26 เม.ย. 2022 เวลา 10:52 • ไลฟ์สไตล์
“เส้นบาง ๆ ระหว่างความฟุ้งซ่าน กับ การเจริญปัญญา”
“ … กระทบโลกภายนอกแล้วหงุดหงิด แก้ไขอย่างไร ?
พอจิตเราคุ้นเคยที่จะทำสมถะ พอมันออกไปกระทบอารมณ์ข้างนอกนะ มันจะหงุดหงิดง่าย
มันคล้าย ๆ เราอยู่ในห้องปลอดเชื้อตลอดเวลา แล้วจิตที่ติดสมาธิ ติดสมถะ มันเหมือนคนที่อยู่ในห้องปลอดเชื้อ พอออกไปกระทบเชื้อโรคนิดเดียวนะ ตายเลย
เพราะฉะนั้นเวลาเราไปกระทบอารมณ์ข้างนอก จิตใจมันวุ่นวายไปหมดเลย
ให้สังเกตให้ดีนะว่าเราติดอกติดใจในสมาธิ เราพอใจ ยินดีพอใจในความสุข ในความสงบ ในโลกส่วนตัว เราติดอยู่ในโลกส่วนตัว ดูตรงนี้เข้าไปเลย
ถ้าเราไม่ติดในโลกส่วนตัวนะ อยู่กับโลกข้างนอกนี้มันก็เหมือนกัน โลกภายในหรือโลกภายนอกก็หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงเหมือน ๆ กัน
เมื่อก่อนตอนหลวงพ่อภาวนาใหม่ ๆ ก็เป็นอย่างนี้แหละ เช้าขึ้นมาก็นั่งภาวนาไป ใจสบาย แล้วพอถึงเวลาก็ต้องออกไปยุ่งกับโลกข้างนอก ไปทำงาน ไปอะไร ยุ่งกับคน ใจไม่ชอบเลย หงุดหงิด โมโห รำคาญ
ถึงจุดหนึ่ง ก็รู้ว่า โอ้ … เพราะว่าเราติดสมาธิ เราติดในความสงบ ถ้าเราติดความสงบ พอกระทบอะไรนิดเดียว จิตใจมันทนไม่ไหวเลย เหมือนจะระเบิดเอาเลย … ทุกข์
เพราะงั้นให้รู้ทันจิต อย่าไปติดในสมาธิ อย่าไปติดความสงบ
เราทำความสงบ แล้วใจมันพอใจในความสงบ รู้ทันว่ามันพอใจ รู้ทันจิตที่มันพอใจในสมาธิ พอใจในความสงบ แล้วต่อไปมันก็จะไม่ติดในความสงบ แล้วออกมากระทบอารมณ์ข้างนอกนี้ เราจะเกิดปัญญา
ความฟุ้งซ่านของจิต กับ การเจริญปัญญา มันต่างกันนิดเดียวเอง
ถ้าจิตมันทำงาน กระทบอารมณ์ แล้วเราไม่มีสติกำกับอยู่ ตรงนี้จิตมันฟุ้งซ่าน
แต่ถ้าจิตมันกระทบอารมณ์ แต่ว่าเรายังมีสติ รู้ทันจิตใจตัวเอง เป็นกลางอยู่ ตรงนั้นคือการเจริญปัญญา
1
ฉะนั้นการเจริญปัญญา กับ ความฟุ้งซ่าน คาบเส้นกันนิดเดียว มันก้าวข้ามเส้นแคบ ๆ นิดเดียวเอง
ถ้าเราไม่มีสติเมื่อไหร่ เมื่อนั้นฟุ้งซ่าน
1
ถ้าเรากระทบอารมณ์แล้วจิตใจมันทำงานไป
แต่เรามีสติรู้เท่าทัน
ตรงนั้นคือการเจริญปัญญา … “
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
๑๐ เมษายน ๒๕๖๕
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา