝูงบินรวมมากที่สุดที่ 10 ลำด้วยกัน
Boeing 777-200LR ของ PIA ภาพจาก Wikimedia Commons/Flickr Rojersmans
แม้จะกลายเป็นของหายาก จากยอดส่งมอบที่มีน้อย แต่เครื่องบินรุ่นนี้มีฉายาว่า “Worldliner” จากพิสัยการบินที่ไกลแทบจะที่สุดในยุคนั้น จนกล่าวได้ว่า แทบจะทุกการจับคู่ระหว่าง 2 เมืองบนโลกนี้นั้น เครื่องบินลำนี้สามารถทำการบินระหว่างกันได้
เพื่อเป็นการเน้นย้ำจุดเด่นเรื่องพิสัยการบินนั้น ระหว่างการทดสอบก่อนส่งมอบ ในเดือนพฤศจิกายน 2005 Boeing ได้ทำการทดสอบที่ได้สร้างสถิติโลกขึ้นมา โดยทำการบินจากฮ่องกงสู่ลอนดอน แม้ 2 เมืองนี้จะมีเที่ยวบินตรงอยู่มากมายและใช้เวลาบินประมาณ 13 ชั่วโมง แต่ Boeing เลือกที่จะทำการบินทางทิศตะวันออกของฮ่องกง จากปกติที่เที่ยวบินทั่วไปจะใช้ทิศตะวันตก ทำให้เที่ยวบินพิเศษในครั้งนั้นมีระยะทางถึง 21,602 กิโลเมตร ใช้เวลาบินทั้งหมดประมาณ 23 ชั่วโมง ทำให้เที่ยวบินนั้นได้รับการบันทึกลงในกินเนสบุ๊คว่าเป็น “เที่ยวบินระยะทางไกลที่สุดที่ใช้เครื่องบินโดยสารทำการบิน”
เส้นทางฮ่องกง-ลอนดอน แบบ"ปกติ"
สำนักข่าว Seattle Times ที่ได้เดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ด้วยกล่าวว่า เที่ยวบินนี้มีนักบินทั้งหมด 9 คน และผู้โดยสารอื่นๆอีก 27 คน โดย Boeing จำกัดสำภาระของผู้โดยสารทุกคนให้ไม่เกินคนละ 18 กิโลกรัมเท่านั้น และ ตลอดการเดินทาง ผู้โดยสารได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นถึง 2 ครั้ง
เที่ยวบินประวัติศาสตร์
📌ปัจจุบัน Boeing ได้ยุติสายการผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ไปแล้ว มีเพียงประมาณ 40 ลำเท่านั้นที่ยังคงสถานะ “Active” อยู่ โดยสายการบินที่ยังคงมี 777-200LR ประจำการอยู่มีดังนี้
- Emirates จำนวน 10 ลำ
- Qatar Airways จำนวน 8 ลำ
- Air Canada จำนวน 6 ลำ
- Ethiopian Airlines จำนวน 6 ลำ
- Turkmenistan Airlines จำนวน 4 ลำ
- Air India จำนวน 3 ลำ
- Pakistan International Airlines จำนวน 2 ลำ
- Azerbaijan Airlines จำนวน 1 ลำ
- Iraqi Airways จำนวน 1 ลำ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
