25 เม.ย. 2022 เวลา 04:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ความหมายของเงินเฟ้อ(Inflation) เราเข้าใจกันถูกใช่ไหม?
1
ในบทความนี้ จะอธิบายถึงความหมายของ “เงินเฟ้อ” เท่านั้น จะไม่ลงลึกถึงสาเหตุและที่มาว่าเงินเฟ้อเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะว่ามีหลายปัจจัยมากที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อขึ้นได้ อาจต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจพอสมควร ในบทความนี้แค่อยากจะชวนกันมาตีความหมายของคำว่า “เงินเฟ้อ” ว่าตกลงแปลว่าอะไรกันแน่
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ให้ความหมายของคำว่า “ภาวะเงินเฟ้อ” ไว้ว่า
ภาวะเงินเฟ้อ หมายถึง ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากจะกระทบต่อฐานะและความเป็นอยู่ของประชาชน
จากแหล่งข้อมูลในหลายๆแหล่ง จะให้ความหมายของ “เงินเฟ้อ” คล้ายๆกันว่าคือ การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการ
เราลองมาตั้งคำถามกันว่า มันใช่ไหม? ถูกต้องหรือไม่?
หากลองมองเป็นสมการแบบง่ายๆ โดยจะขอยกตัวอย่างเนื้อไก่ เพราะเป็นอาหารพื้นฐานที่คนต้องรับประทานกันทุกวันอยู่แล้ว เช่น ราคาเนื้อไก่ต่อเงินบาท เท่ากับ 100 บาท แปลว่าราคาเนื้อไก่ตอนนี้คือ 100 บาท
ตัวอย่างสมการ
ตามหลักสมการแล้ว ถ้าค่าด้านบน(เนื้อไก่)เพิ่มขึ้น จะทำให้ค่าด้านขวาเพิ่มขึ้น และถ้าค่าด้านบน(เนื้อไก่)ลดลง จะทำให้ค่าด้านขวาลดลง
ในทางกลับกัน ถ้าค่าด้านล่าง(เงินบาท)เพิ่มขึ้น จะทำให้ค่าด้านขวาลดลง และถ้าค่าด้านล่าง(เงินบาท)ลดลง จะทำให้ค่าด้านขวาเพิ่มขึ้น
ดังนั้น ถ้าหากจะบอกว่า เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพราะราคาเนื้อไก่เพิ่มขึ้น อาจจะมีหลายคนที่เข้าใจได้ไม่ครบถ้วน เพราะในความเป็นจริงแล้ว เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอาจจะไม่ได้มาจากราคาไก่ที่เพิ่มขึ้นก็ได้ แต่อาจจะมาจาก มูลค่าของเงินบาทเองที่ลดลง
การจะบอกได้ว่าเงินเฟ้อสาเหตุเกิดมาจากส่วนไหน คงต้องแยกดูกันไป ยกตัวอย่างเช่น
เนื้อไก่ จะราคาเพิ่มขึ้นเพราะเกิดโรคระบาดในไก่ ทำให้ไก่ตาย เนื้อไก่ขาดตลาด จึงทำให้เนื้อไก่เป็นที่ต้องการมาก ราคาไก่จึงเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน หากโรคระบาดนั้นสามารถส่งผลเสียต่อคนที่กินเข้าไปได้ ก็จะทำให้ความต้องการลดลง ราคาลดลงได้
เงินบาท จะสามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้นั้น มาจากนโยบายทางการเงิน เช่น การพิมพ์เงินออกมาจำนวนมาก เมื่อมีปริมาณเงินมาก ก็จะทำให้ค่าของเงินลดลงไป ทำให้เกิดเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้(ข้อนี้ขอเพิ่มเติมไว้หน่อยว่าการพิมพ์เงินยังมีผลต่อเนื่องอีกหลายด้าน ในตอนนี้แค่อยากจะยกตัวอย่างคร่าวๆให้เห็นภาพง่ายๆไว้ก่อน)
จากตัวอย่าง คงพอจะเข้าใจได้แล้วว่า “การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการนั้น อาจจะมาจากสาเหตุของตัวสินค้าเอง หรืออาจจะมาจากสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าเงินก็ได้”
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงก็ต้องนำมาเปรียบเทียบกันอีกว่า อะไรเปลี่ยนแปลงมากกว่าและเร็วกว่า ก็จะส่งผลไปถึงราคาสินค้าด้วย
ตกลงแล้วความหมายของ “เงินเฟ้อ” ที่เค้าชอบบอกกัน ถูกไหม?
การบอกว่า เงินเฟ้อ คือ การที่ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นนั้น ก็ไม่ผิด แต่อาจจะไม่ครบถ้วนนัก ความจริงแล้วควรที่จะมองในด้านของมูลค่าของตัวเงินเองด้วย เราควรจะมองความหมายให้ลึกลงไปในหลายๆแง่มุม เพื่อให้เข้าใจถึงระบบของการเงินที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ และสามารถไปปรับใช้ต่อในอนาคตได้
สรุปแล้ว เงินเฟ้อคืออะไร?
ไม่ว่าใครจะอธิบายความหมายอย่างไรก็ตาม แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นแน่นอน คือ การลดลงของอำนาจในการซื้อ(Purchasing Power) ของเราทุกคน และเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอดหลายยุคหลายสมัยแล้ว
มันคือ การลดลง ของความสามารถที่เราจะซื้อสินค้าเดิม ในมูลค่าที่เท่าเดิมได้ เช่น ราคาข้าว เมื่อก่อนจานละ 20 บาท ก็อิ่มมากแล้ว ในตอนนี้ถ้าจะซื้อข้าวในราคาจานละ 20 บาท คงไม่มีใครขายกันแล้ว อย่างน้อยคงต้องจานละ 50 บาท ถึงจะพออิ่มบ้าง
การลดลงของอำนาจในการซื้อ(Purchasing Power) ยังคงมีแนวโน้มที่จะลดลงต่อเนื่องไปอีกเรื่อยๆและยังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เพราะมันมีหลายปัจจัยมากที่ต้องแก้ไขกัน
เราทุกคนควรทำอย่างไรดี?
ตอนนี้สิ่งที่เราทุกคนทำได้คงมีเพียงแค่ การออกแบบชีวิตตัวเอง การวางแผนด้านการเงิน การวางแผนการใช้ชีวิตเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวยังคงรักษาอำนาจในการซื้อ(Purchasing Power) ได้อยู่ เพื่อสู้กับเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นต่อไป.
สู้. สู้.
โฆษณา